รู้ไว้เลย!! เหตุผลที่คุณไม่ควรดื่มน้ำเย็น เป็นเพราะแบบนี้
“เวลาได้กินน้ำเย็น ๆ สักแก้ว หลังอาหารมันรู้สึกชื่นใจดีใช่มั้ยครับ แต่ว่าน้ำเย็น จะทำให้ไขมันที่คุณเพิ่งกินเข้าไปจับตัวเป็นไขขึ้นมา ซึ่งจะส่งผลให้การย่อยอาหารช้าลง ถ้าคราบไขมันทำปฏิกิริยากับกรด มันจะแตกตัวแล้วถูกดูดซึม ไปที่ลำไส้ ไขมันที่แตกตัวนี้จะดูดซึมได้เร็วกว่าอาหารทั่วไปแล้วจะเคลือบลำไส้เราไว้ ในไม่ช้ามัน ก็จะแปรสภาพเป็นไขมันก้อน ๆ และเป็นบ่อเกิดของมะเร็งในที่สุด ดังนั้นควรดื่มน้ำอุ่นหลังอาหาร ดีกว่า”
เกี่ยวกับเรื่องนี้ นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชาติ อธิบายว่า ความจริงการดื่มน้ำเย็นหลังอาหาร คงไม่เป็นอันตราย ถึงขั้นทำให้ไขมันจับ ตัวเป็นไข เป็นก้อนขนาดนั้น เพราะปกติอุณหภูมิร่างกายคนเราอยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียส น้ำที่เราดื่มเข้าไปถึงจะเย็น แต่ร่างกายเราร้อนอยู่แล้ว ก็จะเปลี่ยนให้เป็นน้ำอุ่น ๆ อยู่ดี ไขมันกว่าจะจับกันเป็นก้อนแข็ง ต้องอาศัยอุณหภูมิเหมือนอยู่ในตู้เย็น 3-4 องศาเซลเซียส กรณีนี้จึงเป็นข้อความหลอก
ถ้าถามว่า เราควรจะดื่มน้ำเย็น หรือน้ำอุ่นดี ก็ต้องขอเรียนว่า น้ำเย็นจะช่วยเติมน้ำให้ร่างกายได้ดีกว่าน้ำอุ่น เพราะว่าน้ำเย็นดูดซึมได้เร็วกว่า
ตรงนี้เป็นข้อมูลจาก สถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาของสหรัฐ เขาบอกเลยว่า น้ำที่ควรจะดื่มถ้าอยากให้สดชื่น ออกกำลังกายได้อึดขึ้น อุณหภูมิควรอยู่ที่ประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส หรือง่าย ๆ คือ ให้ดื่มน้ำที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิร่างกาย ไม่มีงานวิจัยฉบับไหนเลย ที่บอกว่าดื่มน้ำเย็นแล้วจะเป็นมะเร็ง อีเมลในลักษณะนี้มีการส่งต่อกันไปทั่ว แม้แต่ในต่างประเทศ ดูเหมือนจะเป็น วิชาการ แต่กลับไม่มีข้อมูลทางวิทยาศาสตร์มารับรอง ทำให้คนกลัวกันมาก ดังนั้นคนที่ได้รับอีเมลจะต้องใช้วิจารณญาณให้ดี
การดื่มน้ำเย็นเป็นผลดีด้วยซ้ำ เพราะ จะช่วยเผาผลาญไขมันในร่างกาย เนื่องจากร่างกายต้องใช้พลังงานในการทำให้น้ำอุ่นขึ้น โดยน้ำ 1 แก้ว จะช่วยเผาผลาญไขมันประมาณ 9 กิโลแคลอรี ถ้าเราดื่มน้ำ 8 แก้วก็จะเผาผลาญไขมันได้ถึง 70 กิโลแคลอรีเลยทีเดียว นั่นก็หมายความว่า ยิ่งดื่มน้ำมาก ก็จะยิ่งช่วยลดความอ้วน แต่ในคนที่กำลังลดความอ้วน ลดปริมาณอาหารแต่ลืมดื่มน้ำ ต้องระวัง เพราะน้ำหนักจะไม่ลง เพราะน้ำคือ ตัวช่วยทำให้ไขมันสลายเร็วขึ้น นั่นเอง
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า การดื่มน้ำ มาก ๆ ไตจะทำงานหนักไปหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า น้ำจะเป็นพิษต่อร่างกายนั้น ต้องดื่มมากเป็น 10 ลิตร อย่างเช่น กรณีการรับน้องแบบพิเรนทร์ ๆ ที่เราเห็นข่าวกัน ส่วนคนทั่วไปดื่มน้ำอย่างเก่งสัก 5 ลิตรก็ไม่เป็นอะไร
ดังนั้นไม่ว่าจะดื่มน้ำเย็น น้ำร้อน หรือน้ำอุณหภูมิปกติ ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร หลักการ ง่าย ๆ คือ น้ำเย็น ควรดื่มเวลาออกกำลังกาย จะดูดซึมเร็ว แต่มีข้อห้ามในผู้หญิงที่มีประจำเดือน ไม่ควรดื่มน้ำเย็น เพราะจะยิ่งทำให้ปวดท้องมากขึ้น
