“เตือนภัย”…. จุ๊บลมตัดปากแหลม เมื่อรถเหยียบ ลมออกเร็วมาก ยางแบนทันที
ในยุคนี้มิจฉาชีพระบาดไปทุกหนทุกแห่งจริงๆ และจะมีวิธีแปลกใหม่มาล่อให้เหยื่อตกเป็นเป้าอยู่เสมอ ทั้งตามแหล่งคนที่พลุกพล่าน หรือแม้กระทั่งในขณะที่รถสัญจรไปมา ก็ต้องยังมีมิจฉาชีพพยายามชิงทรัพย์ได้
ถ้าใครไปคนเดียว หากเหตุเกิด ในเวลางกลางคืน
1. อย่าจอดรถ ลงไปดู ทันที
2. ให้ขับ ไปจนถึงที่ ที่มีคนเยอะๆ ไฟสว่าง
3. หาคนช่วยเหลือเปลี่ยนยางอะไหล่
4. เหตุนี้ กำลัง แพร่หลาย แถวบางแสน ชลบุรี
ฝากช่วยแชร์ ให้ผู้ที่ใช้รถ ได้ระวังไว้
พอเหยียบปุ๊บ ลมออกทันที
ต้องระวังเอาไว้ให้มาก ไม่งั้นเป็นเหยื่อแน่นอน
ตอนที่เขาเจอบ่อยๆ แถวบางวัว แยกมอเตอร์เวย์ บางนา – ตราด กม.40
ตำรวจจับกุม ปรากฎว่า มันทำกันเป็นแก๊ง.
อีกทั้งยังมีเรื่องให้อ่าน เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องระวัง
ก่อนอื่นต้องบอกว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของผมเอง ซึ่งวันเกิดเหตุมี พ่อ แม่ และหลานของผม อยู่ในรถ
เริ่มเลยละกัน เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. พ่อ แม่ และหลานผมจะเดินทางไปจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อไปทำธุระ ระหว่างทาง พ่อได้สังเกตุเห็นมีรถ TOYOTA ALTIS สีบรอนซ์ (ป้ายแดง จ.นครสวรรค์ ) และ TOYOTA VIOS สีบรอนซ์ จอดอยู่ข้างทาง ก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่ขับมาสักพักก็มี VIOS คันดังกล่าวขับมาตีคู่ (เหมือนดูว่าในรถมีใครบ้าง) และก็ได้ผ่อนเครื่องลงไป แล้วช่วงนั้นเป็นช่วงตรวจจับความเร็ว พ่อผมเลยขับอยู่เลนซ้าย โดยที่มีรถนำหน้าประมาณ 4-5 คัน ก็ยังไม่มีอะไรผิดปกติ จนกระทั่ง ALTIS คันดังกล่าวเร่งเครื่องแซงขึ้นมา แล้วตบเข้าเลนซ้ายมาอยู่หน้ารถพ่อผม แต่เค้าก็คิดว่าคงกลัวตรวจจับความเร็ว ก็ไม่ได้คิดอะไร แต่เมื่อมองกระจกหลังเค้าได้เห็น VIOS คันดังกล่าวขับตามมาประกบหน้า-หลังไว้ แล้ว ALTIS ก็ค่อยๆ ลดความเร็วลงเรื่อยๆ จนรถที่ขับนำมาห่างออกไปเยอะแล้ว พ่อผมจึงตัดสินใจเร่งเครื่องเพื่อแซง ALTIS ขึ้นไปแต่พอกำลังแซงอยู่นั้น VIOS คันข้างหลังได้ กระพิบไฟ และ บีบแตรไล่ตลอดเวลา พ่อผมจึงเร่งเครื่องเพื่อจะแซงให้พ้นและหลบให้ แต่ขณะนั้นพ่อได้มองกระจกข้างซ้ายเพื่อจะดูว่าแซงพ้นแล้วหรือยัง ก็ได้เห็น ALTIS หักขวาขึ้นมาชนรถของพ่อผมบริเวณรอยต่อระหว่างแคปกับกระบะหลังจึงทำให้รถสนั่นทั้งคัน แล้วแม่ก็ได้บอกพ่อว่า ให้จอดรถ รถถูกชน แต่พ่อผมไม่ยอมจอดเพราะผิดสังเกตุ ในขณะนั้น VIOS ได้ขับแซงไป พ่อผมจึงขับต่อไปโดยมี ALTIS ตีคู่พร้อมบีบแตรให้จอด แต่แม่ผมได้บอกเค้าไปว่า จะไปจอดข้างหน้า จนขับไปถึงที่มีร้านค้าขายของริมทางเป็นทางยาว พ่อผมได้จอดรถ และได้ลงไปดูร่องรอยว่ารถทั้ง 2 คันเป็นอย่างไรบ้าง จึงเห็นว่าที่รถพ่อผมมีรอยที่ช่วงแคปกับกระบะหลังเป็นรอยบุบและถลอกสีหายไปเลยจุดเดียว (เหมือนหักมาชนแล้วหักออก) ไม่ได้เป็นทางยาวแต่อย่างใด ส่วน ALTIS เป็นรอยยุบบริเวณโป่งล้อด้านหน้าฝั่งคนขับ แล้วได้มีการพูดคุยกันเกิดขึ้น พ่อผมพูดขึ้นมาว่า “แล้วผมเห็นมีรถมาประกบผมนี่ ใช่พวกคุณหรือเปล่า เหมือนพวกหากินเลย” คนขับ ALTIS ก็พูดว่า “ผมขับป้ายแดงนะ หาว่าผมเป็นโจรหรอ” และ “ผมต้องการแค่คำขอโทษคำเดียว ก็จบแล้ว ทำไมต้องว่ากันด้วย” พ่อผมจึงกล่าวขอโทษไป จังหวะนั้นแม่ค้าแถวนั้นต่างหันมามองเพราะเริ่มเสียงดัง เจ้าของรถ ALTIS จึงรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว พ่อผมจึงตัดสินใจไม่ไปทำธุระ เลยหันหัวรถกลับทางเดิมเพื่อกลับบ้าน และก็ได้เห็น ALTIS (ป้ายแดงและมีรอยเฉี่ยวชนบริเวณโป่งล้อหน้าด้านคนขับ) และ VIOS คันดังกล่าวจอดอยู่ตรงจุดเดิมที่พ่อผมเห็นเขาในตอนแรก เพราะเป็นยูเทิร์นและมีไหล่ทางให้จอด แต่เมื่อรถของพ่อผมผ่านไปเห็นรถ 2 คันดังกล่าวได้เลี้ยวเข้าไปในซอยข้างๆ เหมือนหลบรถพ่อผม
ผมจึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นมิจฉาชีพแน่ๆ
ผมจึงอยากจะมาเตือนผู้ใช้รถใช้ถนนว่า ให้ระวังพวกมิจฉาชีพพวกนี้ไว้ดีๆ นะครับ ควรจะสังเกตุบ้างว่ามีอะไรผิดปกติหรือเปล่าถ้าคิดว่าผิดปกติ ขณะเกิดเห็นอย่างเพิ่งจอดรถครับ ควรจะขับต่อไปจนกว่าจะมีบ้านคน ชมชุน ร้านค้า หรือจะให้ดีก็ป้อมตำรวจเลยครับ จะปลอดภัยที่สุด เพราะถ้าหากพ่อผมจอดรถ อาจจะต้องเสียเงิน(หรืออาจจะโดนทำร้ายร่างกาย) เพราะอาจจะโดน VIOS คันนั้นเข้ามาสร้างสถานะการณ์เป็นพยานต์ด้วย จึงทำให้เราดูผิดเต็มๆ นี่ขนาดกลางวันแสกๆ ยังทำกันขนาดนี้ ถ้าเป็นกลางคืนจะน่ากลัวขนาดไหน ขอฝากทุกคนไว้ด้วยนะครับ
ปล.สถานที่เกิดเหตุ คือ บ้านคลองช้าง ต.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ครับ
ปล2. เห็นแม่บอกว่า ตอนลงมาไกล่เกลี่ยมี ชาย-หญิง ลงมา 2 คนเพื่อเจรจา แต่ได้สังเกตุเห็นมีผู้ชายอีก 2 คนนั่งอยู่เบาะหลังด้วย
โดยที่ไม่ทราบว่าคนที่นั่งในรถนั้นมีอาวุธหรือเปล่า เพราะถ้าหากจอดขณะเกิดเหตุ อาจจะเป็นอันตรายแก่ท่านได้นะครับ ระวังไว้ด้วย
ขอขอบคุณ : คน สร้างภาพ,สมาชิกหมายเลข 898169