6 สัญญาณ ใครเป็นแบบนี้แสดงว่าคุณแก่ไปก่อนวัยมากแล้วนะ
1. ผิวแห้ง แตกระแหง
ปัญหาช่วงวัยชราจะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องของผิวพรรณนั้นหลังอายุ 25 ปีแล้วสภาพแวดล้อมและสภาพหลายๆอย่างเป็นปัจจัยที่สามารถทำเป็นตัวเร่งให้เกิดปัญหาการเสื่อมโทรมของระบบต่อมไร้ท่อมากขึ้น แนะนำอยากให้คุณลองเปลี่ยน Lifestyle ดูพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดด อยากกินอาหารที่มันทำร้ายร่างกายของตัวเราเอง
2. ร่องลึกรอบดวงตา
ผิวหนังรอบเปลือกตาเป็นบริเวณที่สะท้อนปัญหาของไลฟ์สไตล์ได้ดีมาก ไม่ว่าจะนอนน้อย เครียดมาก หรือแม้แต่แสงยูวี ดังนั้นถ้าเกิดริ้วรอยต่างๆ ขึ้นในบริเวณนี้ เช่น ตีนกา ถุงใต้ตา ให้ตีโจทย์ได้เลยว่าร่างกายของเรากำลังเสื่อมก่อนวัย ทางแก้ไขคือควรนอนให้พอ อย่าทานเค็มมาก ดื่มน้ำเยอะๆ และพยายามดูแลบำรุงรักษารอบดวงตาอยู่เสมอ
3. ประจำเดือนไม่สม่ำเสมอ
ปัญหาประจำเดือนเป็นปัญหาปกติของผู้หญิงวัยทอง อายุ 46-54 ปี แต่ทุกวันนี้เรากลับพบว่าวัยใสมีปัญหามากกว่าวัยทองซะอีก นี่เป็นผลจากการที่อวัยวะภายในกำลังมีปัญหา และสามารถแก้ไข ป้องกันได้ด้วยการหมั่นตรวจสุขภาพบ่อยๆ ปรึกษาคุณหมอบ้างว่าอาการประจำเดือนเช่นนี้เกิดจากอะไร และหมั่นใช้ชีวิตแบบรักสุขภาพดูบ้าง นอนให้พอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายบ้างก็จะดีจ้ะ
4. ร่างกายเหนื่อยล้า
ถ้าการขึ้นบันได การเดิน หรือการเคลื่อนไหวต่างๆ ในชีวิตประจำวันเริ่มต้องใช้ความพยายาม นั่นอาจไม่ใช่ปัญหาของสิ่งภายนอก แต่เป็นสิ่งที่สะท้อนออกมาจากภายในว่าร่างกายของเราจริงๆ กำลังมีปัญหาเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร แต่อย่างไรก็ตาม ห้ามหยุดทำกิจกรรมเหล่านั้นเด็ดขาด อาจจะลองเลือกกิจกรรมที่ใช้แรงน้อยหน่อยทำเยอะขึ้น เช่น เล่นโยคะ เต้นเล็กน้อย ปั่นจักรยาน เพื่อให้กล้ามเนื้อต่างๆ ได้วอร์มไปเรื่อยๆ ทุกวัน ภายในเราจะได้แข็งแรงมากขึ้นเรื่อยๆ ทุกวัน
5. ผมร่วงอย่างเห็นได้ชัด
ปกติคนเราจะมีอัตราการผมร่วงเฉลี่ยประมาณ 50-125 เส้นต่อวันอยู่แล้ว แต่ถ้ามากกว่านั้น นั่นหมายถึงสภาวะการณ์ที่ควรพาตัวเองไปพบคุณหมอได้แล้ว เพราะเป็นสัญญาณเตือนภัยถึงการมีปัญหาด้านฮอร์โมนภายใน ซึ่งถ้าละเลยและปล่อยทิ้งไว้ไม่สนใจ มีปัญหาศีรษะล้านตามมาแน่นอน พยายามเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลรักษาเส้นผมแบบอ่อนโยน เลือกทานอาหารที่มีโอเมก้า-3 ให้เยอะขึ้น และหลีกเลี่ยงไม่ให้เส้นผมปะทะกับแสงแดดก็เพียงพอแล้วล่ะ
6. ปัญหาการนอน
การนอนไม่หลับ เป็นปัญหาใหญ่ที่เกิดขึ้นได้ทุกเพศทุกวัย แต่ถ้าเกิดขึ้นในช่วงก่อนอายุ 60 ปี เรายังสามารถแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ใหม่ ลองเล่นโยคะ ว่ายน้ำ หรืออ่านหนังสือก่อนนอนเพื่อพักผ่อนคลายหัวสมองที่เหนื่อยล้ามาทั้งวันดูบ้าง ปิดทีวี วางอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิดก่อนเวลาเข้านอนสัก 1 ชั่วโมง ก็จะช่วยให้การนอนหลับเป็นไปได้อย่างราบรื่นขึ้น
ขอขอบคุณ : brightside