อ่านเถอะ..! ประโยชน์ ของการไม่อาบน้ำ นักวิจัยบอกว่าพวกเราทำถูกแล้ว!!
ในเรื่องของวิทยาศาสตร์ ดร. Casey Carlos ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านโรคผิวหนัง จากมหาวิทยาลัยทางการแพทย์ ซานดิเอโก แคลิฟอร์เนียบอกเราว่าการอาบน้ำทุกวันและอาบครั้งละนาน ๆ ไม่ได้ดีกับร่างกายเลย แถมการฟอกสบู่ทั่วทั้งตัวก็ไม่ดีกับผิวหนังด้วย
Carlos บอกว่าปกติผิวหนังของเราสามารถทำความสะอาดตัวเองได้อยู่แล้ว ส่วนสบู่ที่เราใช้กันอยู่ทุกวันเพราะเชื่อว่ามันช่วยให้ร่างกายสะอาดขึ้น ที่จริงมันเป็นตัวทำลายน้ำมันในชั้นผิวหนังของเรา
ยังไม่จบเพียงเท่านั้นเพราะ ดร. Joshua Zeichner แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังในนิวยอร์คยืนยันว่ามนุษย์อาบน้ำเพราะสังคมและวัฒนธรรมบอกให้อาบมากกว่า เพราะการอาบน้ำทุกวันไม่ได้ทำให้ร่างกายสะอาดขนาดนั้น
แต่การอาบน้ำทุกวันจะทำให้ผิวหนังระคายเคือง แถมสบู่ยังทำลายแบคทีเรียดี ๆ ที่มีไว้ปกป้องผิวของเราโดยธรรมชาติไปอีกด้วย ยิ่งถ้าเราอาบน้ำนานและบ่อยก็จะยิ่งเป็นสาเหตุทำให้ผิวแห้งแตก ซึ่งนั่นแหละยิ่งทำให้ผิวหนังเราเปิดทางให้เชื้อโรคเข้าไปสู่ร่างกายและเกิดการติดเชื้อได้มากกว่าเดิม
นิตยสาร The Atlantic ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 562 คน (ในสหรัฐอเมริกา) พบว่าผู้ชายส่วนใหญ่อาบน้ำอาทิตย์ละ 7 ครั้ง ในขณะที่ผู้หญิงส่วนใหญ่อาบน้ำอาทิตย์ละ 3 ครั้ง แต่ถ้าเป็นคนไทยอาบน้ำวันละ 2 ครั้ง ก็เท่ากับว่าทุกคนจะอาบน้ำอาทิตย์ละ 14 ครั้ง ชนะขาดคนในสหรัฐฯแน่นอน เพราะฉะนั้นมนุษย์ผู้ขี้เกียจอาบน้ำก็อย่าเขินอายไปเลย จากผลสำรวจก็เห็นแล้วใช่มั้ยว่าเขาไม่ได้อาบน้ำทุกวัน วันละ 2-3 รอบขนาดนั้น
อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่านี่จะเป็นชัยชนะของมนุษย์ผู้ขี้เกียจอาบน้ำล่ะ เพราะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังแนะนำว่าถ้าเราไปออกกำลังกายทุกวัน หรือทำงานที่เกี่ยวข้องกับสารเคมีเราก็ควรอาบน้ำทุกวัน แต่สำหรับคนธรรมดาอาบวันเว้นวันหรือสามวันหนึ่งครั้งก็พอแล้ว
ถ้าใจมันรักในการอาบน้ำ ประกอบกับอากาศบ้านเรามันร้อนมาก และกลิ่นตัวเราก็แรงจริง ๆ คุณหมอบอกว่าอาบน้ำชำระล้างเหงื่อได้ แต่อย่าฟอกสบู่ทั่วตัวทุกครั้ง ให้ใช้สบู่กับเฉพาะหน้า ใต้วงแขน ระหว่างขา และก้นก็พอ พื้นที่อื่น ๆ นอกจากนี้มันบอบบางมากเกินกว่าจะโดนฟอกด้วยสบู่บ่อย ๆ ที่สำคัญที่สุดห้ามอาบน้ำนานเกินไปอาบไม่เกิน 10 นาทีได้จะดีมาก
แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะได้รับรู้ข้อมูลจากการวิจัยนี้ บนโลกที่แสนกว้างใหญ่ยังมีชายคนหนึ่งที่ “ไม่เคยอาบน้ำเลย” เป็นเวลานานกว่า 60 ปี บอกได้คำเดียวเลยว่า ห้ามลอกเลียนแบบเป็นอันขาด เราตามไปดูกันเลยดีกว่า ว่าสภาพของชายผู้ไม่อาบน้ำมากว่า 60 ปี จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลย
ถึงแม้จะฟังดูเหลือเชื่อ แต่ Amou Hadji ชาวอิหร่านวัย 80 ปีนี่ล่ะคือชายผู้ครองสถิติ “คนที่ไม่อาบน้ำนานที่สุดในโลก” และคว่ำชาวอินเดีย Kailash Singh ที่ไม่ได้อาบน้ำมานาน 38 ปี แต่แม้หลายคนอาจจะมองว่านี่เป็นเพียงเรื่องบ้าๆ ทว่าแท้จริงแล้วมันมีเหตุผลที่แสนปวดใจซ่อนอยู่เบื้องหลังการกระทำสุดพิลึก…
โดยคุณปู่ Amou Hadji ถือเป็นคนที่โดดเดี่ยวมากคนหนึ่งของโลก และนักข่าวจาก Tehran Times ที่ได้ไปสัมภาษณ์ระบุว่า คุณปู่ท่านนี้เคยเจอโศกนาฏกรรมในวัยเด็กที่ทำให้เขาเกลียดชีวิตในเมืองเข้ากระดูกดำ จากนั้นเขาจึงละทิ้งมันมาและตั้งใจว่าจะดำรงอยู่คู่ธรรมชาติและผืนดิน
ตลอด 60 ปีที่ผ่านมา (เลิกอาบน้ำตั้งแต่ปี 1954) เขาปฏิเสธคนจากหมู่บ้าน Dezhgah ที่จะพาตนไปอาบน้ำ เขาไม่ร้องขอสิ่งใดและและกินซากเม่นเป็นอาหาร ส่วนยามเครียดก็มักจะเอามูลสัตว์ยัดใส่ ไปป์เหล็กที่เป็นสมบัติเพียงชิ้นเดียว จากนั้นก็ดูดมันอย่างโดดเดี่ยว ก่อนจะพ่นควันแห่งความเศร้าออกมาในสายลม
ซึ่งแม้จะจริงอยู่ที่ภายนอกของคุณปู่อาจจะดูซกมก แต่หมีขาวเชื่อว่าหัวใจของเค้าไม่ได้สกปรกแม้แต่นิดเดียว เพราะชายผู้นี้ไม่เคยคิดเบียดเบียนชีวิตใคร และบางทีก็ชวนให้รู้สึกว่า แม้เราจะอยู่ในเมืองใหญ่ แต่ทำไมจิตใจกลับว่างเปล่าและว้าเหว่ยิ่งกว่าคุณปู่ท่านนี้เสียอีก…
ขอขอบคุณ : roongee