“ว่านงาช้าง” ปลูกติดบ้านไว้ บำรุงโลหิต รักษาฝ้า

0

“ว่านงาช้าง” ปลูกติดบ้านไว้ บำรุงโลหิต รักษาฝ้า

ต้นไม้รูปร่างแปลกๆคล้ายกับฝักมะรุม จริงๆแล้วมีชื่อเรียกว่า “ว่านงาช้าง” เป็นต้นไม้ที่นิยมปลูกกันเป็นไม้ประดับ ปลูกเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับคนในบ้าน แต่นอกจากความเป็นมงคลแล้วนั้น ต้นว่านงาช้างยังมีสรรพคุณเป็นยาที่ดีต่อร่างกายของเราอีกด้วย อ่านรายละเอียดด้านล่างเลย

ชื่อท้องถิ่น : ว่านงาช้าง, ว่านงาช้างเขียว, หอกสุรกาฬ, ว่านงาช้างลาย, หอกสุรโกฬ

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

– ลำต้น ลำต้นว่านงาช้างมีลำต้นแท้อยู่ใต้ดิน เป็นเหง้าที่แตกแยกออกเป็นแง่ง คล้ายเหง้าข่า แต่เปลือกหุ้มด้านนอกจะมีสีส้ม เนื้อหัวด้านในมีสีเหลืองอมส้ม มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ

– ผล ผลว่านงาช้างจะติดผลน้อย ถึงแม้จะมีดอกจำนวนมาก ผลมีลักษณะกลม ขนาดเล็ก ประมาณ 0.5-1 ซม. ผลมีส้ม เมื่อสุกจัดจะมีสีแดง

– ดอก ดอกว่านงาช้างจะแท งออกจากเหง้า มีลักษณะออกเป็นช่อที่ประกอบด้วยดอกสีขาวเป็นชั้นๆตามความสูงของช่อดอก ดอกส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ลักษณะเด่นของว่านหางช้างอีกอย่างคือ หอมได้ทนนาน ดอกก็อยู่ทนนาน จึงเหมาะที่จะปลูกบริเวณบ้าน

– ใบ ใบว่านงาช้าง โดยทั่วไปเข้าใจว่าเป็นว่านไม่มีใบ แต่ในทางวิชาการแล้ว ลำต้นเทียมที่เป็นลำทรงกลมสีเขียวก็คือใบนั่นเอง ใบหรือลำต้นเทียมเหนือดินจะแท งออกจากตาของหัวหรือเหง้าที่อยู่ใต้ดิน ลำต้นเทียมมีลักษณะเป็นทรงกลม สีเขียวทั้งใบหรือมีสีเขียวที่ประคาดเป็นลายขาวเขียว ลำใบตั้งตรง ไม่แตกแขนง สูงประมาณ 40-60 ซม. โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม มีร่องลึกเป็นพูตามแนวยาวจากโคนถึงส่วนปลาย โดยลำต้นเทียมนี้จะมีอายุนานหลายปี

ประโยชน์ว่านงาช้าง

1. ปลูกเป็นไม้มงคล ด้วยเชื่อว่าเป็นว่านที่ช่วยเสริมความเป็นสิริมงคลแก่คนในครอบครัว ช่วยให้ผู้คนเข้าร้านมากขึ้น ทำให้ทำมาค้าขายร่ำรวย

2. เนื่องจากลำต้นเทียมหรือใบมีลักษณะโดดเด่นต่างกับพืชอื่น รวมถึงดอกที่ออกเป็นช่อสวยงาม จึงนิยมปลูกเป็นไม้ประดับทั้งปลูกในกระถาง และปลูกในแปลงจัดสวน ทั้งนี้ อาจปลูกประดับแบบลำต้นตั้งตรงตามธรรมชาติ หรือ ดัดบิดเป็นเกลียวพันหลายต้นเข้าด้วยกัน

สรรพคุณทางยา

เหง้าหรือหัว และใบหรือลำต้นเทียมนำมาต้มน้ำดื่ม มีรสขมเล็กน้อย

– เป็นยาบำรุงโลหิต

– ใช้ขับพยาธิ

– รักษาโรคริดสีดวง

– ช่วยการอยู่ไฟของสตรีหลังคลอด ช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็ว

– ใช้เป็นยาขับปัสสาวะ

ใบหรือลำต้นเทียมนำมาตำใช้ทาภายนอก

– ใช้ทาหน้ารักษาสิว

– ใช้ทาหน้าลดรอยเหี่ยวย่น ช่วยให้หน้าเต่งตึง

– ใช้ทารักษาแผลติดเชื้อ แผลเป็นหนอง ช่วยให้แผลแห้ง และหายเร็ว

– ใช้ทารักษาอาการผดผื่นตามผิวหนัง

สูตรวิธีการใช้ตามภูมิปัญญา

– บำรุงโลหิตได้ดี โดยเอาใบว่านงาช้างเขียวประมาณ 1 กำมือ ดองกับเหล้าขาวหรือเหล้าโรง 1 ขวด ดองไว้ประมาณ 1 เดือน แล้วเอามาดื่มเพียงครั้งละค่อนถ้วยตะไล เวลาเย็นวันละ 1 ครั้ง หรือจะดื่มเช้าและเย็นก็ได้ ก่อนอาหาร หากว่าไม่ชอบดื่มเป็นเหล้า ให้เอามาต้มเป็นยาต้มก็ได้ ให้ดื่มก่อนอาหารเช้าและเย็นวันละ 2 เวลา ครั้งละ 1 ถ้วยตะไล จะทำให้มีผิวพรรณเปล่งปลั่ง

– รักษาอาการใบหน้าเป็นฝ้าหน้าตกกระ โดยเอาใบของว่านงาช้างมาล้างให้สะอาด แล้วเอามาตัดเป็นท่อนสั้นๆ โขลกหรือทุบให้แตกออกมากๆ เอาไปต้มกับน้ำสะอาด เอาน้ำยาที่ได้มาดื่มครั้งละ 1 ถ้วยตะไล เช้าเย็นอย่างละครั้ง

– ใช้ขับโลหิตเสีย โลหิตเป็นพิษหลังคลอด โดยให้เอาใบของว่านงาช้างเขียวมาล้างให้สะอาด ตัดเป็นชิ้นเล็กๆ โขลกให้ละเอียดเสียก่อน เอามาต้มสัก 1 กำมือ ใส่น้ำพอท่วมขึ้นมาพอสมควร ต้มไปสัก 15 นาที ยกเอาลงมาให้เย็นลงตามปกติ พออุ่นๆก็รินเอาดื่มครั้งละ 1 ถ้วยตะไล เช้าและเย็น ก่อนอาหาร ทุกวัน

– แก้ริดสีดวงทวาร และเป็นยาถ่ายพยาธิ โดยใช้รากสด 5-10 กรัม นำมาล้างให้สะอาดโขลกให้ละเอียดอาจจะผสมเหล้าโรงเล็กน้อยก็ได้ คั้นเอาแต่น้ำจิบ

– แก้อาการปวดในหู เอามาเผา แล้วคั้นเอาน้ำออกมา เอาไปหยอดรูหู แก้อาการปวดในหู หูอักเสบ เจ็บปวด หูน้ำหนวกก็ใช้ได้

– รักษารากผม น้ำคั้นจากว่านมาชโลมเส้นผม รักษารากผมให้สมบูรณ์แข็งแรง เส้นผมดกดำเป็นเงางาม ไม่ร่วงหล่น

ขอบคุณข้อมูลจาก : meesara.club

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่