โรคกระเพาะอาหาร ปวดแสบท้อง จุกแน่นบริเวณลิ้นปี่ รักษาให้หาย เพียงแค่กินสิ่งนี้
ปวดแสบปวดร้อน ปวดท้อง จุกแน่นท้องบริเวณลิ้นปี่ อาการเหล่านี้เป็นอาการของโรคกระเพาะ ที่หลายๆคนมักคิดว่า สาเหตุของโรคนี้คือ การไม่ได้กินข้าว กินข้าวไม่ตรงเวลา แต่ในความเป็นจริงแล้ว มีสาเหตุอื่นๆด้วยที่สำคัญ อ่านรายละเอียดด้านล่างเลยค่ะ
โรคกระเพาะอาหารอักเสบ (Gastritis) หรือ เรียกสั้นๆ ตามภาษาพูด โรคกระเพาะอาหาร หรือ โรคกระเพาะนี้เกิดจากการอักเสบ บวม แดง ของเยื่อบุภายในกระเพาะอาหาร โรคกระเพาะนั้นสามารถพบได้ในทุกอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ และโรคพบได้ใกล้เคียงกันทั้งหญิงและชาย สถิติในประเทศสหรัฐอเมริกาพบผู้ป่วยโรคกระเพาะกว่า 1.8 – 2.1 ล้านรายต่อปี
ผู้ป่วยเป็นโรคกระเพาะจะมีอาการสำคัญดังนี้
– ปวดหรือจุกแน่นท้องบริเวณใต้ลิ้นปี่ หรือ หน้าท้องช่วงบน โดยเฉพาะเวลาท้องร้องหรือหิว แต่เป็นอาการปวดที่ทนได้
– ในบางรายปวดหลังจากรับประทานอาหาร
– อาการปวดแน่นดังกล่าว สามารถบรรเทาด้วยยาลดกรดหรืออาหาร
– จะมีอาการปวดเป็นๆ หายๆ โดยมีการเว้นช่วงค่อนข้างนานแล้วกลับมาเป็นใหม่ เช่น ปวด 1 – 2 สัปดาห์ หลังจากนั้นอีกหลายเดือนจึงกลับมาปวดใหม่
– ปวดแน่นท้องกลางดึกหลังจากที่หลับไปแล้ว
– มีอาการท้องอืด ท้องขึ้น ท้องเฟ้อ เรอลม มีลมในท้อง ร้อนในท้อง คลื่นไส้อาเจียน
– ถึงจะมีอาการเรื้อรังเป็นปี สุขภาพทั่วไปยังไม่ทรุดโทรม
อย่างไรก็ตามอาการของโรคอาจจะไม่สัมพันธ์กับความรุนแรงของโรคเลยก็ได้ เช่น บางรายไม่มีอาการปวดท้อง แต่มีแผลใหญ่มากในกระเพาะอาหารและลำไส้
อาการแทรกซ้อนของโรคกระเพาะ
– อาเจียนเป็นเลือด ถ่ายเหลวเป็นสีดำ หน้ามืด วิงเวียน เป็นลม อันเนื่องมาจากเลือดออกจากแผลในกระเพาะอาหาร
– อาการปวดท้องช่วงบนแบบเฉียบพลัน หน้าท้องแข็งตึง กดเจ็บมาก อันเนื่องมาจากกระเพาะอาหารทะลุ
– อาเจียนหลังอาหารเกือบทุกมื้อ เบื่ออาหาร น้ำหนักลดลง รับประทานอาหารได้น้อย อิ่มเร็ว อันเนื่องมาจากกระเพาะอาหารอุดตัน
สูตรการรักษาโรคกระเพาะด้วยการใช้กล้วย
ขั้นตอนการทำ
1. หั่นผลกล้วยดิบเป็นชิ้นบางๆ ผึ่งแดดให้แห้ง และบดให้ละเอียด จนเป็นแป้ง ใส่ขวดโหลไว้ เวลาปวดท้อง
เนื่องจากโรคกระเพาะอาหาร เอาผงกล้วยน้ำว้า 1-2 ช้อนโต๊ะ ใส่ลงไปในถ้วย และเติมน้ำผึ้งแท้ 1 ช้อนโต๊ะผสมและคนให้ทั่ว กินวันละ 4 ครั้ง ก่อนอาหารและก่อนนอน
2. ใช้เนื้อกล้วยห่ามกินสด หรือใช้ผงกล้วยน้ำว้าดิบ กินรักษาอาการท้องเดิน
ขอบคุณข้อมูลจาก : คนรักสมุนไพร โดย นายหลินจือ , leejangmeng