เตรียมรับมืออิทธิพลไต้ฝุ่นมังคุดในไทย 16-19 ก.ย. นี้
เช้าวันนี้ กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศว่า พายุไต้ฝุ่นมังคุด ซึ่งมีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางราว 204 กม./ชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กม./ชั่วโมง โดยคาดว่าระหว่างวันนี้และพรุ่งนี้ จะเคลื่อนผ่านเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ และเคลื่อนลงทะเลจีนใต้ตอนบน
หลังจากนั้น ระหว่างวันที่ 16-18 ก.ย. คาดว่าพายุไต้ฝุ่นมังคุดจะเข้าสู่เวียดนามตอนบนและจีนตอนใต้ ซึ่งในประเทศไทยจะส่งผลให้พื้นที่ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก มีฝนตกอย่างต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่
ในช่วงวันที่ 16-19 ก.ย. ทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน จะมีคลื่นลมแรง ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งควรระมัดระวังคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งด้วย
นอกจากนี้ ในช่วงวันที่ 17-19 ก.ย. ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักเกิดขึ้นได้ ประชาชนจึงควรระมัดระวัง เหตุน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงดินโคลนถล่ม ที่อาจเกิดขึ้นได้
ทำไมพายุต้องมีชื่อเรียก ?
เดิมที นักอุตุนิยมวิทยาใช้วิธีติดตามพายุตามปีที่พวกมันเกิดขึ้น แต่ในบางภูมิภาคของโลกอาจมีพายุได้นับร้อยครั้งในแต่ละปี และแต่ละลูกอาจมีอายุนานหลายเดือน
การตั้งชื่อให้กับพายุ จึงช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถติดตามพวกมันได้สะดวก นอกจากนี้ มันยังช่วยให้ประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ตามสื่อต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น
ส่วนชื่อของพายุที่เคยสร้างความเสียหายรุนแรง มักจะถูกทดแทนด้วยชื่อใหม่ ด้วยเหตุผลเพื่อความเหมาะสม เช่น พายุทุเรียน ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตในฟิลิปปินส์กว่า 1,400 คน ได้ถูกทดแทนด้วยชื่อ มังคุด ในปี 2551
ผลกระทบจากพายุเซินติญครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ พายุ “เซินติญ” ได้ถูกจัดเป็นพายุโซนร้อน และกำลังเคลื่อนที่ไปทางทิศตะวันตก ผ่านประเทศลาวและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยในนี้ (19 ก.ค.) โดยล่าสุดได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลายจังหวัดในภาคเหนือและอีสานของไทยได้รับผลกระทบจากพายุเซินติญตั้งแต่เมื่อวานนี้ หลังฝนที่ตกลงมาอย่างหนักทำให้เกิดเหตุน้ำป่าทะลักใน จ. แม่ฮ่องสอน และปริมาณน้ำฝนยังทำให้มีน้ำไหลท่วมบ้านเรือนใน จ. แพร่
ในภาคอีสานมีรายงานว่า ระดับน้ำในแม่น้ำโขงยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และทำให้เกิดน้ำกัดเซาะตลิ่งในหลายจังหวัด เช่น มุกดาหาร และนครพนม
สำหรับพายุเซินติญ นักอุตุนิยมวิทยาชำนาญการระบุว่า ขณะนี้ได้อ่อนกำลังจากพายุโซนร้อนเป็นพายุดีเปรสชั่นแล้ว แต่จะยังคงส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอยู่ โดยเฉพาะภาคอีสานในวันนี้ และภาคเหนือในวันพรุ่งนี้
ข้อมูลจาก : bbc