นักศึกษามหาวิทยาลัย แต่งงานกับสาวแผงลอย เวลาผ่านไป เกิดเป็นสิ่งที่ใครก็คาดไม่ถึง.!?
นี่เป็นแค่เรื่องเล่า! หลังปิดไฟเตรียมเข้านอน ภรรยาสาวคุยกับสามี: “อาเฉียง โรงงานในหมู่บ้านกำลังรับสมัครคนงาน พรุ่งนี้คุณไปลองดูมั้ย”
อาเฉียงเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเพียงคนเดียวในหมู่บ้าน หลังเรียนจบก็หางานที่เหมาะกับตัวเองไม่ได้สักที เขาอยู่บ้านเฉยๆมา 2 ปีแล้ว รายจ่ายทั้งหมดก็ตกเป็นหน้าที่ของภรรยาที่ต้องไปตั้งแผงลอยขายของ
“ผมเรียนจบตั้งมหาวิทยาลัย จะให้ไปเป็นคนงานในโรงงาน ผู้หญิงอย่างคุณไม่เข้าใจ ระดับผมต้องทำบริษัทใหญ่” อาเฉียงไม่พอใจ หันหลังให้ภรรยาแล้วเข้านอน
“อาเฉียง ฉันไปขายของกลับมามืดค่ำ คุณอยู่บ้านทำอาหารเย็นได้มั้ย” เหมยลี่ปรึกษากับสามีที่นั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ ขณะเธอกำลังเตรียมอาหารเย็นหลังจากไปขายของเหนื่อยมาทั้งวัน
“ผมเป็นผู้ชายที่ต้องทำเรื่องยิ่งใหญ่ ทำอาหารซื้อของเป็นเรื่องของผู้หญิงอย่างคุณ อย่ามาโยนให้ผม” อาเฉียงไม่แม้แต่หันหน้ามามอง ยังคงเล่นเกมส์ต่อไป ความหมายก็คือไม่ต้องการช่วยเหมยลี่
แต่เหมยลี่ก็ไม่ยอมแพ้ “งั้นตอนกลางวันคุณมาช่วยฉันขายของมั้ย ช่วงนี้ลูกค้าเยอะ ฉันทำคนเดียวไม่ทัน เราสองผัวเมียช่วยกันขาย ร้านจะต้องไปด้วยดีแน่ๆ” จริงแล้วเธออยากให้อาเฉียงมาช่วย ยิ่งตอนนี้เขายังหางานไม่ได้สักที อย่างนั้นสองผัวเมียมาช่วยกันทำร้านเล็กๆให้ใหญ่ขึ้นก็ไม่เลวเลย
แต่คำพูดของเธอก็ไม่สามารถทำให้เขาหันมาสนใจได้ เขาฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา: “โอ๊ย! ร้านคุณมันแค่แผงลอยเล็กๆ ผมเป็นถึงนักศึกษามหาลัย ไม่ไปขายอะไรเล็กน้อยอย่างนั้นหรอก”
เหมยลี่มองด้านหลังของอาเฉียงที่เอาแต่เล่นเกมส์ เธออ้าปากจะพูด แล้วก็ต้องหุบปากลง…วันเวลาผ่านไป อาเฉียงเอาแต่อยู่กับบ้าน รอโอกาสทองของเขา และเหมยลี่เองก็ไม่เคยพูดเรื่องนี้กับเขาอีกเลย เธอออกไปขายของที่ร้านของเธอตอนกลางวัน กลางคืนกลับมาจัดการบ้านที่อาเฉียงทำรกไว้ เธอเหนื่อยจนหัวถึงหมอนก็หลับทันที ส่วนสามีถ้าไม่เล่นคอมพิวเตอร์ก็ออกไปกินเหล้ากับเพื่อนฝูง
อยู่มาวันหนึ่งเขาไปได้ยินว่า ลูกชิ้นปลาของเหมยลี่ไปเตะตานักธุรกิจใหญ่ เหมยลี่กำลังจะกลายเป็นหุ้นส่วนในบริษัท เขาก็รีบกลับบ้านไปคุยกับเธอทันที
