ก่อนไปงานเลี้ยงรุ่น ถอดยศ-ถอดศักดิ์บนตัวออกก่อนเถิด
คำว่าเพื่อน พอระยะเวลาผ่านพ้นไปนานหลายปีความสัมพันธ์เหล่านี้มักจะห่างกันไป เมื่อวันเวลาผ่านไปจริงหรือ? ในทุกปีมักจะมีการฉลองเลี้ยงรุ่น ควรที่จะถอดยศถอดศักดิ์บนตัวของตัวเองออกก่อนเถิด ดังเรื่องราวดังต่อไปนี้
นายเทา มีชื่อจริงว่า นายบรรเทา เขาได้เรียนจบคณะนิติศาสตร์จากมหาลัยชื่อดังที่กรุงเทพ ในปัจจุบันนั้นนายเทาได้ประกอบอาชีพเป็นนักเขียน เป็นทนายความตามชนบทธรรมดาคนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัด นานๆทีจะได้มีโอกาสเข้ามาในกรุงเทพ และหลังจากที่เรียนจบจากมหาลัยมาหลายสิบปีก็ไม่ได้พบเพื่อนๆไม่ค่อยได้ติดต่อเพื่อนๆในรุ่นเดียวกันอีก
และมีอยู่มาวันหนึ่งได้มีเพื่อนบ้านบอกจะมีเจ้าหน้าที่จากอำเภอระดับสูงออกมาประชุม นายบรรเทาจึงได้ไปร่วมเข้าประชุมที่ศาลากลางบ้านแห่งหนึ่ งโดยได้มีในอำเภอเดินทางมาเป็นประธานและในขณะที่กำลังประชุมอยู่นั้น นายอำเภอก็ได้หันมามองที่นายบรรเทาอยู่บ่อยครั้ง
ครั้นเมื่อเสร็จการประชุมนายอำเภอท่านนั้นจึงได้ให้คนมาตามนายบรรเทาไปพบ และนายอำเภอได้ถามว่า คุณชื่อบรรเทา จอดนอก ใช่ไหม?
“นายเทาบอกว่าใช่ครับ” ท่านรู้จักชื่อผมได้ยังงัย นายอำเภอได้ยินดังนั้น จึงพูดด้วยเสียงอันดังว่า
“ไอ่เทา… จำไม่ได้รึ ไอ่คง ที่ลอกการบ้านมึ งบ่อยๆ สมัยเรียนมหาวิทยาลัยไง”
บรรเทาบอกว่า ผมก็รู้สึกคุ้นๆ กับชื่อท่าน ก็พึ่งนึกได้ตอนที่ท่านลอกการบ้านนี่หละครับ นายอำเภอบอก ตอนมึ งอยู่กับกุ ก็พูดธรรมดาเถอะว่ะ กุกับมึ งเป็นเพื่อนกัน
หลังจากนั้นหนึ่งเดือน นายอำเภอก็มาชวนเทาไปงานเลี้ยงรุ่น ที่มหาวิทยาลัย นายบรรเทาก็ไปร่วม ซึ่งก็ได้เจอเพื่อเก่าๆ มากมาย คุยกันสารทุกข์สุขดิบต่างๆ นานา ซึ่งเพื่อนๆ ส่วนใหญ่ก็มียศตำแหน่งสูงๆ ทั้งนั้น มีไม่กี่คนที่ทำอาชีพส่วนตัว ซึ่งก็ไม่ได้รับความสนใจมากมาย นอกจากคนที่เป็นผู้ว่า นายพลตำรวจ-ทหาร นายอำเภอ นักการเมือง หรือข้าราชการอื่นๆ
บรรเทาและเพื่อนๆ สามสี่คน ก็คุยกันอีกกลุ่มหนึ่ง ต่างก็มีความสุขกันดี จนงานเลิกต่างคนต่างเดินทางกลับบ้านด้วยความสุข
หลายเดือนผ่านไป จนกระทั่งครบปีหนึ่ง นายอำเภอก็ย้ายไปที่อำเภออื่น แต่ก็ไม่ลืมที่จะนัดหมายนายเทาให้เดินทางไปร่วมงานเลี้ยงรุ่นอีก
งานเลี้ยงรุ่นปีนี้ บรรเทาก็มาถึงสถานที่จัดงาน “เทา” เดินเข้าไปในงาน ได้ยินโฆษกประกาศต้อนรับ “ท่าน ผวจ. ท่านนายพล นายอำเภอ และข้าราชชั้นผู้ใหญ่ ต่างประกาศแสดงตนแบบออกหน้า ออกตา บรรเทายืนงง สงสัยว่ามาถูกงานไหมนี่ เนื่องจากว่าไม่ได้ยินเสียงประกาศเหมือนงานเลี้ยงรุ่นเลย
บรรเทาได้แต่ครุ่นคิดว่าตัวเองมางานเลี้ยงรุ่นหรือมางานเลี้ยงฉลองตำแหน่งกันแน่ ครุ่นคิดอยู่ในใจ
นายบรรเทาจึงเดินกลับออกมาจากงานเลี้ยง แล้วขึ้นรถกลับบ้าน เพราะไม่มีงานเลี้ยงรุ่น แต่มีงานเลี้ยงเจ้านายต่างๆ เท่านั้น บรรเทาบอก เราไม่มีตำแหน่ง เลยไม่มีที่ว่างของคำว่า “เพื่อน” มันหายไปตามกาลเวลา
(ฝากทุกท่านไว้ว่า)
ที่ข้าน้อยจะไปร่วมเลี้ยงรุ่นในโอกาสต่อไป เป็นงานเลี้ยงรุ่นของเพื่อนจริงๆ ไม่ใช่งานเลี้ยงตำแหน่ง ของท่านทั้งหลาย ดังเรื่องราวของ “บรรเทา” ที่เล่าให้ทุกท่านได้ฟังแล้ว เพราะนั่นคือ เรื่องจริงที่เกิดขึ้นใน กทม. จากปีที่ผ่านมา
“แต่งานเลี้ยงพวกเรา” ขอให้มีเพียงเพื่อน เนื่องจากเริ่มเห็นอาการแล้วนะครับ เช่น เรียกกันว่าท่านฯ ท่าน ดร. ท่าน สส. ท่าน ผอ. คิดถึงหัวอกคนที่ไม่มีตำแหน่งทางสังคม ทางราชการบ้างครับ
ฉะนั้นงานเลี้ยงรุ่น ควรถอดหัวโขนออกให้หมด แล้วงานเลี้ยงรุ่นของท่าน จะมีคนมาเพิ่มอีกทุกปีๆ ไม่เชื่อก็ลองดู
ขอบคุณข้อมูลจาก : สุขกาย สบายใจ