พ่อค้าแม่ขายต้องอ่าน…สิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบไหนเสริมความเฮงให้ร้านเรา
จะเปิดร้านค้าขายอะไร ใครๆ ก็ต้องอยากให้ร้านของตัวเองเฮงๆ มีลูกค้าเพียบ รับทรัพย์กันรัวๆ ทั้งนั้น ซึ่งนอกจากการคัดเลือกสินค้าและการโปรโมทร้าน สิ่งหนึ่งที่เรามักจะเห็นพ่อค้าแม่ขายหลายคนให้ความสำคัญกัน ไม่ว่าจะร้านเล็กหรือร้านใหญ่ นั่นคือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่เชื่อกันว่าถ้าตั้งไว้ในร้านแล้วล่ะก็จะช่วยเสริมความเฮงและเพิ่มยอดขายได้
แต่จะเลือกสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบไหนถึงจะเหมาะ วันนี้เรามีข้อมูลมาฝากกันเกี่ยวกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์แบบต่างๆ ที่ถึงจะช่วยเสริมโชคเหมือนกัน แต่ก็มีที่มาแตกต่างกัน เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจได้เรื่องนี้ได้ง่ายขึ้น
1. นางกวัก
เทพีแห่งความเป็นมงคลที่เชื่อกันว่าจะต้องกวักเรียกเงิน เรียกทอง เรียกโชคลาภ มาให้ที่ที่ประทับอยู่ ที่มาของนางกวักนั้นเล่ากันว่าในสมัยพุทธกาล ยังมีหญิงชื่อ สุภาวดี ที่ครอบครัวมีอาชีพค้าขาย แต่ไม่ได้ร่ำรวยนัก จนวันหนึ่งที่นางไปช่วยพ่อแม่ขายของในตลาดและได้ฟังธรรมจากพระอรหันต์ 2 องค์ จนแตกฉานในหลักธรรม พระอรหันต์รูปนั้นจึงประสาทพรให้กับครอบครัวของนาง ส่งผลให้กิจการค้าขายเจริญรุ่งเรืองและประสบความสำเร็จกว่าเดิม ซึ่งพ่อของนางสุภาวดีเชื่อว่าเป็นเพราะลูกสาวที่ช่วยให้ทำมาค้าขายขึ้น แม้นางสิ้นชีวิตไปแล้ว ชาวบ้านก็ยังสร้างรูปบูชาของนาง เพื่อขอพรให้ค้าขายดี ก่อนที่ความเชื่อนี้จะแพร่หลายเข้าในไทย และกลายเป็นนางกวักอยากที่เราคุ้นเคยกัน
สำหรับคนที่เลือกบูชานางกวักเพื่อเชื่อว่าจะช่วยกวักมือเรียกลูกค้าเข้าร้าน ถึงจะไม่ต้องเตรียมของถวายทุกวัน แต่ก็ควรถวายทุกสัปดาห์และทุกวันพระ เน้นพวงมาลัยดอกไม้ น้ำแดง น้ำเขียว น้ำเปล่า ขนม หรือผลไม้ เลี่ยงของคาว
2. ปี่เซียะ
ตามตำนานของจีนเล่ากันมาว่า ปี่เซียะเป็นลูกมังกรตัวที่ 9 เป็นสัตว์ที่รวมเอาลักษณะของสัตว์มงคลทั้งห้าชนิดไว้ด้วยกัน ได้แก่ มังกร พญาราชสีห์ อินทรี กวาง และแมว จึงทำให้ปี่เซียะกลายเป็นวัตถุมงคลที่เชื่อว่ามีพลังในเรียกทรัพย์สินเงินทองให้ไหลมาเทมา ป้องกันสิ่งชั่วร้าย และให้โชคลาภกับคนที่บูชา
ว่ากันว่าวิธีบูชาปี่เซียะที่เหมาะสมที่สุด ผู้ชาควรจะมีจิตใจแจ่มใส เพราะอารมณ์ดีๆ ของเราจะส่งผลให้พลังของปี่เซียะยิ่งแข็งแกร่ง แล้วโชคลาภก็จะยิ่งเพิ่มพูนเป็นกอบกำ ยิ่งถ้าบวกกับการเอาใจใส่แบบสัตว์เลี้ยง ลูบหัว ลูบท้อง ลูบหลังของปี่เซียะ ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มโชควาสนาได้ แต่ที่ห้ามไม่ให้ทำก็คือลูบปาก เพราะเชื่อว่าจะทำให้เก็บทรัพย์ไม่อยู่
