สิ่งแรกที่ต้องทำหลังตื่นนอน ไม่ใช่ลุกขึ้นยืน ดื่มน้ำ แต่ควรทำสิ่งนี้!!!

0

สิ่งแรกที่ต้องทำหลังตื่นนอน ไม่ใช่ลุกขึ้นยืน ดื่มน้ำ แต่ควรทำสิ่งนี้!!!

สิ่งที่ยากที่สุดบางทีอาจไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องของการตื่นนอนในตอนเช้า การจะขุดตัวเองให้ลุกออกจากที่นอน ออกจากผ้าห่มอุ่นๆเป็นเรื่องที่ยากน่าดู ยิ่งเป็นในช่วงน่าหนาวหรือฝนตกตอนเช้าๆแล้วละก็ไม่ต้องพูดถึงกันเลยทีเดียว

แต่ทราบหรือไม่ว่าจากการสำรวจ 70-80% ของโรคหัวใจและหลอดเลือด และโรคหลอดเลือดในสมองเกิดขึ้นในตอนเช้าเวลา 6-10 นาฬิกา ในช่วงเช้าตรู่เป็นช่วงโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน และภาวะเนื้อสมองตายเหตุขาดเลือดเกิดบ่อยที่สุด

หลังจากการสังเกต ผู้ป่วยที่เป็นโรคหัวใจจะมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ความดันขึ้นสูง เส้นเลือดในสมองแตก จะเกิดอาการในช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด ก็คือตอนที่พึ่งตื่นนอน!

เพราะหากตื่นแล้วรีบลุกขึ้น ร่างกายที่อยู่ในสภาพนอนพักผ่อน แล้วต้องขยับโดยใช้เรี่ยวแรง ระบบประสาทจะถูกเปิดใช้งานอย่างรวดเร็ว สำหรับผู้สูงอายุแล้วความสามารถในการปรับตัวจะช้าลง ทำให้เกิดความดันโลหิตสูง อีกอย่าง หลังจากร่างกายนอนพักอย่างเต็มที่ทั้งคืน เลือดจะมีความหนืดมากขึ้น ทำให้มีโอกาสเส้นเลือดอุดตันเพิ่มมากขึ้น และอาจจะเกิดสถานการณ์เลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

อ้างอิงตามหลักแพทย์แผนจีนแล้ว ช่วงเวลาพึ่งตื่นนอน จะเป็นช่วงเปลี่ยนแปลงพลังหยินหยาง ดังนั้นสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เส้นเลือดอุดตัน คลอเรสเตอรอลสูง หรือพูดง่ายๆว่าสำหรับคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ต้องระวัง ตื่นขึ้นมาตอนเช้าสิ่งแรกที่ต้องทำไม่ใช่ยืนขึ้นโดยเฉพาะในฤดูหนาว แต่สิ่งแรกที่ต้องทำคือ

1. ใช้เวลา 10 นาทีเพื่อปลุกร่างกายให้ตื่น

ผู้อำนวยการสถาบันแพทย์แผนจีนด้านเนื้องอก ดอกเตอร์หวังเจ๋อหมิน บอกว่าเขามีข้อปฏิบัติที่ตัวเองต้องทำทุกเช้า และวิธีเหล่านี้อ้างอิงจากทฤษฎีและมีผลยืนยัน ทุกๆคนสามารถลองทำได้

1.1 นวดท้อง 2 นาที

คุณหมอหวังบอกว่า สิ่งแรกที่เขาทำหลังตื่นนอนทันทีไม่ใช่ลุกขึ้น แต่เป็นการนวดท้อง เพราะเวลานวดท้องจะทำให้ท้อง ม้าม ถุงน้ำดีและอวัยวะอื่นๆ ที่สัมผัสถึงได้รับการกระตุ้น ดังนั้นการนวดท้องอย่างสม่ำเสมอจะทำให้อวัยวะบริเวณช่องท้องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

โดยวิธีการคือ วางสองมือคว่ำลงบริเวณหน้าอก ค่อยใช้นิ้วมือนวดช้าๆพร้อมเลื่อนลงไปจนถึงใต้สะดือแล้วเลื่อนกลับขึ้นมาทำซ้ำ 20 รอบ

คุณหมอยังแนะนำว่า “ตอนที่คุณย่าผมยังมีชีวิตอยู่ท่านปวดท้อง ก็เลยใช้วิธีนี้ในการช่วยรักษา แล้วโดยไม่รู้ตัวท่านก็หายปวดท้องซะอย่างนั้น ท่านพบว่าการนวดท้องทุกวันทำให้หลับสบาย ก็เลยทำมาอย่างต่อเนื่อง บางทียังนวด 20-30 นาทีก่อนนอนด้วย แล้วท่านก็จากโลกนี้ไปอย่างสงบด้วยวัย 99 ปี”

