บอกสูตรขนมกล้วย เนื้อนุ่มหนึบหนับ หอมอร่อย บอกทุกขั้นตอน

บอกสูตรขนมกล้วย เนื้อนุ่มหนึบหนับ หอมอร่อย บอกทุกขั้นตอน

ขนมกล้วยขนมโบราณที่มีเนื้อที่นุ่ม มีความนุ่มหนึบหนับมีความหอมอร่อยของเนื้อกล้วย ของมะพร้าวและกะทิข้น ที่มีความเข้ากันเป็นอย่างดี และในปัจจุบันขนมกล้วยเป็นขนมชนิดหนึ่ งที่หาทานได้ยากเพราะไม่ค่อยมีร้านทำขายกันแล้ว วันนี้เราได้มีสูตรการทำขนมกล้วย เป็นสูตรที่ทำง่ายขั้นตอนไม่ยาก คุณสามารถทำเองได้ที่บ้ านโดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อะไรมากมาย และในสูตรนี้คุณจะสามารถเปลี่ยนจากกล้วยเป็นฝักทอง หรือเผือกก็ได้ตามใจชอบ เรามาดูส่วนผสมและวิธีการทำกันเลย

ส่วนผสม

เนื้อกล้วยน้ำว้าสุกงอม 500 กรัม , หัวกะทิข้นๆ 400 กรัม , น้ำตาลทราย 180 กรัม , น้ำตาลปี๊บนิ่มเหลว 70 กรัม , เกลือแกงถุงเล็ก 2 ช้อนชา , แป้งมัน 85 กรัม , แป้งข้าวเจ้า 100 กรัม , แป้งท้าวยายม่อม 85 กรัม , มะพร้าวน้ำหอมแก่ขูดเส้น/มะพร้าวขูดขาว 70 กรัม , มะพร้าวแก่ขูดเส้น สำหรับโรยหน้าขนม

วิธีทำขนมกล้วย

1 ขั้นตอนการทำ ให้เราเริ่มด้วยการเตรียมกล้วยน้ำว้าสุก 500 กรัม บดให้เป็นเนื้อเดียวกันพักวางเตรียมไว้ ทำการผสมแป้งรวมกันแล้วนวดให้เข้ากับน้ำกะทิ 200 กรัม เราจะทำการนวดประมาณ 10-15 นาที เพื่อให้เกิดความเหนียวขึ้น

2 จากนั้นให้ละลายน้ำตาลทราย น้ำตาลปี๊บ และน้ำกะทิ 200 กรัม เกลือ 2 ช้อนชา ละลายส่วนผสมให้เข้ากันดี จากนั้นให้นำส่วนผสมที่ได้ใส่ลงไปในแป้งที่เราทำการนวดเอาไว้

3 ให้เติมกล้วยและมะพร้าวขูดฝอยเพิ่มเข้าไปประมาณ 70 กรัม แล้วพักทิ้งไว้นานประมาณ 10 ถึง 15 นาที

4 จากนั้นให้ทำการเตรียมหม้อซึ้ง ให้ใส่น้ำในหม้อซึ้งให้ได้ประมาณ 3 ส่วน 4 ของหม้อ เปิดไฟแรงรอจนน้ำเดือด และวางถ้วยตะไลในซึ่ง นำไปตั้งให้ถ้วยตะไลมีความร้อนเอาไว้ก่อน

5 จากนั้นให้เราตักส่วนผสมใส่ลงไปในถ้วยตะไล กะให้พอดีอย่าให้ล้นจนเกินไป ตามด้วยการใส่เนื้อมะพร้าวขูดเส้นด้านบนสุด

6 ทำการนึ่ งจับเวลานานประมาณ 15 นาที หรือรอจนกว่าจะสุกแล้วค่อยยกลง หากขนมสุกแล้วเนื้อขนมจะมีลักษณะเป็นสีใสๆ

7 นำลงจากหม้อนึ่ งตั้งเอาไว้ให้เย็นแล้วแคะออกจากถ้วย จัดใส่จานพร้อมเสิร์ฟได้เลย หรือจะบรรจุใส่ในกล่องเพื่อออกวางจำหน่ายสร้างรายได้สร้างอาชีพ

ไม่ยากเลยใช่ไหมล่ะคะสำหรับสูตรวิธีการทำขนมกล้วยที่เรานำมาฝากเพื่อนๆกันในวันนี้ รสชาติที่ได้ออกมานั้นจะมีความอร่อยกลมกล่อม มีความหอมหวานมันเคี้ยวหนึบหนับ เพื่อนๆที่ชื่นชอบหรือสนใจก็ลองนำเอาสูตรนี้ไปทำกันดูนะคะ

ขอบคุณข้อมูลจาก : ป้าห มู ( Pa’Moo Vachara )