3. พระสังกัจจายน์
ด้วยสีหน้ามีความสุขและรูปร่างที่สมบูรณ์ ทำให้พระสังกัจจายน์ ซึ่งเป็นหนึ่งในพระอรหันต์ กลายเป็นสัญลักษณ์ของความอุดมสมบูรณ์และโชคลาภ ผู้ที่บูชาพระสังกัจจายน์จึงเชื่อกันว่า จะช่วยนำลาภ ยศ และความเจริญรุ่งเรืองมาให้กับกิจการของตัวเอง
ส่วนเคล็ดลับในการบูชานั้น นอกจากจะบูชาด้วยธูป 3 ดอกและดอกไม้สีขาวแล้ว ยังถือเคล็ดอีกอย่างหนึ่งว่า ให้ปิดทองไว้ที่พุงของพระสังกัจจายน์ เพื่อช่วยให้ลาภไหลมาเทมาไม่ขาดสาย จนรับทรัพย์แทบไม่ทัน
4. กุมารทอง / ตุ๊กตาลูกเทพ
กุมารทองจะช่วยเรียกลูกค้า ในการบูชาให้คิดเสียว่าเป็นลูกเป็นหลาน
เคล็ดลับคือ ควรมีของเล่นมาบูชาเสมอๆ เพราะสิ่งนี้จะทำให้คุณร่ำรวยเงินทอง ห้ามหันหน้ากุมารไปทางทิศตะวันตกเด็ดขาด
ข้อห้ามคือ ห้ามวางไว้ปลายเท้าหรือใต้บันไดด้วย เพราะจะนำสิ่งอัปมงคลมาให้เจ้าของ
5. นกคุ้ม ช่วยรุมเรียกโชค
นกคุ้มรุมเรียกโชค ควรวางหันหน้าออกทางหน้าร้าน เพราะช่วยเรียกลูกค้าเข้ามาในร้านพร้อมทั้งโชคลาภ เงินทอง
เคล็ดลับคือ ถ้าอยากให้ผลดี ควรบูชาในวันพระใหญ่ด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำหวาน พร้อมทั้งขนมหวานหลากหลายชนิด และต้องท่องบทสวด “นะโม วิมุตตานัง นะโม วิมุตติยา” ด้วย
6. พญาเต่า เทพเจ้าแห่งความร่ำรวย มั่นคง อายุยืน
เต่าถือเป็นสัตว์มงคลที่เดินไปข้างหน้าอย่างเดียวไม่เคยเดินถอยหลัง จึงเป็นสัญลักษณ์ขอองความมั่นคง ยั่งยืน มีแต่ความเจริญ รุ่งเรือง ก้าวหน้า
เคล็ดลับในการบูชา คือ ต้องนำเต่าไปวางไว้ในถาดที่มีน้ำใส่และต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำเปลี่ยนอาหารบ่อยๆ ส่วนใหญ่นิยมผักบุ้ง ซึ่งเป็นอาหารของเต่า และยังหมายถึงความเจริญก้าวหน้าแบบรวดเร็วทันใจ
ข้อห้าม คือ ห้ามนำพญาเต่าไปวางรวมกับหิ้งพระ แต่ควรนำไปวางไว้ในหิ้งเก็บเงิน เพราะจะช่วยนำพาความเจริญ รุ่งเรือง มาสู่ธุรกิจ
7. ฮกลกซิ่ว? เชื่อว่านำโชคลาภเงินทองและทำให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง
ฮก คือ โชคลาภ
ลก คือ บุญ บารมี
ซิ่ว คือ สุขภาพ และอายุมั่นขวัญยืน
การวางฮกลกซิ่วเพื่อบูชา ควรวางไว้ที่ผนังที่มั่นคง ห้ามวางไว้ติดกับหน้าต่างเด็ดขาด และควรวางให้เด่นเป็นสง่าเพราะถือว่า ฮกลกซิ่วคือเซียน เครื่องสักการะควรเป็นผลไม้ห้ามนำเนื้อสัตว์มาบูชาเด็ดขาด
เรียบเรียงโดย : Postsod