1.2 นวดจุดฝังเข็ม 5 นาที

คุณหมอเล่าว่า “หลายวันก่อนคุยกับคุณยายวัย 103 ปีคนนึง ท่านเล่าว่าทุกเช้าหลังตื่นนอนท่านจะนวดบริเวณจุดฝังเข็ม 30 นาทีก่อนลุกจากเตียง วิธีการนี้ไม่ยากสำหรับคนแก่ แต่สำหรับวัยทำงานแล้ว แค่นวดบริเวณ จู๋ซานหลี่ (足三里), ซานอินเจียว (三陰交) , ฉวูฉือ (曲池), เห๋อกู่ (合谷), และเน่ยกวาน (內關穴) เพียง 3 นาทีก็พอแล้ว”

วิธีการคือ ใช้นิ้วโป้งกดบริเวณจุด จู๋ซานหลี่ (足三里), ซานอินเจียว (三陰交) , ฉวูฉือ (曲池), เห๋อกู่ (合谷), และเน่ยกวาน (內關穴) ประมาณ 1 นาที ต้องนวดทั้งสองด้าน

1.3 ขยับกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน 3 นาที

ในช่วงฤดูหนาวเวลากลางวันจะสั้น ส่วนกลางคืจะยาว และเพื่อให้พลังหยางมีเพียงพอ แพทย์แผนจีนเชื่อว่า กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานสามารถเพิ่มเพิ่มพลังหยางได้

วิธีการคือ ให้นอนราบบนพื้นโดยที่สองขาแยกประมาณไหล่ วางมือสองข้างแนบลำตัวตามธรรมชาติ ปล่อยร่างกายตามสบาย แล้วโฟกัสที่กล้ามเนื้อเชิงกราน ปล่อยให้มันขยาย แล้วก็ขมิบให้หดตัว ทำซ้ำไปมา 3 นาที

2. ดื่มน้ำหนึ่งแก้วเพื่อกระตุ้นระบบไหลเวียนโลหิต

คุณหมอเกาซีเหิง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการนอนหลับ แนะนำว่า การดื่มน้ำในตอนเช้า 1 แก้ว นั้นสำคัญมาก เพราะมันจะช่วยปลุกร่างกายให้ตื่น และเป็นสัญญาณบอกว่าวันใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เวลากลางคืนขณะนอนหลับร่างกายจะสูญเสียน้ำผ่านทางปัสสาวะ ผิวหนัง และลมหายใจ เมื่อตื่นนอนจึงอยู่ในภาวะขาดน้ำ ในหนึ่งคืนร่างกายจะสูญเสียน้ำประมาณ 450 มิลลิลิตร การดื่มน้ำในตอนเช้าจึงสามารถเข้าไปทดแทนได้

และเราไม่ควรดื่มน้ำเย็นในตอนเช้า เนื่องจากเวลานั้นกระเพาะและลำไส้ไม่มีอาหาร น้ำที่ร้อนหรือเย็นเกินไปจะไปกระตุ้นกระเพาะ ทำให้เกิดภาวะไม่เหมาะสม หลังตื่นนอน ควรดื่มน้ำที่อุณหภูมิห้อง ในเวลาอากาศเย็นก็สามารถดื่มน้ำอุ่น

แนะนำให้วางน้ำอุ่นหนึ่งแก้วไว้บนหัวเตียง ถ้ากลัวเย็นก็ใช้แก้วเก็บความร้อน หลังจากทำการนวดตามข้อ 1 เสร็จแล้วก็ดื่มน้ำ 1 แก้ว

3. เปิดโคมไฟบริเวณหัวเตียงเพื่อปลุกดวงตา

ถ้าทำสองข้อด้านบนไม่ได้ ก็ยื่นแขนไปเปิดไฟหัวเตียง หากอากาศดีก็เปิดหน้าต่าง ให้แสงเข้ามา เพื่อให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยขึ้น

ขอย้ำอีกครั้งว่าสำหรับทุกท่านที่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน เส้นเลือดอุดตัน คลอเรสเตอรอลสูง หรือพูดง่ายๆว่าสำหรับคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ควรต้องทำ อย่าลืมไปลองทำตามกันดูเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง

ขอขอบคุณ : FW Mail

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่