13 สิ่งที่คนจิตใจเข้มแข็งเขาไม่ทำกัน
ผมเองคงมีเรื่องราวดีๆ มากมายจากหนังสือเล่มนี้เอามาเล่าสู่กันฟังอีกพอสมควร แต่วันนี้ผมขอหยิบ 13 หัวข้อสำคัญที่หนังสือเล่มนี้พูดเอาไว้ มาแบ่งปันกันก่อนแล้วกันนะครับ ว่า 13 สิ่งที่ Amy Morin เขามองว่าคนที่มีจิตใจเข้มแข็งไม่ทำกันนั้นมีอะไรบ้าง
1. พวกเขาไม่เสียเวลาไปกับการรู้สึกแย่ต่อตัวเอง
การรู้สึกแย่ต่อตัวเองมักเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเวลามีเรื่องร้ายๆ เข้ามาในชีวิต และนั่นเป็นภาวะที่สูบพลังชีวิตเราได้อย่างรวดเร็ว ประเภทที่คิดว่าใครๆ ก็โชคดียกเว้นฉัน ทำไมชีวิตเราต้องเจอแบบนี้ด้วย ฯลฯ ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะทำให้คุณพะวงตัวเองอยู่กับความรู้สึกแย่ๆ จนทำให้ก้าวไปไหนต่อได้ยากลำบากมากๆ
2. พวกเขาไม่เสียพลังงานไปโดยใช่เหตุ
พลังชีวิตของแต่ละคนล้วนมีจำกัด ถ้าเราใช้มันไปกับสิ่งที่ไม่เกิดประโยชน์ หรือเอาไปใช้แบบเสียเปล่าก็คงจะไม่ดีแน่ พอเป็นแบบนี้มันจีงจะดีกว่าถ้าคุณรู้ตัวเสมอว่าคุณมีพลังชีวิตอยู่เท่าไร และควรจะเลือกใช้กับอะไร
3. พวกเขาไม่กลัวกับการเปลี่ยนแปลง
การเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นเป็นธรรมชาติ ถ้าเราไม่สามารถรับการเปลี่ยนแปลงได้ก็คงจะแย่เป็นแน่ แต่ในทางกลับกัน ถ้าคนพร้อมจะรับการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอๆ ก็จะทำให้พวกเขามีจิตใจที่พร้อมและเข้มแข็งไปด้วยเช่นกัน
4. พวกเขาไม่โฟกัสไปกับสิ่งที่พวกเขาควบคุมไม่ได้
ถ้าคุณมัวแต่พะวงหรือกังวลใจกับสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมมันได้ มันก็จะมีแต่ทำให้คุณเสียกำลังใจ รู้สึกแย่ โดยที่ทำอะไรกับมันไม่ได้อีกต่างหาก ฉะนั้นแล้ว ทางที่ดีคือคุณควรรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่คุณควบคุมได้ (ตัวคุณเอง? ความรู้สึกของคุณ?) แล้วโฟกัสมัน แทนที่จะเอาใจไปผูกกับสิ่งอื่นที่คุณเองก็ไปทำอะไรมันไม่ได้
5. พวกเขาไม่มานั่งเอาใจทุกคน
บางคนอาจจะชอบการมีคนมาชื่นชอบตัวเอง จนทำให้ต้องพยายามเอาใจคนนั้นคนนี้อยู่บ่อยๆ แต่นั่นกลายเป็นนิสัยที่ทำให้ตัวเราเองเปราะบางและกังวลเวลามีคนไม่ชื่นชอบหรือรู้สึกแย่กับเรา อันที่จริงแล้ว ถ้าเราไม่แคร์กับมันเท่าไร เราก็จะไม่รู้สึกแย่กับมันได้เท่านั้น
6. พวกเขาไม่กลัวการเสี่ยง
จริงอยู่การเสี่ยงอาจจะนำมาซี่งความผิดพลาดและความล้มเหลว แต่การเผชิญหน้ากับความเสี่ยงก็เป็นการฝึกจิตใจตัวเองให้เข้มแข็งด้วยเช่นกัน ฉะนั้นแล้ว การเสี่ยงเลยถือเป็นสิ่งที่สร้างพื้นฐานจิตใจที่แข้มแข็งให้กับคุณได้อย่างดีทีเดียว
7. พวกเขาไม่ยึดติดกับอดีต
ความผิดพลาดและเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว ก็คือสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้วและกลับไปแก้ไขมันไม่ได้ มันคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไรนักถ้าคุณยังคงไปยึดติดและคิดวนไปวนมากับมัน แถมจะทำให้ตัวเองเสียพลังงานกับเรื่องเหล่านี้โดยใช่เหตุอีกต่างหาก
8. พวกเขาไม่ขุ่นเคืองกับความสำเร็จคนอื่น
การเห็นคนอื่นได้ดี มักจะทำให้หลายๆ คนเกิดความรู้สึกอิจฉา ยิ่งถ้าคนที่ได้ดีเป็นคนที่ตัวเองไม่ได้ชื่นชอบหรือเป็นศัตรูกันด้วยแล้ว แต่เอาจริงๆ การคิดแบบนั้นมีแต่จะทำให้คุณรู้สึกแย่ และรู้สึกร้อนรนมากกว่าจะทำให้คุณรู้สึกดีและเข้มแข็ง
9. พวกเขาไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก
การเรียนรู้และเติบโตขึ้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ตัวเองเข้มแข็งและแข็งแกร่งขึ้น แน่นอนว่าสิ่งที่ต้องฝึกตามไปด้วยคือการไม่ทำผิดเรื่องเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ยิ่งถ้าเรารู้ว่าเรื่องนี้จะทำร้ายเรา จะทำให้เราเจ็บปวด ก็ต้องรู้วิธีที่จะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีก เพราะนั่นอาจจะเป็นการสั่นสะเทือนตัวเราซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยไม่จำเป็นเลย
10. พวกเขาไม่ยอมแพ้เมื่อต้องล้มเหลว
ใครๆ ก็ล้วนผิดพลาดกันได้ สามารถล้มเหลวกันได้ แต่มันสำคัญที่เราจะยอมแพ้ ล้มเลิก และปล่อยตัวเองให้อยู่กับคำว่า “แพ้” หรือเปล่า? สิ่งที่ดีเมื่อเจอกับความผิดพลาดคืออย่าได้จมไปอยู่กับมัน และเอาจริงๆ คุณไม่ควรจะต้องล้มเลิกความพยายามแต่อย่างใด
11. พวกเขาไม่กลัวเวลาที่จะต้องอยู่คนเดียว
การรู้สึกว่าต้องมีคนข้างๆ หรือไม่สามารถอยู่คนเดียวได้จะยิ่งทำให้คุณจำเป็นต้องมีคนอื่นอยู่เสมอๆ ซี่งจะกลายเป็นจุดอ่อนที่ผูกมัดตัวเองกับคนอื่นไปโดยไม่รู้ตัว แต่ถ้าเราสามารถยืนหยัดด้วยตัวเองได้ สภาพจิตใจของเราก็จะเข้มแข็งขึ้นแน่นอน
12. พวกเขาไม่ได้คิดว่าโลกเป็นหนี้บุญคุณพวกเขา
การเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาลในหลายๆ คนอาจจะทำให้พวกเขารู้สึกคิดวนเวียนอยู่กับเรื่องของตัวเองโดยไม่สนใจเรื่องอื่นๆ บ้างก็มองว่าคนอื่นต่ำกว่าตัวเองไปเสียหมด และนั่นก็ไม่ได้ทำให้คนๆ นั้นแข็งแกร่งแต่อย่างใดเลย
13. พวกเขาไม่คาดหวังผลที่จะเกิดขึ้นแบบปุปปัป
หลายๆ คนมักมีปัญหาประเภทคาดหวังแล้วจะต้องได้ผลในทันที ฟันธงแบบฉับๆ แต่จริงๆ แล้วหลายสิ่งในโลกเกิดขึ้นโดยต้องใช้เวลา และนั่นคือบททดสอบอย่างดีในการให้จิตใจของเราได้เรียนรู้การอดทน และเข้มแข็งกับสภาวะต่างๆ ตามกาลเวลานั่นแหละ
ขอขอบคุณ : nuttaputch