หนุ่มใต้เลิกเป็นลูกจ้าง เพื่อเลี้ยงสิ่งนี้ในขวดโหล ฟันรายได้ 500,000 บาทต่อเดือน!!!

0

หนุ่มใต้เลิกเป็นลูกจ้าง เพื่อเลี้ยงสิ่งนี้ในขวดโหล ฟันรายได้ 500,000 บาทต่อเดือน!!!

การเป็นนายตัวเอง ไม่ต้องเป็นลูกจ้างใครคงจะเป็นความฝันของหลาย ๆคน แต่ก็คงมีอีกไม่น้อยที่ลังเลใจที่จะไล่ตามฝัน ในการเป็นเจ้าของกิจการ หรือยังคงเป็นลูกจ้าง มนุษย์เงินเดือน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด คุณสมชาย ที่ตัดสินใจ ลาออกจากการเป็นลูกจ้าง เพื่อมาเป็นเจ้าของกิจการ สร้างรายได้ให้เขาถึงเดือนละ 5 แสนบาทต่อเดือน มาดูแนวคิดและวิธีการดำธุรกิจของเขากัน

เดิมทีที่บ้าน ทำสวนยางพารา 100 ไร่ คุณชาย ปรึกษากับครอบครัว ตัดทิ้ง ให้เหลือเพียง 50 ไร่ เนื่องจากราคายางพาราขึ้นเร็ว ลงเร็ว อยู่บนพื้นฐานความไม่แน่นอน จากนั้นพลิกผืนดิน 50 ไร่นี้

คุณชาย บอกว่า “เริ่มต้นมาจากการที่ผมมองว่า กระแสสุขภาพมาแรง ผมก็เข้าไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ท ว่าเราควรทำตัวไหนดี ดูไปดูมา ผมมาจบที่ เห็ดถั่งเช่า ซึ่งที่ผ่านมามีงานวิจัย รองรับค่อนข้างมากและชัดเจนจากนั้น ผมไปซื้อน้ำเชื้อมาชุดแรก นำมาขยายพันธุ์เอง ทั้งนี้ผมมีความรู้ด้านโรคพืชอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้จึงไม่มีปัญหา”

น้ำเชื้อถั่งเช่า ชุดแรก ถูกขยายพันธุ์และเก็บเชื้อ โดยใน 3 เดือน จะเก็บได้ 1 รุ่น ซึ่งคุณชาย ได้อธิบายเพิ่มเติมในส่วนของเชื้อเห็ดถั่งเช่าว่า “ถั่งเช่า มันเป็นเห็ด เห็ดตัวนี้จริงๆ เกิดจากตัวหนอน ที่มีอยู่มาก แถวทิเบต หรือหรือที่ ภูฏาน คือเริ่มต้น หนอนตัวนี้ ช่วงหนาว มันจะมีการพักตัว ช่วงพักตัวนี้เองที่จะมี เชื้อราชนิดหนึ่ง เข้าไปโจมตีตัวหนอน ด้วยการไปเจริญเติบโตและดูดสารอาหารจากตัวหนอน จนเชื้อราเดินเต็ม เมื่ออากาศอุ่นขึ้น เชื้อราตัวนี้ที่ว่าก็เริ่มแทงดอก ออกเป็นเห็ดขึ้นมา ที่เราเรียกว่า เห็ดถั่งเช่านี้เอง”

นายสมชาย เชี่ยวชาญศิลป์ หรือคุณชาย วัย 45 ปี บัณฑิตสาขาวิชาโรคพืช คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยนายสมชายลาออกจากตำแหน่งพนักงานส่งเสริมการขายเคมีเกษตร หลังจากจบปริญญาตรีและทำงานเป็นพนักงานส่งเสริมการขายเคมีเกษตร ในบริษัทเอกชน โดยทำงานได้เพียง 8 ปี ก็ตัดสินใจกลับบ้านเกิด ที่ อ.เบตง จ.ยะลา

นายสมชาย บอกว่า “เริ่มต้นมาจากการที่ผมมองว่า กระแสสุขภาพขณะนี้มาแรง ผมก็เข้าไปค้นข้อมูลในอินเตอร์เน็ต ว่าเราควรทำตัวแบบไหนดี ดูไปดูมา ผมมาจบที่เห็ดถั่งเช่า ซึ่งที่ผ่านมามีงานวิจัย รองรับค่อนข้างมากและชัดเจน จากนั้น ผมไปซื้อน้ำเชื้อมาชุดแรก นำมาขยายพันธุ์เอง ทั้งนี้ผมมีความรู้ด้านโรคพืชอยู่แล้ว ขั้นตอนนี้จึงไม่มีปัญหา ประกอบกับ ด้วยภูมิประเทศของอำเภอเบตงส่วนใหญ่เป็นภูเขาสูงจึงทำให้อำเภอเบตงมีอากาศดี เหมาะที่จะมาเริ่มต้นการเพาะเห็ดถั่งเช่า”

