ถ้ามีแฟนแต่แย่ลง ขออยู่เป็นโสดดีกว่า(รายละเอียด)
ผลการศึกษาพบว่า ผู้ชายบางส่วนที่หายไป เนื่องจากมีอัตราตายที่สูงกว่าผู้หญิง ทำให้เกิดความไม่สมดุลในตลาดการเลือกคู่ครอง ขณะเดียวกันผู้ชายอีกส่วนหนึ่งที่หายไปจากตลาดสมรสเพราะการชะลอการแต่งงานเพื่อสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม แต่ก็มีแนวโน้มที่จะแต่งงานเมื่อมีอายุสูงขึ้น ในทางกลับกัน ผู้หญิงเองก็มีแนวโน้มของการเลื่อนอายุแต่งงานเช่นเดียวกันกับเพศชายแม้จะอยู่ในสัดส่วนที่น้อยกว่า แต่ที่ชัดเจนคือ สถานการณ์ของการอยู่เป็นโสดของเพศหญิงที่เพิ่มมากขึ้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในบทบาทและการมีสถานภาพสูงขึ้นของตนในสังคมที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ในทางเศรษฐกิจ มีความเป็นอิสระและเป็นตัวของตัวเอง มีการศึกษาสูงขึ้นและมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานไม่ด้อยไปกว่าผู้ชาย
สถาบันวิจัยประชากรและสังคมได้สำรวจและพบว่า ผู้หญิงไทยเลือกที่จะอยู่คนเดียว แต่งงานช้าลง ครองโสดเพิ่มมากขึ้น เกิดการหย่าร้างมากขึ้น และเลือกที่จะไม่มีบุตร โดยสาเหตุนี้เกิดจากความเป็นผู้นำของผู้ชายลดน้อยลงและอ่อนแอลงมาก
มีนิทานเรื่องหนึ่ง เล่าว่า
มีคนตั้งโจทย์ขึ้นมาว่า มีสะพานไม้เล็กๆ อยู่ ให้เดินไปจนถึงโดยที่หลับตา
ถ้าใครสามารถเดินไปถึงได้โดยไม่ตกลงมา คุณและคู่รักของคุณจะเป็นเนื้อคู่กันตลอดไป…
ทุกคนจึงพยายามเดินแล้วหลายรอบ แต่ก็ตกลงมาทุกที บางคนถึงกับคิดว่า ฉันคงไม่มีเนื้อคู่แล้วล่ะสิ
แต่แล้วก้อได้มีคน ๆ นึงเดินไปถึง จุดหมายโดยไม่ตกลงมา
ทุกคนต่างแปลกใจแล้วก็ถามว่า เดินยังไงถึงไม่ตกลงมา…?
คำตอบที่ได้ยิน ทำให้ทุกคนก็เงียบไปเลย
เค้าบอกว่า… “ก้อชั้นแอบลืมตาเดินไง”
….
ลองคิดดูสิ…? เพื่อความรัก ทุกคนยอมเสี่ยงตายหลับตาเดินข้ามสะพาน
ยอมปิดตา และ ปฏิเสธที่จะมองเห็นความจริงต่าง ๆ ที่ผ่านเข้ามา
เค้าสั่งให้หลับตาเดินก็ยอม เค้าบอกว่ารักก็เชื่อ โดยไม่ดูที่หลักความเป็นจริง
มันจะไปถึงปลายทาง ในเมื่อตาเรามองไม่ เห็นทาง… เราจะได้รับความรักที่ดีดีได้อย่างไร…?
เมื่อเราหลับหูหลับตารัก มันเป็นความรักที่ไม่ฉลาด และ ขาดสติ
เวลามีความรักลองเปิดตามองให้ไกล… อย่าปล่อยให้ความ รักทำให้ตาบอด…
ถึงแม้ว่าลืมตาเดินแล้วยังตกลงมาอีก แต่ก็คงไม่ตกลงมา เจ็บเท่ากับหลับตาเดิน
…..เพราะเราจะรู้ว่าต้องตกท่า ไหนจึงจะเจ็บน้อยที่สุด…..
เพราะการไม่รักใครเลย ไม่ใช่การแก้ปัญหา
แต่การที่มีความรักอย่างฉลาด และ มีสติ คือการแก้ปัญหาที่ถูกต้อง
ขอขอบคุณ : Mthai