วันเกิดบอกนิสัย!! เรื่องเล่ากำเนิดของ 7 เทพประจำวัน จันทร์ถึงอาทิตย์
1. เทพพระอาทิตย์
ที่มากำเนิดเทพพระอาทิตย์ เมื่อนึกถึงเทพพระอาทิตย์ก็ต้องนึกถึงเทพเเห่งแสงสว่าง ตามตำนานดั้งเดิมมีเล่าถึงกำเนิดพระอาทิตย์เอาไว้หลายแบบ ในทางโหราศาสตร์มีบอกเอาไว้ว่าเทพพระอาทิตย์เป็นหนึ่งในเทพพระเคราะห์ ซึ่งกำเนิดจากการที่พระอิศวรนำราชสีห์ 6 ตัวมาป่นลงแล้วห่อด้วยผ้าสีแดงพรมด้วยน้ำอมฤต เกิดเป็นพระอาทิตย์ ซึ่งที่มานี้ก็ทำให้มีความเชื่อเรื่องพาหนะของพระอาทิตย์คือราชสีห์ชัดเจนยิ่งขึ้น
นอกจากความเชื่อทางโหราศาสตร์ในหนังสือยังมีบอกถึงศาสนาพราหมณ์ยุคไตรเพทกล่าวไว้ว่าเทพพระอาทิตย์มีอีกชื่อว่า พระสุริยาทิตย์ เป็นโอรสองค์ที่ 8 ของพระกัศยป และพระนางอทิติ เนื่องจากเกิดมาเเล้วพิการทางร่างกายทำให้ไม่ได้ไปเข้าเฝ้าปวงเทพกับพี่น้องคนอื่น ต้องคอยขับรถไปมาระหว่างสวรรค์กับโลกมนุษย์เป็นเหตุให้เกิดพระอาทิตย์ขึ้นเเละตก ว่ากันว่าร่างกายของพระอาทิตย์นั้นมีสีแดงเเละมีประกายสว่างรอบตัวจนสามารถแผ่ไอร้อนได้ มีพระอรุณเป็นสารถีคอยรับใช้ จากลักษณะดังกล่าวของพระอาทิตย์ทำให้มีคำทำนายตามทางโหราศาสตร์ไว้ว่าคนที่เกิดวันอาทิตย์จะเป็นคนใจร้อน ถือตัว รักในเกียรติยศเเละศักดิ์ศรี โกรธง่ายเเต่หายเร็ว มองโลกในเเง่ดี
พี่หวานเคยได้ยินมาว่าคนโบราณนับถือพระอาทิตย์มาก เนื่องจากเป็นเทพที่ให้เเสงสว่าง ให้ความอบอุ่น เเละยังช่วยทำให้การเกษตรได้ผลดีงามอีกด้วยจึงไม่แปลกใจถ้าจะเคยเห็นการบูชาเทพพระอาทิตย์อยู่เนืองๆ
ความเชื่ออื่นๆ เกี่ยวกับเทพพระอาทิตย์ นอกจากฝั่งเอเชียก็ยังปรากฏความเชื่อในเรื่องเทพพระอาทิตย์ของฝั่งตะวันตกด้วยเช่นกัน หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อเทพอะพอลโลมาบ้างในฐานะเทพเจ้าแห่งแสงและดวงอาทิตย์ มีข้อมูลบอกเอาไว้ว่าเทพอะพอลโลจะปล่อยพลังความร้อนจากพาหนะซึ่งแตกต่างจากเทพพระอาทิตย์ตามความเชื่ออย่างพราหมณ์ที่ปล่อยความร้อนออกมาจากผิวร่างกายได้เลย พี่หวานยังอ่านเจออีกว่าความสำคัญของวันอาทิตย์ตามความเชื่อของฝั่งตะวันตกนั้นมีที่มาจากภาษาละตินเเละภาษาโรมันว่าเป็นวันแห่งพระเจ้า ทำให้ทุกวันอาทิตย์ชาวคริสต์นิยมไปโบสถ์เพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนานั่นเองค่ะ เเต่สำหรับประเทศที่มีชาวมุสลิมเป็นประชากรส่วนมากอย่างอิสราเอลก็จะถือว่าวันอาทิตย์เป็นวันเเรกของสัปดาห์ที่จะเริ่มทำงาน
