15 เรื่องควรรู้ ความรู้พื้นฐาน ที่วันหนึ่งคุณ “ช่วยชีวิต” คนอื่นได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน!

0

15 เรื่องควรรู้ ความรู้พื้นฐาน ที่วันหนึ่งคุณ “ช่วยชีวิต” คนอื่นได้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน!

1. ความแตกต่างของงูพิษและไม่มีพิษ ลายที่แตกต่างบริเวณใต้หาง รูม่านตาของงูพิษส่วนใหญ่จะเหมือนแมว ส่วนหัวและคอของงูพิษจะแตกต่างกันอย่างชัดเจนเมื่อมองจากด้านบน

2. อย่าใช้โทรศัพท์ขณะเดิน เพราะการใช้โทรศัพท์จะทำให้เราไม่มีสมาธิมากพอที่จะได้ยินเสียงหรือมองเห็นอันตรายที่เกิดขึ้นรอบตัว

3. การปรับกระจกมองหลังและกระจกมองข้าง ต้องปรับให้มองเห็นรถคันอื่นๆ เต็มบาน ไม่จำเป็นต้องมองเห็นด้านข้างหรือท้ายรถของเราเอง

4. อย่าเป่าลมเสื้อชูชีพก่อนออกจากเครื่องบิน เพราะเสื้อที่เต็มไปด้วยลมจะทำให้ตัวของเราลอยขึ้นไปติดบนเพดานหรือใต้ท้องเครื่อง

5. วิธีช่วยคนที่เศษอาหารติดคอ กำมือข้างหนึ่งให้แน่น เอามืออีกข้างประคองไว้ แล้วกดเข้าไปเหนือสะดือของผู้ป่วยแรงๆ

6. พกยาแก้แพ้ (ยาต้านฮีสตามีน) ติดตัวไปด้วยเสมอเมื่อต้องเดินทางไกล

7. คนเราสามารถขาดอากาศได้แค่ 3 นาที ขาดน้ำได้ 3 วัน และขาดอาหารได้นาน 3 สัปดาห์

8. วิธีดับไฟที่ดีที่สุดก็คือการป้องกันไม่ให้ไฟเจอกับออกซิเจน

9. ถ้าโดนมีดหรอของมีคมปัก ห้ามดึงออกด้วยตนเองเด็ดขาด เพราะอาจพลาดไปโดนจุดสำคัญหรือทำให้เลือดไหลไม่หยุดได้

10. ช่วงเวลาที่เราต้องตื่นตัวและเตรียมพร้อมอยู่เสมอเมื่อขึ้นเครื่องบินก็คือ 3 นาทีหลังเครื่อง takeoff และ 8 นาทีก่อน landing

11. ถ้าเกิดเพลิงไหม้ให้หมอบลงกับพื้นเพราะควันจะลอยอยู่ในที่สูง

12. ถ้าต้องการความช่วยเหลือขณะอยู่ในที่ชุมชน ควรขอความช่วยเหลือจากคนคนเดียว เพราะยิ่งมีคนมารุมมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตัดสินใจได้ช้าและวุ่นวายมากขึ้นเท่านั้น

13. พกไฟฉายติดตัว ถ้าต้องเดินไปในที่เปลี่ยวเพียงลำพังควรพกไฟฉายสว่างๆ ติดตัวเสมอ เพราะการฉายไฟไปที่ใบหน้าของผู้ไม่ประสงค์ดีจะทำให้เกิดความตกใจและช่วยให้เรามีเวลาหลบหนี

14. เตรียมพร้อมก่อนเกิดเหตุ คนเรามักตกใจจนทำอะไรไม่ถูกเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น ดังนั้นเมื่อเข้าไปในอาคารสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเราควรสังเกตทางหนีไฟหรือทางออกฉุกเฉินไว้ก่อนเสมอ และถ้าเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ เราก็จะสามารถเอาตัวรอดได้

15. พกเอกสารสำคัญติดตัว ไม่ว่าจะไปที่ไหนไม่ว่าใกล้หรือไกลก็ควรพกเอกสารที่บอกให้ผู้อื่นรู้ได้ว่าเราเป็นใคร มาจากไหน และถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นจะสามารถติดต่อกับครอบครัวได้อย่างไร

เป็นยังไงกันบ้าง กับสาระประโยชน์ในบทความนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์นะ แชร์เก็บไว้อ่านได้เลยครับ

อ้างอิง : brightside

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่