นี่คือ ผลของคนที่ ยืมเงินแล้วไม่คืน ไม่ว่าคิด ตั้งใจ หรือไม่ตั้งใจ ผลตามทันแน่นอน
นี่ก็คืออีกหนึ่งนักเขียนที่ได้เขียนแนวธรรมะ ทั้งนิยายแทรกคติทางธรรม ซึ่งทำให้เข้าถึงได้ง่ายสำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นสนใจธรรมะ เป็นเรื่องราวที่น่าสนใจ และทางล่าสุดได้ออกมาตั้งคำถามเชิงปัญหาการเงินในเรื่องของหัวข้อ ยืมเงินแล้วไม่คืนจะได้รับผลก ร ร มอย่างไร
ยืมเงินและไม่ส่งคืน ผลลัพธ์อาจไม่เหมือนกัน ต้องดูก ร ร มของแต่ละคน เมื่อรู้ว่าก ร ร มเป็นอย่างไร มันจะเพียงพอที่จะคิดว่า ก ร ร มใดควรเกี่ยวกับ รูปแบบของก ร ร ม แปรไปตามเจตนา รวมทั้งความสามารถ ที่จะทำให้สำเร็จตามเจตนาด้วย เช่น
บางคนยืมด้วยความตั้งใจ อาจมีข้อตกลงที่ชัดเจนว่า เมื่อใดที่จะส่งคืนหรือให้ดอกเบี้ย จากนั้นสามารถส่งคืนพร้อมของขวัญฟรีตามข้อตกลง ผลทันที เป็นสายสัมพันธ์ที่ดี มีความน่าเชื่อถือซึ่งกันและกัน
คู่กรณีเห็นว่ามีบุญที่ให้โอกาส ฝ่ายที่ได้รับนั้นถือเป็นบุญอย่างที่เขาทำ มีความสุขกับการเป็นทั้งผู้ใหญ่ด้วยกัน
บางคนยืมด้วยความตั้งใจที่จะกลับมา เสร็จสมบูรณ์ไม่สามารถคืนชนิดที่เป็นไปไม่ได้ สิ่งนี้ไม่ได้มีไว้เพื่อโกง ไม่ทำลายศีล 2 แต่ผลกระทบทันทีจากปัจจุบัน เป็นทุกข์ ขาดความนับถือตนเอง และไม่ได้รับความเชื่อถือจากผู้อื่น สำหรับผลลัพธ์ในประเทศถัดไปมันค่อนข้างสมน้ำสมเนื้อ เช่นการให้เงินกับใครก็ตามที่ยังไม่ได้ยืม เพราะเหตุสุดวิสัยของลูกหนี้เป็นต้น
บางคนยืมมาด้วยความตั้งใจที่จะมาและเรียงลำดับ ไม่ไม่แน่ใจว่าจะคืนเมื่อใด คิดเพียงครู่ว่ามีมากมาย เช่นนี้จับคู่อย่างเท่าเทียมกัน เพราะทำถูกต้องมีสิทธิ์ที่จะพลิกจาก ‘รอสักครู่ มันง่ายที่จะ ‘ดีกว่า’
ณ จุดหนึ่งคนเหล่านี้จะลืมความสัมพันธ์เก่าทั้งหมด เมื่อเห็นตัวเลขในบัญชีที่ส่งคืน แต่เสียใจ
ความตระหนี่ รู้สึกว่ามันอยู่ในบัญชีของฉัน สิ่งที่สำคัญจะหายไปในมือของคนอื่น ความสำคัญคือ ทั้งๆที่นั้น เป็นไข่มุกวิเศษที่ความหลงไหลบงการก่อให้เกิดบาป ผลที่ตามมาคือจิตใจที่อ่อนแอ คุณคิดอย่างไรกับเ ด็ ก ๆ บนเส้นทางที่ไร้สาระ ด้านหน้าเป็นสิ่งที่คู่ควรกับชะตากร ร มที่ไร้เหตุผล วันหนึ่งเหมือนมีทรัพย์สินที่ยั่งยืน เมื่อวันก่อนหายไปเหมือนความฝัน
บางคนยืมด้วยความตั้งใจไม่คืนตั้งแต่แรก แต่มาหว่านล้อมล่อหลอกว่าจะคืน พร้อมดอกเบี้ยมหาศาลบานตะไท ที่มายืมตรงนี้ก็เพียงเพราะ ต้องการประชดแบงก์ที่กู้ยากกู้เย็นนัก อันนี้ผิดศีลข้อ ๒ เต็มๆ
เพราะขึ้นต้นด้วยเจตนาถือเอาทรัพย์ ที่เจ้าของมิได้ยกให้ และการผิดแบบนี้แถมพกข้อ ๔ มาด้วย ฉะนั้น ในที่ที่ก ร ร มเผล็ดผล โทษสถานเบาในโลกมนุษย์ คือต้องเหมารวมทั้งผลของ
การผิดข้อ ๒ และ ๔ รวมกันสองกระทง ผลของข้อ ๒ คือเป็นผู้มีทรัพย์พินาศด้วยเหตุร้าย ผลของข้อ ๔ คือเป็นผู้ถูกหลอก ถูกใส่ร้าย พูดง่ายๆ ว่า มีสิทธิ์เสียทั้งทรัพย์ เสียทั้งชื่อเสียง ด้วยการถูกใส่ร้าย ใส่ไคล้ หรือถูกต้มได้สารพัด
แต่ข้อเท็จจริง เป็นเช่นที่พระพุทธเจ้าตรัส คือ คนโกหกเป็นนิตย์ ที่จะทำชั่ วอะไรไม่ได้นั้นไม่มี ยิ่งถ้ามาถึงขั้นโกหกเพื่อเชิดเงินคนอื่นได้ ทำให้เขาเดือดร้อนหน้าตาเฉยได้ ก็แปลว่าต้องทำบาปร้ายกาจได้หนักกว่านี้ไปเรื่อยๆ ฉะนั้น โทษทัณฑ์ที่แท้จริง ก่อนจะมีสิทธิ์ได้กลับมาเป็นมนุษย์ จึงน่ากลัวกว่าที่เราเห็นๆ กันขณะเป็นมนุษย์
ภาพประกอบ : Postsod
ขอขอบคุณ : ศรันย์ ไมตรีเวช