2. เทพพระจันทร์
ที่มากำเนิดเทพพระจันทร์ สำหรับกำเนิดเทพพระจันทร์ตามความเชื่อโหราศาสตร์นั้นกล่าวถึงพระอิศวรที่สร้างพระจันทร์ขึ้นจากการร่ายพระเวทให้นางฟ้าจำนวน 15 นาง ป่นละเอียดแล้วห่อด้วยผ้าขาว พรมด้วยน้ำอมฤตจึงเกิดเป็นเทพพระจันทร์ เพราะมีความเชื่อว่าเทพพระจันทร์กำเนิดจากนางฟ้าทำให้มีคำทำนายเอาไว้ว่าคนที่เกิดในวันจันทร์จะมีรูปร่างหน้าตาที่งดงาม ถ้าเป็นผู้ชายก็จะหล่อเหลาเอาการ ผิวพรรณผุดผ่องเเละเป็นคนมีเสน่ห์ค่ะ ส่วนตามความเชื่อของพราหมณ์ก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่ เพราะบอกไว้ว่าเทพพระจันทร์เป็นเพศชายที่มีรูปร่างเล็ก มีผิวขาวและเปล่งประกาย มีพาหนะเป็นรถเทียมม้าสีขาว มีความสำคัญโดยถือว่าเป็นเทพแห่งความฝัน จินตนาการ การล่าสัตว์ เเละคงเพราะว่าพระจันทร์ขึ้นตอนกลางคืน ทำให้มีความสำคัญอีกอย่างในฐานะเทพที่พึ่งสำหรับพวกขโมยที่มักออกไปทำเรื่องไม่ดีในยามวิกาล
ความเชื่ออื่นๆ เกี่ยวกับเทพพระจันทร์ ว่ากันว่าตามความเชื่อสมัยกรีกโบราณกล่าวถึงเทพีอาร์ทีมีสว่าเป็นเทพีแห่งดวงจันทร์เเละการล่าสัตว์ มีรูปลักษณ์เป็นสตรีผมสั้น เเตกต่างจากความเชื่ออย่างพราหมณ์ที่บอกว่าเทพพระจันทร์เป็นผู้ชาย เทพีอาร์ทีมีสมีหน้าตางดงาม มักสวมชุดล่าสัตว์เเละถือธนูดูทะมัดทะเเมง นางเเตกต่างจากเทพีองค์อื่นอย่างมากในเรื่องของความกล้าหาญเพราะนางนั้นชอบทำกิจกรรมที่บุรุษชื่นชอบ อีกทั้งยังเป็นฝาแฝดกับเทพอะพอลโลซึ่งเป็นเทพแห่งพระอาทิตย์ค่ะ หน้าตาดีทั้งพี่ทั้งน้องกันเลยทีเดียว มีเรื่องเล่าหนึ่งน่าสนใจพี่หวานอ่านเจอมาว่าเทพีอาร์ทีมีสนั้นยังเป็นเทพีเเห่งพรหมจรรย์เพราะเธอยึดถือตามเทพีเฮสเทียและเทพีอาธีน่า เนื่องจากเห็นว่าชีวิตรักมีเเต่จะทำให้เธอปวดหัว บางตำนานก็บอกว่าเธอเคยมีความรักกับชายหนุ่มเเต่จบไม่สวยทำให้กลายมาเป็นคนฝังใจไม่อยากมีความรักอีกเลย
