เทคนิคขับรถขึ้นเขา ลงเขา ได้นำไปใช้อย่างแน่นอน

0

เทคนิคขับรถขึ้นเขา ลงเขา ได้นำไปใช้อย่างแน่นอน

การขับรถคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครหลายๆคน การขับรถสำหรับในชีวิตประจำวันของคนเรานั้น ขับในตัวเมือง นอกเมือง น้อยครั้งที่เราจะขับขึ้นเขาลงเขา ซึ่งในวันนี้เราได้มีเทคนิคในการขับรถสำหรับการขึ้นเขาลงเขาให้ปลอดภัย ไม่เป็นอัน ต ร าย รู้ว่าไว้เพราะตัวคุณได้นำไปใช้อย่างแน่นอน

หลักการขับรถขึ้นเขา

1 ก่อนอ่นนั้นให้เราดูที่เส้นทางที่เราจะเดินทางก่อนว่ามีความชันว่ามากหรือน้อย ให้ใช้เกียร์ D2-D1 ขึ้นอยู่กับความชัน และเมื่อรถอยู่ในทางราบให้เปลี่ยนไปใช้เกียร์ D

2 ให้เเราทำการเหยียบคันเร่งตามจังหวะและระดับของความชัน พยายามให้รอบเครื่องอยู่ประมาณ 2000-3500 ควบคุมไม่ให้เกิน 4500

3 ความเร็วที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการขับรถอยู่บนเขานั่นคือ 50-80 กิโลเมตรต่อ ชม. ไม่ควรใช้ระดับความเร็วที่มากกว่านี้ หากมีรถแซง ก็ขับชิดซ้ายไว้ ให้เขาไปก่อนเลย ส่วนตัวเรานั้นไม่ต้องรีบ เพื่อความปลอดภัยของตัวเรา

4 การเว้นระยะห่ างระหว่างคันข้างหน้า ควรเว้นที่ประมาณ 30-50 เมตร เผื่อเกิดเหตุฉุก เ ฉิ น เช่น เบรกกระทันหัน หรือรถดั บกลางทาง เป็นต้น

5 หากระยะทางโค้งรูปตัว s เป็นระยะทางต่อเนื่อง ต้องมองเส้นทางแบบไกลๆ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีรถสวนมาแน่นอน จากนั้นให้ถอนคันเร่ง แล้ว เ สี ย บตัดโค้งให้แนวทางการขับขี่เป็นเส้นตรงมากที่สุด

6 ถ้าเจอทางโค้งที่มีความแคบและมีสันเขาบังสายตา ให้เข้าโค้งแบบธรรมดา และให้เราทำการบีบแตรส่งสัญญาณเพื่อให้รถคันอื่นทราบว่ามีรถกำลังสวนทางเรามา

หลักการขับรถลงเขา

1 ในเวลาที่เราจะขับรถลงเขานั้น ห้ามใส่เกียร์ว่าง “N” เด็ดขาด เพราะรถจะไหลลงด้วยความเร็วสูง แต่ควรใช้เกียร์ D และให้ตัวเรานั้นควบคุมความเร็วของรถให้สัมพันธ์กับเกียร์ไว้ตลอด

2 โดยวิธีการเบรกเวลาจะลงเขา ให้เราทำการแตะเบรกเบาๆ เป็นช่วงๆไป เพื่อที่จะให้ตัวรถค่อยๆที่จะชะลอความเร็วลง ไม่ค้างเบรกไว้ระยะนานๆ เพราะจะทำให้ผ้าเบรกไ ห ม้ หรืออาจจะ เบรกแ ต กได้ในระหว่างทาง

3 ให้ดูช่วงของขาลงหากไม่จำเป็นไม่ควรเหยีย บคันเร่ง ปล่อยให้รถไหลลงมาเองด้วยการใช้เกียร์ D/D1-2 จะเป็นวิธีที่ปลอดภัยที่สุด

4 หากเจอช่วงโค้งหักศอกแล้วลาดลง ให้แตะเบรกและผ่อนความเร็วลงมาที่ 40-50 กิโลเมตรต่อ ชม.

5 การขับรถลงเขานั้นทางที่ดีไม่ควรแซงรถในช่วงทางลาดชัน โดยเฉพาะรถบรรทุกหนัก เพราะรถพวกนี้จะมีอัตราเร่งสูงกว่ารถทั่วไป

เพื่อความปลอดภัยสำหรับการขับขี่ของทุกๆท่าน ควรที่จะตรวจสอบสภาพรถยนต์ รวมถึงเส้นทางการขับรถระหว่างทาง จะต้องเจอกับสภาพเส้นทางอย่างไร เพื่อที่จะเตรียมรับมือและเตรียมพร้อมสำหรับการเดินทาง ไม่ควรประมาทในการขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของตนเองและเพื่อนร่วมทาง

ขอบคุณข้อมูลจาก : tumjaipost

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่