สูตร ชามะรุม แก้โรคหอบ ลดน้ำตาล ปวดหลัง ปวดเอว กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ

0

สูตร ชามะรุม แก้โรคหอบ ลดน้ำตาล ปวดหลัง ปวดเอว กระดูกทับเส้น ไตอักเสบ

ในคัมภีร์ใบเบิ้ลกล่าวไว้ว่า “มะรุม” เป็นพืชที่รักษาทุกโรค ใบมะรุมมีโปรตีนสูงกว่านมสด 2 เท่า การกินใบมะรุมตามชนบทของประเทศกำลังพัฒนาและประเทศโลกที่ 3 เป็นการเพิ่มโปรตีนคุณภาพสูงราคาถูกให้กับอาหารพื้นบ้าน

ปัจจุบันมีผู้ให้ความสนใจกับคุณสมมบัติของมะรุมอย่างมาก และนิยมนำมาประกอบอาหารกันอย่างแพร่หลายทั้งในประเทศฝั่งตะวันออกและตะวันตก และสามารถนำมาทำเป็นชาชงดื่มได้ดีอีกด้วย เช่น ในญี่ปุนมีการผลิตชาใบมะรุมออกจำหน่ายโดยระบุว่าใช้แก้ไขปัญหาโรคปากนกกระจอก หอบหืด อาการปวดหูและปวดศรีษะ ช่วยบำรุงสายตา ระบบทางเดินอาหาร ในประเทศอินเดีย หญิงตั้งครรภ์จะกินใบมะรุมเพื่อเสริมธาตุเหล็ก แต่ที่ประเทศที่ฟิลิปปินส์และบอสวานาหญิงที่เลี้ยงลูกด้วยนมจะกินใบมะรุม (ภาษาฟิลิปปินส์ เรียก “มาลังเก”) เพื่อประสะน้ำนมและเพิ่มแคลเซียมให้กับน้ำนมแม่เหมือนกับคนไทย

วิธีทำชาจากใบมะรุม

ความจริงแล้วส่วนอื่นของมะรุมนอกจากใบก็สามารถนำมาทำชาได้ เช่น ดอกมะรุม แต่จะขอนำเสนอวิธีทำชาจากใบมะรุม เริ่มต้นด้วการเก็บใบมะรุม แต่ก่อนที่จะเก็บครฉีดน้ำล้าใบบาต้นให้สะอาดเสียก่อน จากนั้นนำใบมะรุมมาผึ่งให้แห้งในที่ร่ม(ห้ามโดนแสงแดดโดยตรง) จนใบแห้งสนิท ใช้เวลาระมาณ 2-3 วัน สัมผัสดูจะรู้สึกถึงความกรอบ แต่สียังคงความเชียวไม่เปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเหมือนใบไม้ที่ถูกตากแดดดให้แห้ง ใบแห้งจะขาดวิตามินซี วิตามินบี คลอรีน และแร่ธาตุบางชนิด แต่คุณสมบัติอื่นๆ ยังคงเดิม

อีกวิธีหนึ่งที่เป็นขั้นตอนการทำชาแบบโบราณก็คือ นำใบชาที่ผึ่งแห้งแล้วลงไปคั่วในหม้อดินเผาเพื่อไล่ความชื้น นำใบเตยสดมาหั่นตามขวางเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ลงไปคั่วด้วยกันกับใบมะรุม ก็จะเกิดกลิ่นหอมจากใบเตยเพิ่มอัธรสให้ชามากขึ้น จากนั้นนำมมาผึ่งทิ้งไว้ห้เย็นและแห้งสนิท

วิธีเก็บรักษา

ควรเก็บรักาใบชามะรุมที่ตากแห้งในขวดทึบแสง เพื่อป้องกัไม่ให้แสงผ่านเข้าไปทำลายให้คุรภาพของชาเสื่อม

14 สรรพคุณของมะรุม ประโยชน์ในการรักษาโรค

1. มะรุมมีสรรพคุณช่วยฆ่าเชื้อรา เชื้อจุลินทรีย์ และเชื้อแบคทีเรียตามผิวหนังได้ หรืออาจนำไปใช้เพื่อเป็นยาปฏิชีวนะก็ได้ด้วย