3. เทพพระอังคาร
ที่มากำเนิดเทพพระอังคาร ตามหนังสือที่พี่หวานอ่านมาได้กล่าวเอาไว้ถึงความเชื่อเเรกมีหลักฐานจากคัมภีร์มหาภารตะ เเละรามายณะ ว่าพระอังคารเป็นคนเดียวกันกับพระขันทกุมารเพราะมีชื่ออื่นๆ ที่เรียกซ้ำกันอยู่หลายชื่อ พระขันทกุมารนั้นเคยได้ดำรงตำแหน่งในฐานะเเม่ทัพ จึงอาจกล่าวได้ว่าเทพพระอังคารเป็นเทพแห่งนักรบเเละสงคราม เเต่สำหรับในทางไสยศาสตร์ก็มีกล่าวไว้เหมือนกันค่ะว่าพระอังคารนั้นเป็นเทพผู้รักษาฤดูวรรษ(ฤดูฝน) ในส่วนของรูปลักษณ์พระอังคารมีบอกว่าเป็นคนที่มีผิวกายแดง หุ่นกำยำล่ำสัน เเละมีท่าทางน่าเกรงขามสมกับเป็นนักรบ
ชาวฮินดูมีความเชื่อว่าวันอังคารเป็นวันดีค่ะ จึงถือเอาฤกษ์สำคัญหลายอย่างมาเริ่มต้นทำในวันอังคาร เเละยังนิยมสวมเสื้อผ้าสีเเดงในวันอังคารเพื่อให้ถูกโฉลกอีกด้วย ความเชื่อแบบนี้ไม่ได้ปรากฏในฮินดูเท่านั้นเพราะบ่อยครั้งพี่หวานเองก็เห็นว่าคนรอบตัวหลายคนในยุคนี้ถือเคล็ดใส่เสื้อผ้าให้ถูกตามวันเพื่อเป็นสิริมงคลเช่นกันค่ะ ส่วนในทางโหราศาสตร์ได้บอกไว้ว่าพระอังคารไม่ถูกกับพระอาทิตย์เเละพระเสาร์เเต่เป็นมิตรกับพระศุกร์ ลักษณะนิสัยโดยทั่วไปของคนเกิดวันนี้จึงมีลักษณะเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง เข้มแข็ง กล้าหาญ บางครั้งเพราะเป็นคนเข้มแข็งนี่แหละค่ะจึงอาจถูกมองว่าเย็นชา เเต่บางเวลาก็เลือดร้อน รู้สึกว่าลักษณะของคนวันอังคารนี่จะเป็นพวกสองขั้ว ดีก็ดีสุด ร้ายก็ร้ายสุดเลย
ความเชื่ออื่นๆ เกี่ยวกับเทพพระอังคาร ถ้าหากพระอังคารเป็นเทพเเห่งนักรบเเละสงคราม ตามความเชื่อของชาวกรีกก็มีการรับถือเทพอาเรสเป็นเทพเเห่งสงครามฝ่ายชาย เเละมีเทพีอีรีสเป็นเทพเเห่งสงครามฝ่ายหญิง จากที่พี่หวานลองหาข้อมูลพบว่าชาวกรีกไม่ได้นับถือเทพอาเรสสักเท่าไหร่เนื่องจากขึ้นชื่อในเรื่องการใช้ความรุนแรงเเละดุดัน เเต่จะนับถือเทพีอาธีนาที่เป็นเทพีด้านการใช้ปัญญาค่ะ ในขณะที่ชาวโรมันซึ่งเป็นชาตินักรบจะนับถือเทพองค์นี้มากกว่า แต่จะเป็นความเชื่อจากฝ่ายไหนลักษณะร่วมที่เหมือนกันของเทพพระอังคารกับเทพอาเรสก็คงเป็นความหุนหันใจร้อนนี่แหละค่ะ
