“ชีวิตคู่” ไม่จำเป็นต้องดีที่สุด ขอแค่มีชีวิตที่เข้าใจกันก็พอ
การมีชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบ มีคู่ครองที่ดี ไม่จำเป็นต้องหาคนที่ดีที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในการใช้ชีวิตคู่นั้นคือ ความเข้าใจ หากเรามีความรักแต่ไม่มีความใจ การใช้ชีวิตคู่ให้ราบรื่นก็จะยากขึ้น
“แม้นมี…วาสนา”
ขอแค่บ้านแสนสงบสุข
ไม่หวังอัครสถานหลังโตมั่นคง
หากแต่แข็งแรงอบอุ่นด้วยความรักใคร่กลมเกลียว
ไม่หวังบ้านสวยงามเลิศหรู
หากแต่งามหมดจรดด้วยจิตใจของครอบครัวที่ปรารถนาดีต่อกัน
ไม่หวังพร้อมสรรพสิ่งแวดล้อมแห่งสวนสวรรค์
หากแต่เป็นสังคมเอื้อเฟื้อ รายล้อมด้วยเพื่อนบ้านเป็นมิตร
ขอแค่มีคู่ชีวิตที่เข้าใจกัน
ไม่หวังว่าต้องดีที่สุด
หากแต่ดีสมกัน ศีลเสมอกัน
ไม่หวังว่าสวย-หล่อลากดิน
หากแต่เดินไปด้วยกันแล้วส่งเสริม
ไม่หวังเป็นช้างเท้าหน้า-เท้าหลัง
หากแต่เดินเคียงกันไปในทุกวันดี-ร้ายด้วยรอยยิ้ม
ขอแค่มีงานที่รักเป็นเสาหลักรายได้
ไม่หวังงานที่มีหน้ามีตาอวดใครๆ
หากแต่เป็นงานที่ทำแล้วมีความสุข นายดี เพื่อนดี ลูกน้องดี
ไม่หวังรายได้มหาศาล
หากแต่สมความสามารถติดตัว เลี้ยงดูครอบครัวได้
สำคัญคือไม่มีหนี้สินจากสินทรัพย์เสื่อมราคา
เพื่อรักษาหน้าตาในสังคม
” ขอแค่บั้นปลายแห่งชีวิตที่สุขภาพดี “
ไม่หวังปั้นปลายประสบความสำเร็จเป็นตำนาน
หากแต่มีสุขภาพที่ดีตามวัย
ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บทรมานตัวเองและคนรอบข้าง
ไม่หวังลูกหลานคลานหมอบรอรับมรดกสมบัติเอาหน้า
หากแต่ลูกหลานรักรู้คุณ
น้อมรับมรดกแห่ง “วาสนา” ต่อไปเป็นมรดกล้ำค่า
ขอแค่ลูกเป็นคนดีของสังคม
ไม่หวังยัดเยียดให้ลูกเป็นที่หนึ่งในทุกด้าน
หากแต่มีปัญญาเอาตัวรอดเลี้ยงดูตัวเองได้
ไม่หวังให้ลูกโดดเด่นนำสมัย
หากแต่อ่อนน้อมถ่อมตน รู้กาลเทศะ
มีมารยาท จนใครๆที่ได้รู้จักเมตตาเอ็นดู
และสำคัญ คือ มีปัญญาแยกแยะชั่ว-ดี
อย่าให้ใครด่ามาถึงพ่อแม่ว่า ‘ไม่สั่งสอน’
สุดท้ายหากยังเหลือ ‘วาสนา’
ไม่หวังงานเศร้าแห่งเกียรติยศ
หากแต่ลมหายใจสุดท้ายที่สงบ
พร้อมหน้าลูกหลานร่ำลา
ตั้งจิตอธิษฐานจะทำให้ได้ดั่งหวัง
ด้วยขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็นองค์พยานในมุ่งมั่น
มิใช่ดลบันดาล
ตั้งใจกราบพระผู้ปฏิบัติดี เพื่อชี้แนะเข็มทิศทางไปสู่ “วาสนา”
มิหวังปาฏิหาริย์แห่งคุณวิเศษคุณพระ
บทสรุปแห่งมี หรือ ไม่มี “วาสนา” นั้นไซร้
เราทุกคนล้วน…เลือกได้เองอย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก : มดงาน บ้านรอยยิ้ม