2. ประโยชน์ของมะรุมเป็นยารักษาโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี เพราะจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ซึ่งจะส่งผลให้ความเข้มของเลือดต่ำลงด้วย จึงช่วยรักษาโรคความดันโลหิตได้ดีเช่นกัน

3. มะรุมช่วยเพิ่มการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันร่างกายให้ยิ่งแข็งแรง พิสูจน์ได้จากการวิจัยพบว่าช่วยรักษาคนที่ป่วยเป็นโรคเอดส์ให้อยู่ในภาวะที่สามารถควบคุมได้

4. มะรุมมีสรรพคุณต้านการเกิดโรคมะเร็งได้ แต่ถ้าเป็นแล้วก็จะช่วยให้การรักษาผ่านไปด้วยดี หากได้รับการฉายรังสีให้ดื่มน้ำมะรุมจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น

5. ประโยชน์ของมะรุมรักษาอาการหวัด เป็นไข้ แก้ไอ หรือมีอาการไอเรื้อรัง และยังรักษาโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด หรือโรคโพรงจมูกอักเสบ ทำให้ปอดแข็งแรงด้วย

6. สรรพคุณของมะรุมช่วยบรรเทาอาการของโรคไขข้อ ไขข้ออักเสบ ปวดตามข้อหรือกล้ามเนื้อ และกระดูกอักเสบ

7. ประโยชน์ของมะรุมรักษาโรคขาดสารอาหารอย่างได้ผลดี โดยเฉพาะในเด็กแรกเกิดถึงอายุ 10 ขวบ ทำให้ร่างกายกลับมามีเนื้อมีหนัง ร่างกายมีความสมบูรณ์และแข็งแรงขึ้น

8. มะรุมมีฤทธิ์ในการช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูอ่อนเยาว์ ไม่หยาบกร้าน มีผิวที่นุ่มนวลขึ้น เพราะในมะรุมอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ

9. มะรุมมีสรรพคุณใช้แก้อาการคันศีรษะ หรือมีอาการคันมาจากเชื้อรา และช่วยแก้ปัญหาเส้นผมหลุดร่วงให้น้อยลง

10. มะรุมช่วยรักษาอาการต่างๆ เกี่ยวกับโรคของดวงตาได้หมด อาทิ ชะลอการเสื่อมของจอประสาทตา โรคตามืดมัว หรือโรคต้อในตา

11. มะรุมมีสรรพคุณทางยาที่ช่วยแก้โรคลำไส้อักเสบและโรคพยาธิในลำไส้ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งช่วยบรรเทาอาการท้องเสียและท้องผูกให้ดีขึ้น

12. มะรุมเป็นพืชสมุนไพรที่ดูแลสุขภาพช่องปาก โดยสามารถนำมะรุมมาใช้รักษาอาการปวดฟัน เลือดออกตามไรฟัน และโรคปากนกกระจอก

13. สรรพคุณมะรุมช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดี บำรุงเลือด รักษาและป้องกันโรคโลหิตจางได้ และในตำราแพทย์พื้นบ้านสามารถนำใบมะรุมมาใช้พอกบาดแผลเพื่อช่วยห้ามเลือดได้

14. มะรุมมีสรรพคุณช่วยบำรุงร่างกาย ปรับสมดุลของฮอร์โมนให้เป็นปกติ ทำให้อารมณ์คงที่ ไม่แปรปรวนขึ้นลงง่าย

ข้อความระวัง

ผู้ที่เป็นโรคเม็ดโลหิตแดงแตกกระจาย TG6PD การทานมะรุมจะทำให้เป็นอันตรายต่อเม็ดโลหิตแดงอย่างมาก ดังนั้นหากท่านที่มีโรคเม็ดโลหิตแดงแตกกระจายอยู่ ควรปรึกษาแพทย์ก่อน

ขอขอบคุณ : sukkaphap-dtodayhealth

เรียบเรียงโดย : Postsod

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่