4. เทพพระพุธ
ที่มากำเนิดเทพพระพุธ เทพพระพุธเป็นเทพแห่งวาจาและการพาณิชย์ มีความเชื่อว่าพระพุธเป็นลูกของพระจันทร์กับนางโรหิณี เเต่ก็มีอีกตำนานที่บอกว่าพระพุธเป็นลูกของพระจันทร์กับนางดารา(ชายาของพระพฤหัส)ที่พระจันทร์ไปแย่งตัวมา รู้สึกว่ากำเนิดเเท้จริงของพระพุธจะไม่เเน่ชัด เเต่มีการบรรยายรูปลักษณ์ของพระพุธไว้ว่าเป็นเพศชายที่รูปงาม ชื่อว่า พุธ หมายความถึง ความฉลาด พระพุธจึงเป็นคนที่มีสติปัญญาเฉียบเเหลมรู้จักเจรจา
นอกเหนือจากตำราที่บอกว่าพระพุธเป็นลูกของพระจันทร์ยังมีข้อมูลอื่นที่บอกว่าพระอิศวรเป็นผู้สร้างพระพุธขึ้นมาจากการนำช้างเผือกตระกูลฉัททันต์ จำนวน 17 เชือก ร่ายพระเวทเเล้วเป่าลงให้เป็นผุยผง ห่อด้วยผ้าทิพย์ พรมด้วยน้ำอมฤตเเละเกิดเป็นเทพบุตรองค์หนึ่ง พระอิศวรได้ตั้งชื่อให้ว่า พระพุธ ในทางโหราศาสตร์ศึกษากันว่าหากใครมีดาวพระพุธประจำในตำแหน่งที่ดีก็จะเป็นคนที่มีไหวพริบ รอบคอบ ฉลาดรอบรู้ สาเหตุที่นับถือกันว่าพระพุธเป็นเทพเเก่งการค้าพาณิชย์ต่างๆ นั่นก็เพราะว่าการทำการค้าต้องใช้ความคิดและปัญญาเข้าช่วย นอกจากนี้ยังเป็นคนที่มีวาจาอ่อนหวานนุ่มนวลเพราะต้องเจรจากับคนอื่น คนที่เกิดวันพุธจึงมีลักษณะเป็นคนมีจินตนาการ ชื่นชอบเสียงเพลงเเละการดนตรี มีเสน่ห์เรื่องการวางตัวเเละระวังคำพูดจา อาชีพที่เหมาะกับคนเกิดวันนี้จึงเป็นด้านการพูด หรือการสื่อสารนั่นเองค่ะ ความสัมพันธ์ของพระพุธกับพระจันทร์ถือเป็นพันธมิตรกัน เเต่พระพุธจะเป็นศัตรูกับพระอังคารเเละพระราหู ดังเรื่องเล่าที่บอกว่าพระราหูเกิดเป็นเศรษฐี พระพุธเกิดเป็นสุนัขไปไล่เห่าลูกหนี้หายไป และยังวนมากัดพระราหูอีกทำให้ไม่ถูกกัน
ความเชื่ออื่นๆ เกี่ยวกับเทพพระพุธ ตามความเชื่อของฝั่งตะวันตกมีการนับถือเทพเฮอร์มีสซึ่งเป็นเทพเเห่งการสื่อสาร คล้ายกับพระพุธที่มีลักษณะเด่นด้านการเจรจา หน้าที่ของเทพเฮอร์มีสไม่ใช่เเค่ส่งสารจากเทพซุสเท่านั้นนะคะ เเต่ยังดูเเลเรื่องการค้า การเดินทาง เพราะเทพองค์นี้สามารถเคลื่อนที่ได้รวดเร็วเท่าความคิดเลยค่ะ เเน่นอนว่าเมื่อทำหน้าที่เป็นคนส่งสารเเล้วก็ต้องส่งได้ทุกอย่าง อีกหน้าที่หนึ่งที่สำคัญของเทพเฮอร์มีสก็คือการนำดวงวิญญาณไปส่งที่ยมโลกค่ะ สัญลักษณ์เฉพาะตัวเฮอร์มีสจึงเป็นหมวกวิเศษ ไม้เท้าวิเศษ และรองเท้าวิเศษ โดยมีปีกติดอยู่ที่สิ่งของทุกอันเพื่อรวดเร็วต่อการใช้งาน ส่วนลักษณะนิสัยของเฮอร์มีสนั้นพี่หวานก็ไม่รู้ว่าเพราะต้องมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นบ่อยๆ รึเปล่าจึงดูจะเป็นมิตรกับมนุษย์มากกว่าเทพองค์อื่นค่ะ
5. เทพพระพฤหัส
ที่มากำเนิดเทพพระพฤหัส ผ่านมาถึงเทพพระพฤหัสกันเเล้ว ใครเกิดวันพฤหัสมาลองดูหน่อยว่าลักษณะคนวันนี้เป็นยังไงบ้าง ในความเชื่อของชาวฮินดูบอกว่าคนที่เกิดใต้อิทธิพลของดาวพฤหัสบดีนั้นจะเป็นคนที่มีชีวิตรุ่งโรจน์ค่ะ เพราะเทพองค์นี้เป็นเทพฝ่ายศุภเคราะห์ที่จะส่งผลดีต่อชีวิต ตามตำราเฉลิมไตรภพกล่าวถึงกำเนิดเทพพระพฤหัสได้เล่าว่าพระอิศวรสร้างพระพฤหัสขึ้นจากฤาษี 15 ตน ส่วนอีกตำนานก็กล่าวว่าพระพฤหัสเป็นโอรสของพระอังคีรสมุนีผู้เป็นครูเเห่งเทวดา จึงถือเอาวันพฤหัสบดีเป็นวันครูนั่นเองค่ะ ที่มานี้พี่หวานก็เพิ่งรู้ว่าทำไมเราต้องไหว้ครูวันพฤหัสบดี รูปลักษณ์ของเทพพระพฤหัสนั้นกายมีสีเขียวเหมือนแก้วไพฑูรย์ เเละดำรงอยู่ในวรรณะพราหมณ์ มีสัญลักษณ์สำคัญคือถือกระดานชนวนเพื่อเเสดงถึงความสามารถเเละตำแหน่งครูเเห่งสวรรค์ ในทางโหราศาสตร์กล่าวว่าพระพฤหัสเป็นมิตรกับพระอาทิตย์เเต่เป็นศัตรูกับพระจันทร์ ส่วนสาเหตุก็คือการที่พระจันทร์มาหลงรักนางดาราที่เป็นชายาของพระพฤหัส จนเกิดการเเย่งชิงตัวนางดาราไป เเต่นางดาราก็ให้กำเนิดพระพุธขึ้นมาซะก่อน ภายหลังจากที่จัดการความบาดหมางเรียบร้อยเเล้วพระพฤหัสถึงได้รับนางดารากลับมาเป็นชายาอีกครั้ง ว่าแล้วเรื่องราวของบรรดาเทพต่างๆ ก็วุ่นวายไม่ใช่เล่นเลยนะคะเนี่ย