“อาลี่ มีคนบอกว่ามีนักธุรกิจใหญ่มาสนใจลูกชิ้นปลาของคุณ คุณกำลังจะกลายเป็นหุ้นส่วนใหญ่”
“อืม ทำไมหรอ” เธอกำลังหันหลังให้เขา เตรียมอาหารเย็น
“นั่นมันบริษัทใหญ่ คุณแนะนำผมเข้าไปหน่อยสิ นี่เป็นโอกาสดีของผมแล้ว” อาเฉียงยิ่งพูดยิ่งดีใจ เขารู้สึกได้ว่าโอกาสของเขามาถึงแล้ว
“คุณคุ้นเคยกับขั้นตอนการผลิตมั้ย”
“ไม่คุ้นอ่ะ”
“คุณมีคอนเนคชั่นมั้ย”
“ไม่ ไม่มีป่ะ”
“คุณมีประสบการณ์ด้านการบริหารมั้ย”
“ไม่มี”
เหมยลี่หันมาคุยกับเขา “แล้วบริษัทจะเอาคุณไปทำอะไร”
“ผมจบมหาวิทยาลัย ผมเคยเรียนในมหาวิทยาลัย”
ไม่นานหลังจากนั้นอาเฉียงก็ได้รับหนังสือหย่า
ข้างในมีกระดาษโน๊ตเขียนคำพูดของเหมยลี่:
คุณทำอาหารเป็นมั้ย? ไม่เป็น
คุณเคยทำงานบ้านมั้ย? ไม่เคย
คุณเคยรู้เคยเข้าใจว่าภรรยาอย่างฉันลำบากแค่ไหนมั้ย? ไม่เคย
คุณเคยรับผิดชอบอะไรในครอบครัวมั้ย? ไม่เคย
ฉันเป็นผู้หญิง เป็นภรรยาของคุณ
เวลาฉันทำงานเหนื่อยๆก็อยากให้คุณมาช่วยแบ่งเบา แต่คุณกลับเอาแต่เล่นเกมส์ กับออกไปกินเหล้ากับเพื่อนๆ
ฉันทำงานบ้านแสนเหนื่อย แต่คุณกลับบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของฉันคนเดียว
อาเฉียง งานการดีๆรอไปๆก็ไม่มี ใจฉันก็เหมือนกัน
ในเมื่อทำงานหาเลี้ยงครอบครัวเป็นหน้าที่ของฉัน ทำงานบ้านเป็นหน้าที่ของฉัน ถ้าอย่างนั้นครอบครัวนี้ก็ไม่จำเป็นต้องมีคุณ คุณไม่เหมาะกับตำแหน่ง “สามี” อีกต่อไป
ในชีวิตของคนเรา
เรื่องเล็กๆทุกเรื่องในวันนี้จะสะสมเป็นเรื่องใหญ่ของคุณในอนาคต
เพราะฉะนั้นไม่ว่าเรื่องงานหรือหัวใจ:
“ปฏิเสธ” ให้น้อย “ปฏิบัติ” ให้มาก
“บ่น” ให้น้อย “พยายาม” ให้มาก
“สนุก” ให้น้อย “ลำบาก” ให้มาก
จำไว้
แท็กซี่ที่ไม่ขยัน จะถูก Uber แย่งงาน
พนักงานที่ไม่ขยัน จะถูกพนักงานใหม่แย่งตำแหน่ง
เถ้าแก่ที่ไม่ขยัน จะถูกกลืนกินโดยคู่แข่ง
คนที่ไม่ขยัน จะถูกแทนที่โดยคนที่ยอดเยี่ยมกว่า
ไม่ว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย อยากให้คุณเข้าใจ : คุณไม่ทำมีคนทำแทนคุณ คุณไม่พยายามมีคนกำลังพยายาม คุณไม่แข่งขันจะมีคนคัดคุณออก ทะนุถนอมคนที่อยู่ตรงหน้า ลองทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้า คุณแค่รับผิดชอบในการพยายาม โชคชะตาจะจัดการส่วนที่เหลือเอง
ขอขอบคุณ : liekr