6 อาหารแสลง ห้ามกินหลังผ่าตัด พร้อมแนะนำอาหารที่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

0

6 อาหารแสลง ห้ามกินหลังผ่าตัด พร้อมแนะนำอาหารที่ช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

อาหารแสลงที่ห้ามกินหลังการผ่าตัด บางคนเข้าใจผิดมาโดยตลอดว่าสามารถกินได้ แต่สิ่งที่เรากินไปนั้นอาจจะทำให้แผลที่เป็นอยู่หายช้า และอาจจะเกิดการอักเสบของแผลได้

เมื่อก่อนอาจจะเคยได้ยินว่า หลังผ่าตัด ควรงดกินไข่เพราะเป็นของแสลงจะทำให้เกิดแผลเป็น และแผลหายช้า แต่เรื่องนี้เป็นความเชื่อที่ผิดอย่างยิ่ง เพราะไข่เป็นแหล่งของโปรตีนชั้นดีที่หาง่ายและอยู่ใกล้ตัวไข่มีโปรตีนที่จะช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอหลังการผ่าตัด โปรตีนเหล่านี้จำเป็นต่อการสร้างเนื้อเยื่อและผิวหนังใหม่ที่ช่วยให้แผลหาย แต่การเกิดแผลเป็นเกิดจากความไม่สมดุลกันของร่างกายที่สร้างคอลลาเจนออกมาในปริมาณมากเกินไป จึงทำให้เกิดแผลเป็นและนูนได้ ความจริงเกี่ยวกับเรื่องแผลเป็นนั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะที่ถ่ายทอดมาทางพันธุกรรม ไม่ใช่เพราะไข่แต่อย่างใด

6 อาหารแสลง ห้ามรับประทานหลังผ่าตัด

1. สุรา เหล้า เบียร์ แอลกอฮอล์ ห้ามเด็ดขาด 1 เดือน เพราะว่าทำให้แผลหายช้าและอาจอักเสบได้ คือหากกินเหล้าเมาก็กลับดึกร่างกายไม่ได้พักผ่อน ซึ่งส่งผลเสียให้กับร่างกายอย่างมาก

2. อาหาร สุกๆดิบๆ หรือส้มตำปูปลาร้า บางคนชอบมาก คือลงแดงเลยถ้าไม่ได้กิน แต่ขอให้งดอาหารประเภทนี้ไม่ก่อน ต้องยอมรับว่าอาหารแนวๆนี้ไม่ค่อยสะอาดอาจทำให้แผลสกปรกได้

3. อาหารที่เสี่ยงต่อการเกิดอาหารแพ้ของคนไข้ในบางกลุ่ม เช่น อาหารทะเล เพราะถ้าคนไข้แพ้แล้วอาจตามมาด้วยตุ่ม ผื่นคัน สุดท้ายก็ส่งผลเสียให้กับแผลผ่าตัดด้วย

4. อาหารเสริมแปลกๆ สมัยนี้มีอาหารเสริมกลูต้า หรือยาลดน้ำหนักเยอะมากตามเน็ต ซึ่งไม่แน่ใจว่าจะมีส่วนผสมอย่างอื่นที่ไม่ดีต่อแผลหรือเปล่า แนะนำให้หยุดไปก่อนสักระยะ

5. อาหารหมักดอง เหตุผลก็เพราะว่าอาหารเหล่านี้ให้เวลาในการหมัก และเป็นอาหารที่ไม่สะอาด อาจส่งผลกับแผลผ่าตัดได้

6. ห้ามกินหน่อไม้ ทั้งแบบดองและแบบสด ความจริงแล้ว สามารถรับประทานได้ แต่ต้องให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป และมีกระบวนการผลิตที่สะอาด ปลอดภัย และเชื่อถือได้เท่านั้น

อาหารรักษาแผลหลังผ่าตัดให้หายเร็ว

อาหารมีความสำคัญต่อการหายของบาดแผลทั้งภายในและภายนอก โดยทำให้เนื้อเยื่อสมานติดกันทำให้แผลหายเร็วขึ้น เมื่อมีบาดแผลและแพทย์บอกให้กินอาหารได้ตามปกติ ท่านควรเลือกอาหารที่ช่วย ให้แผลหายเร็วขึ้น ดังนี้

1. กินอาหารเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่น้ำหนักตัวต่ำกว่าเกณฑ์ก่อนผ่าตัด เพื่อให้ได้รับพลังงานมากขึ้น เพราะหากผู้ป่วยมีพลังงานสำรองในร่างกายไม่พอและมีภาวะขาดสารอาหาร เมื่อร่างกายต้องพบกับภาวะการเผาผลาญที่เพิ่มสูงขึ้นภายหลังการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดใหญ่ อาจมีผลทำให้แผลผ่าตัดหายช้าและเกิดภาวะแทรกซ้อนต่างๆ

2. เพิ่มโปรตีนคุณภาพ อาหารที่มีโปรตีนสูงจะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อที่ถูกทำลาย ทำให้แผลหายเร็ว โดยเลือกโปรตีนคุณภาพดีมีกรดอมิโนจำเป็นครบถ้วน เช่น เนื้อปลา หากกินอาหารมังสวิรัติแนะนำให้กินพวกธัญพืช และถั่วต่างๆ ให้หลากหลาย ทั้งถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วดำ ถั่วแดง

3. เลือกไขมันดี กินข้าว แป้งให้เพียงพอ ไขมันดี ได้แก่ กรดไขมันไม่อิ่มตัวตำแหน่งเดียว และหลายตำแหน่ง ให้พลังงานสูง ช่วยป้องกันร่างกายสลายโปรตีนจากกล้ามเนื้อมาใช้เป็นพลังงาน ใช้สร้างและซ่อมแซมเยื่อหุ้มเซล ช่วยให้แผลสมานเร็ว ไขมันดีพบในน้ำมันมะกอก รำข้าว ถั่วลิสง ถั่วเหลือง งา ถั่วเปลือกแข็ง เช่น เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ถั่วลิสง นอกจากนี้ มีกรดโอเมก้า-3 จากปลา จะช่วยลดการอักเสบและช่วยรักษาบาดแผล การกินอาหารประเภทข้าวแป้ง ข้าวไม่ขัดขาว ขนมปังโฮลวีต เผือก มันเทศ ผักผลไม้ต่างๆ การกินอาหารที่ให้พลังงานเพียงพอจะช่วยป้องกันร่างกายดึงโปรตีน ทำให้โปรตีนสามารถซ่อมแซมเนื้อเยื่อและรักษาบาดแผลได้อย่างเต็มที่ สำหรับผู้ที่น้ำหนักเกินไม่ควรจำกัดอาหารเพื่อลดน้ำหนักจนกว่าแผลจะหาย ผู้ที่น้ำหนักน้อยควรกินอาหารเพิ่มขึ้นผักผลไม้-1

4. กินอาหารที่มีวิตามินให้เพียงพอ ได้แก่ วิตามินซี เอ ธาตุสังกะสี และธาตุเหล็ก ที่มีส่วนช่วยทำให้บาดแผลหายเร็ว วิตามินซีช่วยเสริมสร้างเนื้อเยื่อโปรตีนสำคัญที่ใช้สร้างผิวหนัง รักษาบาดแผล และเป็นส่วนประกอบสำคัญของหลอดเลือด เอ็นและกระดูก วิตามินซีพบมากในผลไม้พวก ฝรั่ง ลิ้นจี่ มะละกอ ส้ม วิตามินเอ มีส่วนช่วยกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อ หากขาดจะทำให้แผลติดเชื้อ แผลหายช้า แหล่งวิตามินเอ ได้แก่ ปลา ผักใบเขียว แตงโม มะละกอ สังกะสี มีบทบาทช่วยสังเคราะห์โปรตีนและเนื้อเยื่อช่วยผลิตเซลล์ผิวใหม่และสมานแผล พบมากในปลาและอาหารทะเล ธาตุเหล็ก เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ทำหน้าที่ลำเลียงออกซิเจนไปยังบาดแผล อาหารที่มีธาตุเหล็กสูง พบมากในปลา ผักโขม ผักบุ้ง คะน้า ถั่วเมล็ดแห้งต่างๆ สามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินซีสูงร่วมด้วย และดื่มน้ำวันละ 6–8 แก้ว น้ำเป็นส่วนประกอบหลักของเลือด หากขาดน้ำการไหลเวียนเลือดขาดประสิทธิภาพทำให้ออกซิเจนและสารอาหารลำเลียงไปยังบาดแผลไม่เต็มที่ บาดแผลที่รอซ่อมแซมสมานตัวช้า กินน้ำให้มากพอให้กินอาหารว่างที่มีน้ำ เช่น ซุปใส ผลไม้ที่มีน้ำจำพวกส้ม แตงโม

ขอบคุณข้อมูลจาก : โรงพยาบาลลำปาง

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่