อยู่อย่างเข้มแข็ง หลังอายุ 50 ชีวิตแต่ละช่วงชีวิต

0

อยู่อย่างเข้มแข็ง หลังอายุ 50 ชีวิตแต่ละช่วงชีวิต

“เฉลียงชีวิต” ของ เปลว สีเงิน

อย่าไปกังวลว่า ถ้าคุณจากไป อะไรจะเกิดขึ้น… เพราะเมื่อกลายเป็นผงธุลีไปแล้ว

ใครเขาจะยกย่องชื่นชมหรือตำหนิประณามอย่างไร คุณจะไปรู้สึกรู้สาอะไรได้

ลูกของคุณเขาจะเป็นอย่างไร…ก็อย่าเป็นห่วงให้มากนัก พวกเขาต่างก็มีจุดหมายและหนทางชีวิตของตนเอง ตายไปแล้ว…คุณก็ยังไม่เลิกเป็นทาสของลูกๆ อีกหรือ อย่าคาดหวังอะไรมากจากเด็กๆ ต่อให้คุณชุบเลี้ยงใคร ไว้ดูแลคุณยามแก่เฒ่า เขาก็ต้องวุ่นวายกับ การงานและภาระผูกพันต่างๆ เกินกว่าจะมีเวลามาช่วยเหลือดูแลอะไรคุณได้มากนัก
ส่วนลูกจริงๆ นั้นก็อาจจะกำลังทะเลาะกัน เพื่อแย่งทรัพย์สมบัติของคุณอยู่ทั้งๆที่คุณยังมีชีวิตอยู่ก็ได้

ดีขึ้นมาหน่อย ก็อาจจะแค่แอบภาวนาให้คุณอย่าใช้เงินให้มาก และรีบจากไปเสียเร็วๆ อย่างนี้ก็มีให้เห็นอยู่ถมไป
คุณไม่รู้หรอกหรือว่า..บรรดา ลูกๆ เขาถือว่าทรัพย์สมบัติของ คุณเป็นสิทธิ์ขาดของเขาไปแล้ว คุณจึงไม่มีสิทธิ์จะไปกำหนดอะไรได้เลย ในเงินที่เป็นของเขา…

เข้าใจไหม? คนอายุเกิน ๖๐ อย่างคุณ ต้องเลิกเอาสุขภาพไปแลกกับความร่ำรวยได้แล้ว มีเงินเท่าไร ก็ซื้อสุขภาพคืนมาไม่ได้ คุณตอบได้ไหมว่า จะหยุดหาเงิน เมื่อใด…เท่าไหร่คุณถึงจะบอกว่า พอแล้ว…ร้อย พัน หมื่น ล้าน สิบล้าน…พอรึยังไม่ทราบ ?

ต่อให้คุณมีไร่นานับพันไร่ คุณก็กินข้าวได้แค่วันละสามจาน แม้นมีคฤหาสน์นับพันหลัง คุณก็ต้องการพื้นที่หลับนอน ยามค่ำคืนเพียงแปดตารางเมตร

ดังนั้น..ตราบใดที่คุณยังมีข้าวปลาอาหารกินอย่างเพียงพอ มีเงินพอใช้สอยได้ทุกวัน เพียงเท่านี้ก็ดีเหลือหลายแล้ว อายุเท่านี้แล้ว คุณควรอยู่ อย่างเป็นสุข ทุกบ้านต่าง ก็มีปัญหาของตนเอง อย่ามัวไปคิดเปรียบเทียบ แก่งแย่งแข่งดีกัน ไม่ว่าชื่อเสียง ฐานะในสังคม หรือความก้าวหน้า
ของเด็กๆ ฯลฯ

สิ่งที่ควรจะแข่งกันทำกันจริงๆ นั้น คือแข่งกันมีความสุข แข่งกันมีสุขภาพดีและอายุ ยืนนาน ส่วนอะไร ที่เราเปลี่ยนมันไม่ได้  ก็อย่าไปฝังอกฝังใจให้ป่วยการ และทำลายสุขภาพตัวเองเลย

อายุป่านนี้แล้วก็ยังเปลี่ยนมันไม่ได้เลย หลัง ๖๐ แล้วอย่างนี้ คุณต้องค้นหาหนทางของคุณเองที่จะสร้างชีวิตที่เป็นอยู่ดีๆ และสุขสดใสขึ้นมาให้ได้ ตราบใดที่มันทำให้คุณอารมณ์ดี คิดถึงแต่สิ่งที่ทำให้เป็นสุข ทำอะไรก็สุขสนุกกับมันอยู่ทุกวัน นั่นก็หมายความว่า คุณได้ผ่าน วันเวลาอย่างเป็นสุขแล้ว ทุกวันวานที่ผ่านไป คุณจะสูญเสียไป ๑ วัน แต่ถ้ามันผ่านไป อย่างเป็นสุข วันนั้นคือกำไรชัดๆ เลย จิตใจที่ดีจะช่วยรักษาโรคภัยได้

ถ้าจิตใจเป็นสุขโรคก็จะหายเร็วขึ้น แต่ถ้าจิตใจทั้งดี ทั้งเป็นสุขด้วยแล้วล่ะก็ ความเจ็บป่วยจะไม่มีทางมาแผ้วพานได้ ด้วยอารมณ์ที่ดีแจ่มใสอยู่เป็นนิจ ออกกำลังกายให้เพียงพอ อยู่กลางแจ้งบ่อยๆ กินอาหารให้ครบหมู่ ได้วิตามินและแร่ธาตุอย่างเพียงพอ เพียงเท่านี้ก็เชื่อได้แน่นอนว่า ชีวิตที่เป็นสุข อีก ๒๐ หรือ ๓๐ ปี จะเป็นของคุณแน่นอน

เหนือสิ่งอื่นใด…คุณต้องรู้จักบ่มเพาะและเก็บเกี่ยวความสุขดีๆ จากการได้อยู่ ได้เที่ยว ได้คุยกับเพื่อนๆเพราะเขาเหล่านี้จะช่วยให้คุณ รู้สึกเยาว์วัยและมีความหมายอยู่เสมอ ขาดพวกเขาเมื่อใด…คุณจะต้องรู้สึกสูญเสียอย่างแน่นอน

ครับ…อ่านแล้วเห็น “เฉลียงชีวิต” ในวัยชรากันบ้างมั้ย?

ก็ต้องขอบคุณทั้งเจ้าของความคิด ผู้เผยแพร่ และทั้งผู้ส่งให้ผมอ่าน ก็อยากบอกว่า…. อายุเราเลือกไม่ได้ก็จริง
แต่ชีวิตแต่ละช่วงชีวิต เราเลือกได้

เปลว สีเงิน

พ่อ-แม่ ยิ่งแก่ ยิ่งห่วง ส่วนลูก ยิ่งโต ยิ่งห่าง

แปลจากข้อความฝรั่ง เรื่อง Sixty plus and Going strong เข้มแข็งหลัง ๖๐

ขอขอบคุณ : pantip

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่