ความเชื่ออื่นๆ เกี่ยวกับเทพพระพฤหัส ฝ่ายความเชื่อทางตะวันตกก็มีกล่าวเอาไว้ว่าลักษณะของเทพพระพฤหัสนั้นใกล้เคียงกับเทพซุส เพราะมีตำแหน่งเป็นที่สุดแห่งจอมเทพเหมือนกัน เทพซุสเป็นเทพที่ยิ่งใหญ่ มีพละกำลังมากที่สุดคล้ายๆ กับผู้คุมกฎแห่งเทือกเขาโอลิมปัสเพื่อปกครองเหล่าเทพทั้งหลายอีกที จึงอาจกล่าวได้ว่าเทพซุสเป็นเทพที่มีความยุติธรรมมาก มีสัญลักษณ์ประจำกายคือ สายฟ้า นอกเหนือไปจากหน้าที่ที่ต้องปกครองเหล่าเทพแล้วซุสยังเป็นเทพเเห่งการพยากรณ์อีกด้วย ในหนังสือกำเนิดเทวดา ได้เปรียบเทียบตำแหน่งของเทพซุสไว้คล้ายกับพระอิศวรของศาสนาพราหมณ์เลยค่ะ
6. เทพพระศุกร์
ที่มากำเนิดเทพพระศุกร์ อย่างที่หลายคนน่าจะรู้อยู่เเล้ววว่าเทพพระศุกร์เป็นเทพเเห่งความรัก ความงาม ความสงบ ในคัมภีร์ปุราณะเก่าแก่ระบุไว้ว่าเทพพระศุกร์นั้นเป็นครูของฝ่ายอสูร เพราะในตอนเกิดเทวาสุรสงคราม เป็นสงครามระหว่างพระจันทร์กับพระพฤหัสที่มีขึ้นเพื่อเเย่งชิงนางดารา(มารดาของพระพุธ) พระศุกร์ที่ได้ชื่อว่าเป็นครูของเหล่าอสูรเลือกเข้ากับฝ่ายพระจันทร์รบกับพระพฤหัสที่เป็นครูของเทวดา แต่ขณะเดียวกันตำนานทางโหราศาสตร์ได้เล่าว่าพระอิศวรสร้างพระศุกร์จากโค 21 ตัว ร่ายเวทย์ให้โคป่นละเอียดแล้วพรมด้วยน้ำอมฤต มอบหน้าที่ให้ดูแลเขาพระสุเมรุด้านทิศอุดร
จากที่พี่หวานได้ศึกษามาก็ยังพบว่าความเชื่อของชาวฮินดูมีกล่าวถึงผู้ที่เกิดในอิทธิพลดาวพระศุกร์มักจะเป็นคนเจ้าเสน่ห์ สุภาพ อ่อนโยน เเละมักจะเป็นคนที่ชีวิตไม่ค่อยเจอเรื่องลำบากหนักหนา ต่อให้เจอก็จะสามารถผ่านไปได้อย่างราบรื่น เเละยังเชื่ออีกว่าดาวศุกร์เป็นมิตรกับดาวอังคารเเต่เป็นศัตรูกับดาวพฤหัส พี่หวานอ่านคำว่าดาวพระศุกร์ทีไรนึกถึงละครเรื่องดังของกบ สุวนันท์ที่ชื่อเลยนะคะเนี่ย><
ความเชื่ออื่นๆ เกี่ยวกับเทพพระศุกร์ นอกเหนือจากความเชื่อเเบบพราหมณ์เเล้ว ทางฝั่งตะวันตกก็มีความเชื่อว่าเทพีวีนัสหรืออะโฟรไดท์นั้นเป็นเทพีเเห่งความรักและความงามจึงน่าจะคล้ายกับเทพพระศุกร์ มีสัตว์เลี้ยงประจำตัวเป็นนก เเต่ก็ไม่ได้บอกชัดเจนว่าเป็นนกอะไร เคยมีความเชื่อจากฝั่งยุโรปบอกว่า ถ้าครอบครัวไหนมีเด็กทารกเกิดใหม่ เจ้าเเม่อะโฟรไดท์จะสั่งให้นกกระสามาบินวนเหนือหลังคาบ้าน ซึ่งถ้ามีนกกระสามาบินวนจริงมารดาของเด็กก็จะคลอดได้ง่ายเเละปลอดภัย จึงอาจเป็นที่มาที่ยืนยันว่าสัตว์ประจำตัวเทพีอะโฟรไดท์คือนกกระสานั่นเอง
