ขับล้างของเสีย กำจัดสารพิษสะสมในร่างกายให้หมดเกลี้ยง ด้วยผลไม้ 5 ชนิดนี้

0

ขับล้างของเสีย กำจัดสารพิษสะสมในร่างกายให้หมดเกลี้ยง ด้วยผลไม้ 5 ชนิดนี้

การมีสุขภาพร่างกายที่ดี เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เราใช้ชีวิตที่ดีได้ การเลือกทานอาหารที่ดีใช่ว่าเราจะหลีกเลี่ยงสารพิษต่างๆได้ 100% วันนี้เราได้นำผลไม้ทั้ง 5 ชนิดที่สามารถช่วยในการกำจัดสารพิษสะสมอยู่ในร่างกายได้เป็นอย่างดี หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง แถมมีประโยชน์ต่อสุขถาพร่างกายของเรามากเลยทีเดียว

อาหารมีทั้งคุณและโทษ การรับประทานอาหารไม่สมดุลกับความต้องการของร่างกาย รับประทานไม่ถูกวิธี หรืออาหารที่รับประทานปนเปื้อนสารพิษ อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย แพ้อาหาร ซ้ำร้ายยิ่งกว่านั้น สารพิษสะสมยังเป็นตัวการให้เกิดโรคร้าย เช่น โรคมะเร็ง ทางที่ดีจึงควรหันมาใส่ใจดูแลอาหารการกินในชีวิตประจำวันตั้งแต่วันนี้ ความรู้เรื่อง”การกินผลไม้ที่มีคุณสมบัติช่วยล้างพิษ” จากนิตยสารแม่บ้าน ฉบับเดือนพฤษภาคม 2553 เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดุแลรักษาสุขภาพร่างกายด้วยวิธีง่ายๆ เริ่มจาก

1. แอปเปิล ผลไม้ที่ดีที่สุดสำหรับการขจัดของเสียออกจากร่างกาย สารเพคตินในแอปเปิลจะช่วยกำจัดสารพิษ และป้องกันไม่ให้โปรตีนในสำไส้บูดเน่า นอกจากนี้แอบเปิลยังมีไฟเบอร์สูง ซึ่งเปรียบเหมือนไม้กวาดช่วยทำความสะอาดลำไส้ ทำให้ตับและระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น

2. สับปะรด มีเอนไซม์ที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของกรดไฮโดรคลอริกในกระเพาะอาหาร ทำให้ของเสียเป็นโปรตีนแตกตัวเร็วขึ้น สับประรดช่วยรักษาอาการอักเสบในทางเดินอาหาร และช่วยในการทำงานของต่อมไร้ท่อ

3. องุ่น ผลไม้ลูกเล็กๆ ที่ทำหน้าที่เป็นสารฟอกล้างให้ผิวหนัง ตับ ไต และลำไส้ นอกจากนี้องุ่นยังอุดมไปด้วยเกลือแร่และพลังงานจึงช่วยบำรุงเลือด ช่วยซ่อมและสร้างเซลล์ในร่างกาย

4. แตงโม มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ เท่ากับช่วยฟอกล้างร่างกาย อีกทั้งช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหาร ลดความดันโลหิต เปลือกของแตงโมอุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ และที่เมล็ดยังมีวิตามินมากมาย น้ำคั้นจากเปลือกและเมล็ดแตงโม จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง

5. มะละกอ เอนไซม์ปาเปนในเนื้อมะละกอมีลักษณะคล้ายกับน้ำย่อยเปปซินในกระเพาะอาหาร ดังนั้นมะละกอจึงช่วยให้โปรตีนแตกตัวได้เร็วขึ้นเช่นเดียวกับสับปะรด อีกทั้งยังช่วยทำความสะอาดลำไส้และช่วยย่อยอาหาร การรับประทานมะละกอเป็นประจำยังช่วยลดอาการซึมเศร้าได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ขอบคุณข้อมูลจาก : pr.chula.ac.th

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่