อาจารย์เภสัช พบสารออกฤทธิ์ต้านมะเร็ง โดยใช้พืชสมุนไพรนี้

0

อาจารย์เภสัช พบสารออกฤทธิ์ต้านมะเร็ง โดยใช้พืชสมุนไพรนี้

อาจารย์คณะเภสัช ม.อ. วิจัยผักพื้นบ้านไทย พบสารชนิดใหม่ที่ออกฤทธิ์ต้านมะเร็ง จากใบชะมวงเป็นครั้งแรกในโลก ซึ่งจะเป็นสารต้นแบบที่สามารถนำไปพัฒนาโครงสร้างสู่ยาต้านมะเร็งในอนาคต ทึ่งภูมิปัญญาไทย “หมูต้มชะมวง” เพราะศึกษาพบว่าสารดังกล่าวที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็งละลายได้ดีในน้ำมัน

รองศาสตราจารย์ ดร.ภก.ภาคภูมิ พาณิชยูปการนันท์ อาจารย์และผู้อำนวยการสถานวิจัยยาสมุนไพรและเทคโนโลยีชีวภาพทางเภสัชกรรม คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับนายอภิรักษ์ สกุลปักษ์ นักศึกษาทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก ภาควิชาเภสัชเวทและเภสัชพฤกษศาสตร์ ศึกษาวิจัยคุณสมบัติในการมีฤทธิ์ต้านมะเร็งของพืชผักพื้นบ้านที่นำมาประกอบอาหารโดยเฉพาะผักพื้นบ้านภาคใต้ และสามารถแยกสารต้านมะเร็งและต้านแบคทีเรียก่อโรคทางเดินอาหารจาก “ใบชะมวง” ได้สำเร็จเป็นครั้งแรกของโลก โดยทำการศึกษาต้นคว้าอยู่เป็นเวลา 2 ปี ผลงานได้รับการตีพิมพ์ในวารสารนานาชาติ Food Chemistry ซึ่งเป็นวารสารที่ได้รับความเชื่อถือและยอมรับอย่างมากในวงวิชาการ

ผลจากความสำเร็จในการค้นคว้าครั้งนี้ คือ การได้โครงสร้างใหม่ของสารที่มีฤทธิ์ต้านมะเร็ง เพื่อจะได้มีการดัดแปลงพัฒนาเป็นยาต้านมะเร็งที่ออกฤทธิ์ดีขึ้น และลดอาการข้างเคียงต่อเซลล์ปกติ และพบว่า การที่สังคมไทยใช้ใบชะมวงมาประกอบอาหารแสดงให้เห็นว่าเป็นพืชที่ปลอดภัย และอาจจะมีส่วนในการช่วยป้องกันการเกิดโรคกระเพาะอาหารและมะเร็งได้ในระดับหนึ่ง ส่วนการที่คนไทยรู้จักนำใบชะมวงมาต้มกับหมูนับเป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่ดีเลิศ เพราะพบว่าสารชะมวงโอนสามารถละลายในไขมันได้ดีกว่าละลายในน้ำธรรมดา

“แต่ในปัจจุบันคนไทยยังเข้าใจผิดคิดว่าการใช้สมุนไพรไม่มีอันตราย สมุนไพรบางตัวมีสารที่ทั้งให้ประโยชน์และสารที่ให้โทษต่อร่างกาย แม้แต่สมุนไพรที่ใช้เป็นพืชอาหารบางชนิดก็ตาม ถ้าใช้ไม่ถูกต้อง การใช้ผิดวัตถุประสงค์ ผิดวิธี ผิดขนาด อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายได้ โดยเฉพาะอันตรายต่อตับและไต จากการที่ตับและไตต้องทำงานหนัก เพราะการกินสมุนไพรเข้าไปร่างกาย ร่างกายต้องกำจัดสารส่วนเกินความจำเป็นออกจากร่างกาย ผู้ป่วยบางคนใช้ทั้งยาแผนปัจจุบันควบคู่ไปกับการใช้สมุนไพรด้วย ดังนั้น ต้องมีการสร้างความเข้าใจในเรื่องนี้กับประชาชนมากขึ้น” ผู้อำนวยการสถานวิจัยยาสมุนไพรและเทคโนโลยีชีวภาพทางเภสัชกรรม กล่าว

สรรพคุณของชะมวง

1. ช่วยฟอกโลหิต (ผลอ่อน, ใบ) แก้โลหิต (ใบ)

2. ช่วยรักษาธาตุพิการ (ผล,ใบ,ดอก)

3. ราก ใบ และผลอ่อนมีรสเปรี้ยว เป็นยาแก้ไข้ แก้ไข้ตัวร้อน (ผลอ่อน, ใบ, ดอก, ราก)

4. ช่วยถอนพิษไข้ (ราก)

5. ช่วยแก้อาการร้อนในกระหายน้ำ (ราก)

6. ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ (ผล, ใบ)

7. ช่วยแก้อาการไอ (ผล, ใบ) บ้างก็ว่าเนื้อไม้ช่วยแก้อาการไอได้เช่นกัน (เนื้อไม้)

8. ช่วยแก้เสมหะ กัดเสมหะ กัดฟอกเสมหะ (ผลอ่อน, ใบ, ดอก, ราก) เสมหะเป็นพิษ (ราก)[4] ช่วยขับเสมหะ (เนื้อไม้)

9. ใช้เป็นยาระบายท้อง (ผลอ่อน, ใบ, ดอก) ส่วนตำยาพื้นบ้านอีสานจะใช้รากชะมวง ผสมกับรากกำแพงเจ็ดชั้น รากตูมกาขาว และรากปอด่อน นำมาต้มกับน้ำดื่มเป็นยาระบาย (ราก) บ้างก็ว่าเนื้อไม้มีสรรพคุณเป็นยาระบายเช่นกัน (เนื้อไม้)

10. ช่วยในการย่อยอาหาร (ดอก)

11. รากช่วยแก้บิด (ราก) หรือจะใช้ผลนำมาหั่นเป็นแว่นตากแห้ง ใช้ดินเป็นยาแก้บิดก็ได้เช่นกัน (ผล)

12. ใบชะมวงใช้ผสมกับยาชนิดอื่น ๆ ใช้ปรุงเป็นยาขับเลือดเสีย (ใบ)

13. ช่วยขับโลหิตระดูของสตรี (ใบ)

14. ช่วยแก้ดีพิการ (ดอก)

15. แก่นใช้ฝนหรือแช่กับน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการเหน็บชา (แก่น)

เมื่อไม่นานมานี้ (ก.พ. 56) ได้มีการค้นพบสารชนิดใหม่จากใบชะมวง และได้มีการตั้งชื่อว่า “ชะมวงโอน” (Chamuangone) ซึ่งสารดังกล่าวมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งได้ดี (ทดสอบกับเซลล์มะเร็งปอดและเซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว) ช่วยต้านเชื้อแบคทีเรียที่ก่อโรคทางเดินอาหาร (เชื้อ Helicobacter pylori) ช่วยยับยั้งเชื้อโพรโทซัว Leishmania major (เป็นโรคระบาดที่เคยพบในภาคใต้) ได้เป็นอย่างดี

ขอขอบคุณ : psu

เรียบเรียงโดย : Postsod

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่