ลูกไม่มีแม่!? ช่วงวันแม่ โรงเรียนเชิญแม่มา สิ่งที่เด็กคนหนึ่งจุกเต็มอก เพราะเจอเหตุการณ์แบบนี้

0

ลูกไม่มีแม่!? ช่วงวันแม่ โรงเรียนเชิญแม่มา สิ่งที่เด็กคนหนึ่งจุกเต็มอก เพราะเจอเหตุการณ์แบบนี้

มีเจตนาจะเขียนให้ครูและผู้บริหารทุกโรงเรียนอ่าน…เผื่อพวกท่านจะได้ทบทวนว่าที่ทำๆกันมาหลายปีนั้นถูกต้องดีแล้วหรือ.?

ความคิดเห็นส่วนตัวสำหรับกิจกรรมวันแม่ตามโรงเรียนที่ไม่เห็นด้วยที่จะต้องเรียกแม่ ของเด็กๆ ไปให้ลูกกราบหรือมอบพวงมาลัยดอกมะลิหรือติดดอกมะลิให้แม่ที่โรงเรียนเพราะ ยังมีเด็กอีกกลุ่มที่ไม่สามารถพาแม่มาโรงเรียนได้

เช่น-พ่อแม่เลิกกัน แม่เสียชีวิตไปแล้ว แม่ไปมีสามีใหม่ไม่มาหาลูก หรือแม่กำลังป่วยหนัก คุณอาจจะเอากลุ่มใหญ่เป็นหลักว่าส่วนใหญ่มีครบทั้งพ่อแม่

แต่พวกคุณเคยนึกถึงความรู้สึกของเด็กที่ไม่มีแม่มองเห็นภาพเพื่อนๆนำดอกมะลิกราบแม่ติดดอกมะลิที่เสื้อแม่มั้ย.?

สายตาเด็กเหล่านั้นเป็นอย่างไร.?

บางคนนั่งแอบเสาอาคารร้องไห้ บางคนสะอื้นไห้กลางวงเพื่อนนักเรียนด้วยกัน

ที่ เขาร้องไห้เพราะเขาเห็นเพื่อนๆมีแม่มาอวด ขณะที่ตัวเองนึกไม่ออกว่าแม่อยู่ที่ไหน บางคนแม่ตายตั้งแต่อายุไม่ถึง 1 ขวบ บางคนแม่ไปทำงานกรุงเทพฯกลับบ้านพร้อมกับเด็กน้อยเอามาเป็นภาระให้ย่าหรือ ยายเลี้ยงแล้วก็หายหน้าไปเลย

เขาและเธอไม่เคยเห็นหน้าแม่จริงๆเลย

เด็ก เหล่านี้แม้มีไม่กี่คนแต่ความสุขที่มันกำลังหลั่งล้นของคนที่มีแม่มันแอบทำ ร้ายจิตใจเด็กๆเหล่านี้ เรามั่นใจว่ากิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดทำให้เด็กๆเหล่านี้สะเทือนใจมาก

วิธี แก้ไม่ให้เด็กไร้แม่ปวดใจคือให้เด็กๆไปกราบแม่ของแต่ละคนที่บ้าน จะเป็นแม่จริงๆหรือคนที่เลี้ยงแทนแม่จริงก็เป็นเรื่องของทางบ้าน โดยก่อนถึงวันนั้นจะต้องโน้มน้าวให้เด็กซึ้งในพระคุณของคนที่เลี้ยงดู และของแม่ที่ให้กำเนิดโดยแยกแยะอธิบายว่าใครมีบทบาทอย่างไรที่ทำให้เขาเติบ โตเป็นมนุษย์และอย่าพูดคำว่า“กำพร้าแม่”เด็ดขาด

วันสำคัญดังกล่าว โรงเรียนควรจัดกิจกรรมเป็นการน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของแม่ของชาติเท่า นั้น คือกิจกรรมเพื่อ“สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนารถ”

เน้น “แม่ของแผ่นดิน”เป็นหลัก ไม่ต้องลากเอาแม่ของลูกๆมาโรงเรียนอย่างที่ทำกัน

ก่อน จะเริ่มพิธีที่โรงเรียนครูจะต้องพูดว่าวันนี้เป็นวันแม่และทุกคนต่างนึกถึง พระคุณของแม่ผู้ให้กำเนิด แต่เราต้องนึกถึงพระคุณของผู้ที่เลี้ยงดูเราทุกคนด้วยเพื่อตอบแทนพระคุณของ คุณแม่ และของคุณพ่อ คุณปู่ คุณย่า คุณตาย คุณยาย รวมทั้งคุณป้า คุณอา ที่ช่วยเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่หลังจากเสร็จพิธีในวันสำคัญที่โรงเรียนแล้ว พวกเธอกลับบ้านต้องทำตัวให้เป็นประโยชน์ให้พวกท่านเหล่านั้นชื่นชมเช่น

– ช่วยกวาดบ้าน ถูบ้าน

– ชักเสื้อผ้าเอง ซักถุงเท้า ซักรองเท้าเอง

– ช่วยเป็นลูกมือขณะผู้ใหญ่ทำกับข้าวเช่นช่วยล้างผัก เก็บจาน แกะเปลือกกระเทียมฯลฯ

– ช่วยล้างถ้วย ล้างจาน

– ทำอย่างนี้เป็นกิจวัตรประจำวันนอกเหนือจากทำการบ้านที่ครูสั่ง

– และ…มีอะไรที่เด็กทำได้ท่านผู้เป็นครูก็เสริมเขาไป

ขออย่าให้เด็กมีความรู้สึกอ้างว้างและหดหู่อีกเลย

ไม่ควรให้เด็กที่รู้สึกขาดแม่ไม่เสียใจ

จริง อยู่ที่ทุกคนจะมีน้ำตาเหมือนกัน มีการร้องไห้เหมือนกันแต่คุณอาจจะมีน้ำตาเพราะคุณมีความสุขปลื้มปีติ ได้หน้าได้ตาได้รับการชื่นชมจากหน่วยเหนือ

หากโรงเรียนไม่เอาแม่ของเด็กมานั่งบนเก้าอี้ แล้วให้เด็กนำดอกมะลิมามอบและกราบแม่บนเวทีห้องประชุมมีความผิดอุกฉกรรจ์ไหม

หันมารณรงค์ให้เด็กๆสนใจที่จะมอบความรักทดแทนพระคุณแม่ในทุกๆที่ทุกๆโอกาส ให้หันมาทำดีกับแม่ทุกวันทุกเวลาดีกว่าทำต่อหน้าสาธารณชน

อย่า ทิ้งให้เด็กเหล่านี้นั่งพิงเสาร้องไห้ หรือแอบมองภาพแม่กอดเพื่อนอย่างเจ็บปวด ปลูกฝังให้เข้มแข็งบอกกล่าวในสิ่งดีว่าแม้เด็กๆจะไม่มีแม่แต่คนที่เลี้ยงดู มา ก็สามารถทำหน้าที่แม่ได้แม้จะไม่เท่าแม่จริงๆก็ตามให้เค้ามีความเข้มแข็ง เพิ่มกำลังใจเข้าไป

ขอขอบคุณ : หมาพันธุ์ปั๊ก

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่