“รถฉุกเฉินที่บางคนเกลียด” นาทีสุดบีบคั้น ไม่เจอกับตัวไม่มีวันรู้

0

“รถฉุกเฉินที่บางคนเกลียด” นาทีสุดบีบคั้น ไม่เจอกับตัวไม่มีวันรู้

วันนี้มามี้ปลายฟ้าขอพูดถึงเรื่องข่าวของชายไร้สมองคนนึงที่ปาดหน้า เเละลงมาเอาขวานขู่เจ้าหน้าที่ที่ขับรถฉุกเฉินของโรงพยาบาลเเห่งนึ ซึ่งจากที่เห็นๆกันมันไม่มีจิตสำนึกใดใด(ระยำจริงๆ)

#มามี้ปลายฟ้าเคยมีประสบการณ์กับรถโรงพยาบาลมาเเล้ว ตอนที่คุณพ่อของมามี้ปลายฟ้าท่านไม่รู้สึกตัวที่บ้าน ตาค้างตาลอย หายใจเเผ่ว ทุกคนในบ้านตกใจมากมามี้ปลายฟ้าเลยรีบโทรเรียกรถพยาบาลให้มารับ 15 นาทีต่อมาทีมงานก็มาถึงบ้าน #เเละรีบขึ้นคร่อมปั้มหัวใจคุณพ่อทันที เมื่อย้ายเข้ารถพยาบาล มามี้ติดคาเมรอนจึงไปด้วยไม่ได้ เลยส่งให้คุณเเม่นั่งไปในรถฉุกเฉินเเทน #ตรงนี้เเม่เล่าว่า …..

“ตลอดทางหมอพยาบาลพยายามปั้มหัวใจพ่อตลอด ระหว่างขับในหมู่บ้านเจ้าหน้าที่ไม่เปิดไซเรน เพราะกลัวเสียงจะไปรบกวนคนอื่น เเต่พอออกนอกหมู่บ้าน คนขับรีบเปิดไซเรนเเละสื่อสารวิทยุกับป้อมตำรวจที่ควบคุมสัญญานจราจรให้เปิดไฟเขียวให้เรา ระหว่างทางพ่อไม่หายใจเเล้ว เเล้วหมอก็ยังพยายามปั้มต่อไป ข้างหน้าเเม่มีรถติด หลายๆคันหลบให้เรา เเละหลายๆคันไม่หลบให้เรา เเม่เอามือขึ้นภาวนาขอให้รถไม่ติด คนขับมือนึงถือวอสื่อสาร ประกาศออกลำโพงให้รถที่ไม่หลบช่วยหลบหน่อยอย่างสุภาพ มือนึงขับรถ ตามองทาง หูฟังเสียงทีมงานข้างหลังเร่งให้ไปเร็วหน่อย คนไข้วิกฤตเเล้ว มันเป็นอะไรที่บีบหัวใจเเม่นะ ตำรวจที่ป้อมเเต่ละสถานีวอถามตลอดว่า เราถึงไหนเเล้ว เค้าจะเปิดไฟเขียวให้เรา เเม่มองไปที่ป้อมที่คุมไฟป้อมนึง มีตำรวจออกมาโบก เเละยืนเเละทำท่าวันยาหัตถ์ให้ เเม่ยิ่งร้องไห้ไปใหญ่เลยลูก”

มามี้ปลายฟ้าให้น้องขับรถตามรถพยาบาลไปก่อน เพราะมามี้ต้องเตรียมเอกสารเเละดูเเลคาเมรอน จะขับรถตามไปทีหลัง น้องเล่าว่า …..

“ฉันขับรถตามไปติดๆ เปิดไฟฉุกเฉินด้วย เเต่ก็มีหลายๆคันที่พยายามเข้ามาเเทรกเเล้วบังไม่ให้ฉันตามไป เพราะคิดว่าฉันลักไก่ จะฝ่าดงรถติดโดยการตามรถฉุกเฉินหน้าด้านๆ มีมอไซค์ รถเก๋งพยายามกันฉัน ฉันตามรถไม่ทันเเล้ว เเต่ฉันไม่โกรธนะ เพราะฉันเข้าใจว่าพวกเค้าทำไปเพราะอะไร ฉันไปถึงทีหลัง เเต่ฉันอยากไปอยู่กับพ่อให้เร็วกว่านี้ 30 นาที ในรถที่ติดมันคือนรกจริงๆพี่”

หลังจากนั้นมามี้ปลายฟ้าขับรถตามมาถึงทีหลัง มาเจอพ่อในสภาพที่ไม่ตอบสนองเเล้ว หมอเเจ้งว่าคุณพ่อมาสุดทางเเล้ว ท่านเสียตั้งเเต่อยู่ในรถพยาบาล เเต่เราปั้มชีพจารท่านขึ้นมาได้อีก เราจะรอให้ท่านหมดลมหายใจไปเอง เราตัดสินใจไม่ถอดเครื่องหายใจออก เราบอกลาพ่อเเล้วเวลา 2 ทุ่มครึ่งพ่อก็จากไป ณ ตอนนี้ท่านเป็นอาจารย์ใหญ่ที่โรงพยาบาลจุฬา

คุณจะไม่รู้สึกเห็นใจผู้อื่นบ้างเลยหรือ คุณจะเห็นว่าความลำบาก ความเป็นความตายของคนอื่นเป็นเรื่องที่เราไม่จำเป็นต้องไปสนใจเลยหรือ ถ้าวันนึงคุณเจอสถาณการณ์เเบบนี้ คุณจะยังทำเเบบที่คุณเคยทำนี้อีกมั้ย ถ้าคนในรถฉุกเฉินเค้าเสียชีวิตเพียงเพราะคุณไม่พอใจที่เค้าต้องรีบไป คุณจะยังมีความสุขแบบนั้นใช่มั้ย ช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ด้วยกันมันยากเกินไปหรือ ขอร้องเเล้วกราบเลยค่ะว่า “หลบให้รถฉุกเฉินทุกชนิดเถิด เพราะคุณสามารถเป็ส่วนนึงที่จะช่วยชีวิตคนได้ อย่าเอาธิฐิตัวเองเป็นที่ตั้ง ยอมลดลาวาศอก ยอมสละความสบายส่วนตัวเพื่อคนอื่นที่เค้ากำลังจะตาย ที่เค้ากำลังเดือดร้อนด้วยเถอะค่ะ”

ขอบคุณรถฉุกเฉินโรงพยาบาลกล้วยน้ำไทค่ะ

ปล. ไม่ได้ต้องการสื่อในทางที่ไม่ดี เพียงอยากให้ทุกคนได้อ่าน แล้วฉุกคิดผลที่ตามมาเพียงเท่านั้น

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

ภาพข่าวจากคุณ : Sudpratthana Buasai

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่