บทกรวดน้ำแบบสั้น หลังใส่บาตร ขอให้ท่านได้รับผลบุญของข้าพเจ้าด้วยเทอญ
การทำบุญใส่บาตร เป็นสิ่งหนึ่งที่เราเห็นกันมาตั้งแต่ในสมัยอดีตจนถึงในปัจจุบัน และเราจะเห็นได้ว่าสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำหลังจากการทำบุญนั่นคือ “การกรวดน้ำ”
การกรวดน้ำ คือ การที่เราตั้งจิตอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เราได้ทำไว้ในครั้งนี้ ส่งผลไปให้แก่ผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว ให้กับเจ้ากรรมนายเวร พร้อมทั้งเป็นการรินน้ำให้ไหลลงไปบนพื้นดินที่ได้รองรับแล้วนำไปเทที่พื้นดินหรือรถที่โคนต้นไม้ก็ได้
การกรวดน้ำนั้นได้มีการเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ในสมัยพุทธกาล โดยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ให้คำสั่งสอนให้พระเจ้าพิมพิสาร ซึ่งได้มาทำบุญเลี้ยงพระ ทรงหลั่งทักษิโณทก (กรวดน้ำ) เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล ที่เราได้ทำไว้ให้แก่พระญาติที่ล่วงลับของพระองค์ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ในเวลาที่เราได้ทำบุญเสร็จ จึงนิยมใช้การกรวดน้ำเป็นสัญลักษณ์แทนการอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลที่เราได้ทำเอาไว้
วิธีกรวดน้ำ
1. กรวดน้ำเปียก คือ ใช้น้ำเป็นสื่อ รินน้ำลงไปพร้อมกับอุทิศผลบุญกุศลไปด้วย
2. กรวดน้ำแห้ง คือ ไม่ใช้น้ำ ใช้แต่สิบนิ้วพนมอธิษฐาน แล้วอุทิศผลบุญกุศลไปให้
และในระหว่างที่ทำการกรวดน้ำนั้น เราควรระลึกถึงผู้ที่มีคุณ หรือมีเวรกรรมต่อกัน เพื่ออุทิศผลบุญที่ได้ทำให้แก่บุคคลเหล่านั้น
กรวดน้ำเวลาไหนถึงดี
สำหรับเราที่เราควรกรวดน้ำนั้น คือ ขณะที่พระอนุโมทนา หรือหลังทำบุญเสร็จ แต่หากไม่สะดวกจะทำตอนหลังก็ได้ แต่ทำในขณะนั้นดีกว่า ด้วยเหตุผล 2 ประการ คือ
– ถ้ามีเปร ตญาติมารอรับส่วนบุญ ท่านก็ย่อมได้รับในทันที
– การรอไปกรวดที่บ้านหรือกรวดภายหลัง บางครั้งก็อาจลืมไป ผู้ที่เขาตั้งใจรับก็อด ผู้ที่เราตั้งใจจะให้ก็อดไปด้วย
บทกรวดน้ำแบบยาว
ตั้งนะโม 3 จบ
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อุปัชฌายา คุณุตตะรา
ด้วยบุญนี้ อุททิศให้ อุปัชฌาย์ ผู้เลิศคุณ
อาจะริยูปะการาจะ มาตาปิตา จะ ญาตะกา
และอาจารย์ ผู้เกื้อหนุน ทั้งพ่อแม่ และปวงญาติ
ปิยา มะมัง สุริโย จันทิมา ราชา คุณะวันตา นะราปิ จะ
สูรย์จันทร์ และราชา ผู้ทรงคุณหรือสูงชาติ
พรัหมะมารา จะ อินทา จะ โลกะปาลา จะ เทวะตา
พรหม มาร และอินทราช ทั้งทวยเทพ และโลกบาล
ยะโม มิตตา มะนุสสา จะ มัชฌัตตา เวริกาปิ จะ
ยมราช มนุษย์มิตร ผู้เป็นกลาง ผู้จองผลาญ
สัพเพ สัตตา สุขี โหนตุ ปุญญานิ ปะกะตานิ เม
ขอให้สุขศานติ์ทุกทั่วหน้า อย่าทุกข์ทน บุญผองที่ข้าทำจงอำนวยศุภผล
สุขัง จะ ติวิธัง เทนตุ ขิปปัง ปาเปถะ โว มะตัง
ให้สุขสามอย่างล้น ให้ลุถึงนิพพานพลัน
อิมินา ปุญญะกัมเมนะ อิมินา อุททิเสนะ จะ
ด้วยบุญนี้ที่เราทำ และอุทิศให้ปวงสัตว์
ขิปปังหัง สุละเภ เจวะ ตัณหุปาทานะเฉทะนัง
เราพลันได้ ซึ่งการตัด ตัวตัณหา อุปาทาน
เย สันตาเน หินา ธัมมา ยาวะ นิพพานะโต มะมัง
สิ่งชั่วในดวงใจ กว่าเราจะถึงนิพพาน
นัสสันตุ สัพพะทา เยวะ ยัตถะ ชาโต ภะเว ภะเว
มลายสิ้นจากสันดาน ทุก ๆ ภพ ที่เราเกิด
อุชุจิตตัง สะติปัญญา สัลเลโข วิริยัมหินา
มีจิตตรง และสติปัญญาอันประเสริฐ พร้อมทั้งความเพียรเลิศเป็นเครื่องขูดกิเลสหาย
มารา ละภันตะ โนกาสัง กาตุญจะ วิริเยสุ เม
โอกาส อย่าพึงมี แก่หมูมารทั้งสิ้นทั้งหลาย เป็นช่อง ประทุษร้ายทำลายล้างความเพียรจม
พุทธาทิปะวะโร นาโถธัมโม นาโถ วะรุตตะโม
พระพุทธผู้วรนาถ พระธรรมที่พึ่งอุดม
นาโถ ปัจเจกะพุทโธ จะ สังโฆ นาโถตตะโร มะมัง
พระปัจเจกะพุทะสมทบ พระสงฆ์ ที่ผึ่งพยอง
เตโสตตะมานุภาเวนะ มาโรกาสัง ละภันตุ มา
ด้วยอานุภาพนั้น อย่าเปิดโอกาสให้แก่มาร (เทอญ)
บทกรวดน้ำแบบสั้น
อิทัง เม ญาตีนัง โหตุ สุขิตา โหนตุ ญาตะโย
ขอบุญนี้ จงสำเร็จแก่ญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าเถิด ขอญาติทั้งหลายของข้าพเจ้าจงมีความสุข สุขใจเถิดฯ
บทกรวดน้ำให้เจ้ากรรมนายเวร
ข้าพเจ้าขออุทิศบุญกุศลจากการเจริญภาวนานี้ให้แก่เจ้าก ร ร มนายเวรทั้งหลายของ ข้าพเจ้า ที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกินท่านไว้ ตั้งแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติ ท่านจะอยู่ภพใดหรือภูมิใดก็ตาม ขอให้ท่านได้รับผลบุญนี้ แล้วโปรดอโหสิก ร ร ม และอนุโมทนาบุญแก่ข้าพเจ้าด้วยอำนาจบุญนี้ด้วยเทอญ
ขอบคุณข้อมูลจาก : chababaanna , dhammajak , kaentong , dhamma , kapook