เริ่มต้นโดยการนำน้ำเชื้อถั่งเช่า ชุดแรกมาขยายพันธุ์และเก็บเชื้อ โดยในระยะ 3 เดือน จะเก็บได้ 1 รุ่น ในส่วนของเชื้อเห็ดถั่งเช่านั่น 「ถั่งเช่า มันเป็นเห็ด เห็ดตัวนี้จริงๆ แล้ว เกิดจากตัวหนอน ที่มีอยู่มากแถวทิเบตหรือหรือที่ภูฏาน

คือเริ่มต้นหนอนตัวนี้ ช่วงหนาวมันจะมีการฟักตัว ช่วงฟักตัวนี้เองที่จะมีเชื้อราชนิดหนึ่ง เข้าไปโจมตีตัวหนอน ด้วยการไปเจริญเติบโตและดูดสารอาหารจากตัวหนอน จนเชื้อราเดินเต็ม เมื่ออากาศอุ่นขึ้น เชื้อราตัวนี้ที่ว่าก็เริ่มแทงดอก ออกเป็นเห็ดขึ้นมา ที่เราเรียกว่าเห็ดถั่งเช่านั่นเอง

นายสมชาย กล่าวอีกว่า เชื้อราที่ว่านี้ มีหลายสายพันธุ์ ถ้าเป็นของดีหายาก กิโลกรัมละเป็นล้านบาทที่มีการซื้อขายกันที่เมืองจีนกันทีเดียว แต่ที่ตนทำอยู่นี้ก็เป็นสายพันธุ์ใกล้เคียง ที่มีสารออกฤทธิ์คล้ายกัน ซึ่งการทำในห้องปฏิบัติการ ก็สามารถควบคุมเรื่องธาตุอาหาร ให้ได้ผลดีกว่า

การเลี้ยงเชื้อรา ในห้องปฏิบัติการ เลี้ยงบนอาหารแข็ง (ที่ทำขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องใช้หนอนแบบในธรรมชาติ) เมื่อเส้นใยเดินเต็ม แล้วแทงเป็นดอกได้ดอกออกมา ก็นำไปอบแห้ง ทำเป็นชาถั่งเช่า ซึ่งจริงๆแล้วนำไปใช้ได้ในหลายอุตสาหกรรม เช่นเครื่องสำอาง โดยตนมีโครงการนำไปผสมในอาหารไก่ เพื่อลดการใช้สารปฏิชีวนะไก่

“ในส่วนของผม เรารวมตัวกันเป็นวิสาหกิจชุมชน กลุ่มบ้านเห็ดเบตง มีสมาชิก 17 คน ซึ่งกลุ่มเราจัดเป็นกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง จนได้รับคัดเลือกเป็น 1 ใน 2 กลุ่ม ของทั้งจังหวัดยะลา ทางภาครัฐโดยสํานักงานเกษตรจังหวัดยะลา และสํานักงานเกษตรอำเภอเบตง ได้เข้ามาส่งเสริมในเรื่ององค์ความรู้ใหม่ๆ และการบรรจุภัณฑ์ โดยตอนนี้เราทำเป็นในรูปแบบของชาและมีขายเป็นแคปซูล เป็นอาหารเสริม และทำเป็นชา เราใช้เห็ดราว 3-4 เส้น ต่อซอง ขายซองละ 50 บาท บรรจุกล่องละ 10 ซองราคา 500 บาท

ส่วนแคปซูล ใน 1 กระปุกมี 60 แคปซูล ราคา 1500 บาท ทั้งนี้ ผมตั้งเป้าหมายว่า เราจะมีสินค้าทำนองนี้ขายลูกค้าต่างชาติ ไม่ว่าจะมาจากสิงคโปร์ หรือมาเลเซีย ที่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเหล่านี้ได้เข้ามาเที่ยวที่อ.เบตงเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาล และวันหยุดสุดสัปดาห์ หากเราทำได้ ต่อยอดขึ้นไปเรื่อยๆ ต่อไปเราจะเหมือนเกาหลี หรือจีน ที่มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวและต้องซื้อโสม หรือบัวหิมะกลับไป” นายสมชาย กล่าว

สำหรับกำลังการผลิตต่อเดือนในช่วงนี้ นายชาย บอกว่า ทางกลุ่มสามารถผลิตดอกแห้งได้ราว 1.5 กิโลกรัม และแบบผงอีกราว 10 กิโลกรัม ซึ่งหากขายหมดจะมียอดรายได้ราว 5 แสนบาทต่อเดือนสำหรับใครที่สนใจง

หวังว่าบทความนี้จะสร้างแรงบันดาลใจ ให้กับใครหลาย ๆ คนที่อยากเริ่มต้นธุรกิจ อาจไม่จำเป็นต้องลาออกมาจากงานประจำก็ได้ เพียงเห็นลู่ทางในการทำรายได้เสริมและประโยชน์ไม่มากก็น้อย

ขอขอบคุณ : roongee

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่