เห็นผลดีจริง! แก้อาการปวดหลัง ปวดเมื่อยตัว แค่ดื่มน้ำมะพร้าวผสมกับสิ่งนี้
อาการปวดเมื้อยตามกล้ามเนื้อ มักจะเกิดจากการที่เรานั้นให้กล้ามเนื้ออย่างหนัก หรือมากเกินไป ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ได้รับแรงกระแทกเกิดอาการอักเสบ บวมช้ำ ทำให้รู้สึกเจ็บและปวดได้
วันนี้เราได้มาแชร์ประสบการณ์ของคุณภิมุขดื่มเองเมื่อก่อนทำงานการรถไฟปวดเมื่อยประจำดื่มแล้วหายดี แก้ปวดหลัง ปวดเมื่อยตัว และให้คุณแม่ของเพื่อนอายุ 80 ปีกว่าเตรียมผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล ดื่มแล้วก็ไม่ต้องผ่าตัด หากใครได้ฟังรายการทั่วทิศถิ่นไทยก็คงได้ทราบบ้างแล้วว่ามีใครดื่มแล้วหายจากการปวดที่อื่นด้วยไม่ใช่เฉพาะการปวดหลัง
เมื่อครั้งได้พบกับน้องปู น้องตูม และน้องเขี้ยว ก็เอ่ยบอกเล่ากันขึ้นมาอีกว่าเหตุผลอะไรที่ไม่เขียนบันทึก คือจำนวนครั้งที่ดื่มกี่ครั้งแล้วหาย หลังจากนั้นไม่นานทราบว่าน้องเขี้ยวก็เจ็บปวดหลัง และสนับสนุนให้เขียนบันทึกเรื่องนี้ นำมาฝากดังนี้นะคะ
ส่วนประกอบ
1. น้ำมะพร้าวอ่อน 1 แก้ว
2. พริกไทยเม็ด จำนวนเม็ดเท่าอายุ ชนิดขาวหรือดำก็ได้
วิธีการทำและการดื่ม
– นำพริกไทยเม็ด ขาวหรือดำก็ได้ นับตามจำนวนอายุของเรา มาตำหรือบดให้ละเอียด
– จากนั้นนำน้ำมะพร้าวกับพริกไทยใส่รวมกันหรือจะตักพริกไทยใส่ในลูกมะพร้าว แล้วแต่ผู้ดื่มจะดื่มแบบไหน
– ใช้ช้อนคนระหว่างดื่ม ถ้าไม่คนพริกไทยจะนอนก้นแก้วจะดื่มไม่หมดพร้อมกัน หมดไปพร้อมกัน แต่ถ้าไม่หมดพร้อมกันก็ตักพริกไทยตามได้ค่ะไม่เผ็ด
ในการทำดื่มนั้นตามที่คุณภิมุข รัตนอาภา เผยแพร่นั้น บอกไว้ว่าทำดื่มเพียงปีละ 1 ครั้ง 3 ปี แต่หลายคนที่ทำดื่ม นั้นไม่เหมือนกันคือบางคนทำดื่มหลายครั้งจนหายเจ็บปวด ซึ่งทั้งน้ำมะพร้าวอ่อนและพริกไทยนั้น ปกติส่วนใหญ่แล้วเป็นสมุนไพรธรรมชาติ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การดื่มต่อครั้งไม่มาก เห็นว่าไม่น่าเป็นอันตรายอะไร จึงได้บอกกล่าวกันต่อๆมาโดยบอกตามที่ทราบ แต่ผู้ทำดื่มกี่ครั้งก็แล้วแต่ผู้ดื่ม ซึ่งคุณวอญ่าดื่มบ่อยแค่ไหน คงต้องรบกวนเขียนบอกกล่าวให้เราทราบได้เมื่อคุณวอญ่าแวะมาเยี่ยมเยียนบันทึกนี้ เราคงได้ทราบกันนะคะ
สรรพคุณน้ำมะพร้าวอ่อน
1. ลดไข้ วุ้นเนื้อมะพร้าวอ่อนกับน้ำมะพร้าวอ่อนเป็นยาเย็น ช่วยให้อาการไข้ตัวร้อนทุเลาลง
2. แก้ร้อนใน ดื่มน้ำมะพร้าวในตอนเช้าให้หมดลุกและตอนบ่ายอีกหนึ่งลูกจนหมด กินเนื้อด้วยก็ได้
3. รักษาดีซ่าน ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนครั้งละ 3 ผล เช้า กลางวัน เย็น ทุกวันเพียง 2 วันก็หายได้
4. แก้ตาอักเสบ เอาน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ถ้วยผสมน้ำตาลทรายแดงให้หวานจัดๆเอาไว้ดื่ม วันละ 2 ครั้ง เช้าเย็น อาการอักเสบที่ตาจะค่อยๆหายไปเองในที่สุด