ส่วนน้ำอุ่น ควรดื่มเพื่อกระตุ้นลำไส้ ทำให้ลำไส้บีบตัวดี เช่น เวลาท้องเสีย เจ็บคอ เป็นหวัด นพ.กฤษดา บอกว่า ใครที่ไม่อยากแก่ ต้องดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้น เนื่องจากผิวที่แก่เกิดจากการขาดน้ำ การดื่มน้ำมาก ๆ ยังช่วยทำให้สมองปลอดโปร่ง แต่ถ้าดื่มน้ำน้อย โดยเฉพาะในผู้ชายอาจทำให้น้ำไปเลี้ยงอสุจิไม่พอ ทำให้อสุจิไม่แข็งแรง และเซ็กซ์เสื่อมได้
ในคนที่มีอาการคล้ายจะเป็นหวัด เช่น ปากแห้ง ตาแห้ง อย่าเพิ่ง กินยา ให้ดื่มน้ำมาก ๆ สักพักจะหายได้ โดยไม่ต้องพึ่งยา ที่เป็นเคล็ดสำหรับคนดื่มเหล้า คือ ถ้ากลัวว่า จะแฮงก์ควรดื่มน้ำตามเข้าไปประมาณ 4 เท่าของเหล้าที่ดื่มก็จะช่วยได้ แต่ละวันเราควรดื่มน้ำมากน้อยแค่ ไหน ? นพ.กฤษดา บอกว่า ควรดื่มน้ำตามน้ำหนักตัว คือ ดื่มน้ำ 1 ออนซ์ ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. ถ้าน้ำหนักตัว 60 กก.ก็ต้องดื่มน้ำ 60 ออนซ์ โดยน้ำ 1 ออนซ์ก็ประมาณ 30 ซีซี คนน้ำหนัก 60 กก. ก็ต้องดื่มน้ำประมาณ 1,8000 ซี.ซี.
บทความโดย : นพ.กฤษดา ศิรามพุช ผอ.ศูนย์เวชศาสตร์ อายุรวัฒน์นานาชาติ
กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญชาวญี่ปุ่นยืนยันว่าน้ำอุ่นมีประสิทธิภาพ 100% ในการแก้ไขปัญหาสุขภาพ เช่น
1. ไมเกรน
2. ปัญหาความดันโลหิตสูง
3. ปัญหาความดันโลหิตต่ำ
4. ข้อต่อ
5. การเพิ่มขึ้นและลดลงของการเต้นของหัวใจอย่างฉับพลัน
6. โรคลมชัก
7. ลดระดับคอเลสเตอรอล
8. ลดอาการไอ
9. ลดอาการไข้ไม่สบาย
10. หอบหืด
11. การอุดตันของหลอดเลือดดำ
12. โรคที่เกี่ยวข้องกับมดลูกและปัสสาวะ
13. ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหาร
14. โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตาหูและลำคอ
15. ปวดหัว
วิธีดื่มน้ำอุ่น
ตื่นนอนตอนเช้าดื่มน้ำอุ่นประมาณ 4 แก้วเมื่อท้องว่างทันที
หมายเหตุ : ห้ามกินอะไร 45 นาทีหลังจากดื่มน้ำ
การบำบัดด้วยน้ำอุ่นจะช่วยแก้ปัญหาสุขภาพภายในระยะเวลาที่เหมาะสมเช่น
1. โรคเบาหวานใน 30 วัน
2. ความดันโลหิตภายใน 30 วัน
3. ปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะอาหารภายใน 10 วัน
4. มะเร็งทุกชนิดใน 9 เดือน
5. การอุดตันของเส้นเลือดใน 6 เดือน
6. ลดความกระหายอาหารใน 10 วัน
7. มดลูกและโรคที่เกี่ยวข้องใน 10 วัน
8. ปัญหาจมูกหูและลำคอใน 10 วัน
9. ปัญหาผู้หญิงใน 15 วัน
10. โรคหัวใจใน 30 วัน
11. ปวดศีรษะ / ไมเกรนใน 3 วัน
12. คอเลสเตอรอลภายใน 4 เดือน
13. โรคลมชักและอัมพาตอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 9 เดือน
14. หอบหืดภายใน 4 เดือน
น้ำเย็นจะเป็นประโยชน์สำหรับคุณ : ถ้าน้ำเย็นไม่ส่งผลต่อคุณในวัยหนุ่มสาวมันจะเป็นอันตรายต่อคุณในวัยชรา
– น้ำเย็นปิดหลอดเลือดดำ 4 ดวงและทำให้หัวใจวาย เครื่องดื่มเย็นเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดภาวะหัวใจวาย
– นอกจากนี้ยังสร้างปัญหาในตับ ทำให้ไขมันติดอยู่กับตับ คนส่วนใหญ่รอการปลูกถ่ายตับเป็นเหยื่อของการดื่มน้ำเย็น
– น้ำเย็นส่งผลกระทบต่อผนังภายในของกระเพาะอาหาร มีผลต่อลำไส้ใหญ่และส่งผลต่อมะเร็ง
อ้างอิงจาก : http://www.real08.com/2017/11/drinking-warm-water-over-cold-water-can.html
เรียบเรียงโดย : Postsod