ดื่มน้ำอุ่นตามช่วงเวลา ดื่มให้ถูกวิธี ช่วยได้ในหลายเรื่อง
แน่นอนว่าการดื่มน้ำ เป็นเรื่องสำคัญมากๆต่อสุขภาพร่างกายของคนเรา หลายๆคนมีข้อสงสัยกันว่าจริงแล้วเราควรดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นกันแน่ และต้องดื่มในช่วงเวลาไหนกันแน่ ถึงจะดีต่อสุขภาพของเรา และในวันนี้เราได้มีเรื่องคลายข้อสงสัยของทุกท่านมาฝากกันว่าความจริงแล้วนั้นทาแพทย์ได้ออกมาแนะนำว่าเราควรดื่มน้ำอุ่น และในช่วงเวลาด้านล่างนี้
เวลา 05.00 – 07.00 น.
ในช่วงเวลานี้การดื่มน้ำอุ่นจะมีส่วนช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการขับถ่ายที่ดี โดยดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว จะช่วยในการขับของเสียออกมาย่างหมดจด ดื่มให้เป็นประจำ เพื่อให้เกิดความเคยชินของร่างกายเรา
เวลา 07.00 – 09.00 น.
ดื่มน้ำอุ่น 1 แก้วในช่วงเวลานี้ จะช่วยให้การทำงานของระบบย่อยอาหารนั้นดีขึ้น มีการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ สิ่งต ก ค้า งที่ติดอยู่ตามระบบทางเดินอาหารนั้น จะช่วยให้หลุดออกมาจนหมด ทำให้รับสา รอาหารจากอาหารที่ทานเข้าไปใหม่ได้ดีกว่าเดิม แนะนำว่าอาหารเช้าควรเป็นเมนูที่มีน้ำจะดีมาก
เวลา 11.00 – 13.00 น.
ให้ดื่มน้ำอุ่น หรือ น้ำที่อุณหภูมิห้อง 1 แก้ว โดยหลังรับประทานอาหารกลางวันเสร็จ จะช่วยให้การทำงานในเรื่องของ หั ว ใ จ ร่างกายจะสูบฉีดได้ดี และยังช่วยลดความเครีย ดได้ด้วย
เวลา 15.00 – 17.00 น.
ในระหว่างวัน เราได้ทำกิจกร ร มและใช้พลังงานไปเยอะ การดื่มน้ำอุ่น หรือ น้ำที่อุณหภูมิห้อง ก็จะช่วยชดเชยการขาดน้ำไปตลอดทั้งวันที่ผ่ านมา ช่วยในการเติมเต็ม
เวลา 17.00 – 19.00 น.
ให้ดื่มน้ำอุ่น1 แก้ว เพราะการดื่มน้ำอุ่นในเวลานี้ จะทำให้ร่างกายผ่อนคลาย และ เป็นการสำรองพลังงานเอาไว้ใช้ในช่วงเวลาค่ำ
เวลา 21.00 – 23.00 น.
เวลาก่อนเข้านอนนั้น ให้เราดื่มน้ำอุ่น 1 แก้ว จะช่วยทำให้ร่างกายได้มีการพักฟื้น และ เป็นการสร้างความอบอุ่นแก่ร่างกายก่อนนอน ทำให้หลับสบายตลอดทั้งคืน
ข้อแนะนำในการดื่มน้ำอุ่น
– การดื่มน้ำอุ่นนั้น ควรเป็นน้ำอุ่นที่ไม่ร้อนจัด สามารถดื่มได้ง่าย หากใครที่ไม่ชอบดื่มน้ำอุ่นก็ให้ลองเปลี่ยนจากน้ำเย็นมาเป็นน้ำที่อุณหภูมิห้องก่อนก็ได้
– หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำอุ่นหลังจากออกกำลังกาย ควรเป็นน้ำที่อุณหภูมิห้อง เนื่องจากร่างกายมีอุณหภูมิที่สูงมากอยู่แล้ว ไม่ควรเพิ่มความร้อนในร่างกาย
– ควรดื่มน้ำอุ่นหลังจากที่เรารับประทานอาหารอยู่เสมอ เพราะถ้าหากเราทานน้ำเย็นไปในปริมาณที่มาก ไขมันใน่างกายจากอาหารจะมีการจับตัวเป็นก้อน ทำให้ย่อยได้ยากกว่าเดิม
ขอบคุณข้อมูลจาก : bitcoretech