5. แก้โรคบิด ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนครั้งละ 1 ผล เช้า กลางวัน เย็น แก้โรคบิดได้ดีมาก
6. บำรุงผิวพรรรณ ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนสัปดาห์ละ 4 -5 ผล ช่วยบำรุงผิวพรรณ แก้ผดผื่นคัน บำรุงร่างกายให้สดชื่น
7. แก้ปัสสาวะขัด ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน ครั้งละ 1 ผล เช้า กลางวัน เย็น
8. แก้ปวดศีรษะ ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน ไม่ช้าไม่นานก็หายปวดหัว
9. แก้พิษเบื่อเมา ได่ดี ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อน 1 ลูกไม่กินเนื้อ อีก 2 -3 ชั่วโมง ดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนเย็นเข้าไปอีก แก้วิงเวียน เมา ปวดท้อง ปวดไส้ ล้างพิษที่เกิดขึ้นได้ดี
10. แก้เมาเหล้า เอาน้ำมะพร้าวอ่อน ไม่ต้องแช่เย็น ดื่อมแก้เมา แก้อาเจียน จากเหล้าได้ดี
11. แก้คลื่นไส้อาเจียน เอาน้ำมะนาว 1 ซีกบีบผสมน้ำมะพร้าวอ่อน ดื่มแก้อาเจียนได้ดี
สรรพคุณพริกไทยดำ
สรรพคุณและมีฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา ยับยั้งระดับน้ำตาลในเลือด ลดระดับน้ำตาลในเลือด ต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส ขยายหลอดเลือด ต้านออกซิเดชั่น ลดความดันโลหิตสูง กระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
สมุนไพรทั้ง 2 ชนิดพอหาได้ไม่ยากในแต่ละท้องถิ่นไม่ว่าในเมืองหรือชนบท ทำดื่มได้เอง ไม่ว่าจะใส่พริกไทยมากน้อยเท่าอายุเท่าไหร่ ไม่เผ็ดนะคะ เพราะน้ำมะพร้าวแต่ละลูกก็ได้มากผสมกับพริกไทยไม่ได้เข้มข้น ดื่มได้อย่างสบายหอมหวานคล่องคอ ค่ะได้ผลอย่างไรแวะมาเล่าให้ทราบกันบ้างนะคะ
ประสบการณ์จากคนที่มีอาการป่วยกระดูกทับเส้นประสาท
เรียนคุณกานดา เรื่องการกินพริกกับน้ำมะพร้าวผมปฎิบัติดังนี้ ..ตอนที่ปวดอยู่ ผมกิน สามวันครั้ง แต่ตอนนี้หายปกติแล้วก็ยังกินอยู่ แต่นานครั้งบางที่เดือนละหนึ่งครั้ง
วิธีการผมใส่ความเชื่อ ความศรัทธาลงไปในสิ่งที่ทำกิน ขั้นตอนก็คือ
1. น้ำเม็ดพริกเท่าอายุ ตัวอย่างผมอายุ 58 ปี 6เดือน ผมใช้เม็ดพริก 59 เม็ด ตำในครกหิน…ย้ำตำในครกหิน และย้ำต้องตำเอง แล้วขณะที่ตำพริก ก็ให้นึกถึงในสิ่งที่ศรัทธา พร้อมกับกล่าวว่า” หากเป็นพี่น้องศาสนาพุทธ อาจใช้คำว่า…โอม มะหลุกคลุกคลิก ขอให้ข้าหายป่วยด้วยพริกหายป่วยด้วยมะพร้าว
2. เมื่อตำพริกแหลกละเอียดแล้วก็ นำพริกมาใส่ในน้ำมะพร้าว ผมใช้มะพรา้วทั้งผลไม่เอาน้ำรินใส่แก้ว แล้ว หางตะใคร้คนให้พริกกับน้ำมะพร้าวเข้ากัน พร้อมกับนึกถึงสิ่งศรัทธากล่าวว่า” โอม มะหลุกคลุกเคล้า ขอให้หายด้วยมะพร้าวให้หายด้วยพริก” ผมทำย่างนี้ และทำการนวดกับแพทย์แผนไทยด้วย….แต่สรุปว่าผมหายป่วยโดยไม่ต้องผ่าตัด หากจะตามไปดูก็เชิญที่นี้
ขอบคุณข้อมูลจาก : naykhaotom