วิธีรักษาอาการปวดฟันให้หายภายใน 2 นาที ต้องลอง!!
อาการปวดฟันถ้าใครไม่เคยเจอก็คงไม่เข้าใจ แต่ใครที่เคยเจอก็คงจะรู้ซึ้งถึงความทรมานนี้เป็นอย่างดีจนถึงขนาดต้องพึ่งยาแก้ปวดกันเลยทีเดียว แต่บางครั้งยาก็ช่วยเราไม่ได้ทั้งหมด ซึ่งอาการปวดฟันจะแตกต่างจากอาการปวดขาหรือปวดไมเกรน และอาการปวดฟันมีผลกระทบต่อชีวิตของเราเป็นอย่างมาก
อาหารการกินมีผลต่อสุขภาพฟันของคุณ! แต่คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะวันนี้เรามีวิธีช่วยคุณรักษาอาการปวดฟันให้หายได้ในเวลาเพียงไม่กี่นาที
แต่ถึงอย่างไรก็ตามเมื่อคุณพบว่ามีอาการปวดฟันที่ยังไม่รุนแรงมากนัก คุณควรรีบเข้าพบหมอฟันเพื่อตรวจสอบและทำการรักษาอย่างถูกต้องทันที
และนี่คือส่วนผสมจากธรรมชาติที่จะช่วยให้คุณหยุดอาการปวดฟันได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งส่วนผสมยังหาง่ายและคุณสามารถทำเองได้ด้วยส่วนผสมเพียงสองชนิดนี้เท่านั้น
ส่วนผสม
– ผงกานพลู
– น้ำมันมะพร้าว
ขั้นตอนการทำง่ายมากคุณเพียงแค่ผสมส่วนผสมนี้อย่างละครึ่งช้อนชาให้เข้ากันและนำไปทาบริเวณเหงือกและฟันที่ปวดเท่านั้น ทำวันละสามครั้งเพื่อหยุดอาการปวดฟันของคุณ
นอกจากนี้ยังมีสมุนไพรรักษาอาการปวดฟันลงได้ในระดับหนึ่ง คือ
1. กานพลู
ในวงการทันตกรรม กานพลูถือเป็นสมุนไพรที่ช่วยรักษาอาการปวดฟันได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะน้ำมันจากดอกกานพลูที่มีฤทธิ์เป็นยาชาซึ่งทันตแพทย์บางคนนำมาใช้ทดแทนยาชาที่มีฤทธิ์รุนแรงเพื่อความปลอดภัยของคนไข้ อีกทั้งน้ำมันกานพลูยังช่วยฆ่าเชื้อโรคที่เกิดขึ้นภายในช่องปากอีกด้วย วิธีใช้ก็ไม่ยากเพียงนำสำลีพันปลายไม้ชุบน้ำมันกานพลูแล้วนำไปจิ้มไว้ตรงบริเวณฟันที่ปวดสักครู่ก็จะช่วยให้อาการบรรเทาลง แต่ถ้าหากไม่มีน้ำมันกานพลูละก็ สามารถนำกานพลูมาอมไว้บริเวณที่ปวด หรือนำไปทุบแช่กับเหล้าขาว จากนั้นนำสำลีชุบเหล้าขาวมาอุดไว้ที่ตรงที่ปวดได้เช่นกัน
2. ดาวเรือง
ดอกดาวเรืองที่เราคุ้นเคยชนิดนี้มีดีมากกว่าแค่เพียงไว้ใช้ประดับให้สวยงามเท่านั้น เพราะถ้าหากนำดอกแห้ง 7-8 ดอกไปต้มกับน้ำในปริมาณที่พอเหมาะแล้วจิบทั้งวัน ก็สามารถลดอาการปวดฟันได้โดยไม่ต้องพึ่งยาแก้ปวด อีกทั้งยังสามารถขับร้อนในร่างกายได้อีกด้วย
ถึงแม้ว่าสมุนไพรที่เรายกม้านี้จะสามารถช่วยบรรเทาอาการแก้ปวดฟันได้ แต่ผู้ป่วยควรขอคำแนะนำจากแพทย์โดยตรงเพื่อจัดการกับปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาพเหงือกและฟัน และควรดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีเป็นประจำ
เรียบเรียงโดย : postsod.com
ขอขอบคุณ : อ้างอิง greentreemedic.com, แปลโดย rak-sukapap.com
: health.kapook.com