7. เทพพระเสาร์
ที่มากำเนิดเทพพระเสาร์ ว่ากันตามความเชื่อบอกว่าพระอิศวรสร้างเทพพระเสาร์ขึ้นจากเสือ 10 ตัว เเต่ก็ยังมีอีกหลายตำนานที่กล่าวถึงกำเนิดพระเสาร์ไว้มาก ตามตำราปุราณะบอกว่าพระเสาร์เป็นโอรสของพระอาทิตย์กับนางฉายา ความจริงพระอาทิตย์มีชายาเอกคือนางสัญญา วันหนึ่งนางสัญญาเกิดทนรัศมีความร้อนจากพระอาทิตย์ไม่ไหวได้หนีไป เเละนั่นเป็นเหตุให้นางฉายามาสวมรอยเเทน จนให้กำเนิดพระเสาร์ขึ้นมา วันหนึ่งนางฉายานึกโกรธลูกของนางสัญญาจึงเผลอสาปทำให้พระอาทิตย์รู้ความจริงว่านางฉายาที่เป็นมารดาของพระเสาร์นั้นเป็นตัวปลอม ในหนังสือกำเนิดเทวดาที่พี่หวานอ่านได้บอกเหตุผลไว้ว่าสำหรับเทวดาทั้งหลายนั้นคำสาปของเเม่จะไม่เกิดผลกับลูกตนเองค่ะ พระอาทิตย์จึงรู้ว่านางฉายาปลอมตัวมา
ตำราของศาสนาพราหมณ์บรรยายรูปลักษณ์ของพระเสาร์ไว้ว่าเป็นเพศชาย มีรูปร่างสูงโปร่ง มีสง่า ผิวคล้ำ ส่วนชาวฮินดูนับถือพระเสาร์เป็นเทพแห่งการทำเกษตรกรรม เป็นเทพประจำฤดูวสันต์(ฤดูใบไม้ผลิ) ผู้คนนิยมบูชาเพื่อให้ช่วยมอบความสมบูรณ์ให้แก่พืชผลต่างๆ ส่วนตำราโหราศาสตร์มีทำนายเรื่องตำแหน่งโคจรของดาวเสาร์ไว้สองทาง ทางที่หนึ่งคือดาวเสาร์เป็นดาวให้เคราะห์ ถ้าส่งอิทธิพลต่อใครก็จะได้รับเรื่องไม่ดีไประยะหนึ่ง เเต่ขณะเดียวกันถ้าดาวเสาร์โคจรอยู่ในจุดที่ให้ผลดีกว่า คนๆ นั้นก็จะได้รับเเต่เรื่องดีๆ ไปอีกระยะหนึ่งเช่นกัน ตามความเชื่อยังบอกต่อไปว่าพระเสาร์นั้นเป็นมิตรกับเเค่พระราหูองค์เดียว เเต่เป็นศัตรูกับพระอังคาร
ความเชื่ออื่นๆ เกี่ยวกับเทพพระเสาร์ มีความเชื่อตามเเบบชาวกรีกโบราณบอกไว้ว่า เทพโครนัสเป็นเทพพระเสาร์ของฝั่งตะวันตก พระองค์เคยเป็นเทพผู้ยิ่งใหญ่เป็นผู้นำของเหล่าไททั่น ซึ่งเทพโครนัสได้โค่นอำนาจผู้เป็นบิดาคือเทพยูเรนัส เเละขึ้นครองบัลลังก์เเทน ต่อมาก็ถูกเทพซุสผู้เป็นโอรสของตนเองโค่นบัลลังก์ต่อตามคำสาปของพระมารดาที่เคยสาปไว้เมื่อตอนที่โค่นบัลลังก์บิดาตนเอง เพราะช่วงที่ขึ้นครองนั้นเป็นยุคทอง เทพโครนัสจึงได้รับการบูชาในฐานะเทพเจ้าเเห่งการเก็บเกี่ยว
ขอขอบคุณ : พี่หวาน