3 คาถาบูชาพ่อแม่! สวดทุกวัน ชีวิตดี จะมีแต่โชคลาภ นำพาความสุข

0

3 คาถาบูชาพ่อแม่! สวดทุกวัน ชีวิตดี จะมีแต่โชคลาภ นำพาความสุข

นอกจากการนำพวงมาลัยและรดน้ำขอขมาแล้ว ก็ยังมีการสวด คาถาบูชาพ่อแม่ ทุกครั้งก่อนนอนโดยอานิสงค์ที่สวดจะทำให้คุณและครอบครัวมีความสุข คุณจะนำพวงมาลัยพร้อมกับ คาถาบูชาพ่อแม่ ไปสวดพร้อมกันเลยก็ได้นะคะ จำไม่ได้ก็จดใส่กระดาษเล็กๆ เพียงเท่านี้ก็สามารถตอบแทนบุญคุณพ่อกับแม่ได้แล้วค่ะ

1. อิมินาสักกาเรนะ ข้าขอกราบสักการะบูชา อันพระบิดร มารดา ตัวข้าขอน้อมระลึกคุณ ท่านมีเมตตาการุณ อุปการะคุณต่อบุตรธิดา ท่านให้กำเนิดลูกมา

ทั้งการศึกษาและอบรม ถึงแม้ลำบากขื่นขม ทุกข์ระทมสักเพียงใด ท่านไม่เคยหวั่นใหว ต่อสิ่งใดที่ใด้เลี้ยงมา พระคุณท่านล้นฟ้า ยิ่งกว่าธาราและแผ่นดิน ข้าขอบูชาเป็นอาจิณ ตราบจนสิ้นดวงชีวา ขอปวงเทพไท้รักษา อันพระบิดรมารดาของข้า เทอญ..

2. มัยหัง มาตาปิตูนังวะปาเทสุ วันทามิ สาทะรัง (กราบ 1 ครั้ง)

3. อะนันตะคุณะ สัมปันนา ชะเนติชะนากา อุโภ มัยหัง มาตา ปิตูนังวะ ปาทา วันทามิ สาทะรัง

หลังจากสวดบูชาแล้ว หากสะดวกก็ทำพิธีขออโหสิกรรมต่อเลยก็ได้ โดยให้เตรียมน้ำโรยดอกมะลิไปหนึ่งขัน แล้วพูดว่า ?กายกัมมัง วจีกัมมัง มโนกัมมัง โย โทโส

อันว่าโทษใดความผิดอันใด ที่ข้าพเจ้าพลั้งเผลอสติไป ด้วยกายก็ดี ด้วยใจก็ดี ทั้งต่อหน้าและลับหลัง ขอใหคุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า คุณตา คุณยาย คุณพี่ คุณน้อง อโหสิกรรมให้ด้วย? หลังจากนั้นราดน้ำรดมือ รดเท้า

อ่านต่อครับ แนะนำเลยว่าดีจริงๆ

” ทุกข์ทั้งกายใจ ต้องดูแลพ่อแม่ที่ป่วยเพียงลำพัง ส่วนพี่น้องคนอื่น ๆ กลับสบาย “

ปุจฉา – ขอถามพระอาจารย์ค่ะ หนูสงสัยว่าทำไมแต่ละบ้านจึงมีลูกเพียงคนเดียวที่คอยดูแลพ่อแม่ ซึ่งบางทีพ่อแม่ป่วยก็ทำให้ลูกที่เป็นคนดูแลเหนื่อยมาก ๆ เหนื่อยกายไม่พอยังเหนื่อยใจสารพัดเรื่องอีก สุขภาพก็ทรุดโทรมเพราะต้องอดหลับอดนอน งานการก็เสียหายไม่ก้าวหน้า หัวหน้าก็เพ่งเล็ง เพราะต้องลางานบ่อย พาคนแก่ไปหาหมอบ้าง ต้องหยุดงานเพราะไม่มีคนดูแลบ้าง ครอบครัวหรือแฟนก็ไม่มี เพราะไม่มีเวลาออกไปเจอใคร ไม่มีเวลาสานสัมพันธ์ด้วย เวลาที่มีอยู่ก็ทุ่มเทให้พ่อแม่หมดแล้ว การพักผ่อนหย่อนใจอย่าไปพูดถึง ไม่มีเวลาแม้แต่ดูแลตัวเอง

คำพูดที่ว่าคนกตัญญูย่อมเจริญรุ่งเรือง แต่ที่หนูเคยพบมาคนที่ดูแลพ่อแม่มักเป็นอย่างที่พูดไปแล้ว

หนูอยากทราบว่าการที่เราต้องเป็นคนดูแลพ่อแม่นั้น เป็นกรรมที่ต้องชดใช้หรือเปล่าคะ ทำไมลูกคนอื่น ๆ ถึงสบาย ไม่ต้องลำบากดูแลอะไรเลย เหมือนเขามีบุญ ไม่ต้องทุกข์ร้อนกับเรื่องใด ๆ มีความสุขกับครอบครัวตัวเอง งานการก็ก้าวหน้า มันตรงข้ามกับหนูที่เป็นคนดูแลมากเลยที่ทุกข์ทั้งกายทั้งใจ

แล้วอีกอย่างคือการที่ดูแลพ่อแม่นั้นบางทีก็มีอารมณ์เสียบ้าง พูดจาไม่ดีใส่บ้างเพราะความเครียด อย่างนี้หนูจะได้บุญที่ดูแลพ่อแม่ไหมคะ หรือได้แต่บาปที่ทำไม่ดีกับพ่อแม่ ส่วนลูกที่อยู่ไกลๆนานๆมาทีนั้นก็พูดจาจ๊ะจ๋า ไม่ได้ทำให้พ่อแม่เสียใจเท่าหนูที่เป็นคนที่อยู่ใกล้เลย บางครั้งหนูก็นึกปลงว่าคงมีกรรมร่วมกันมา เลยต้องมาชดใช้ในชาตินี้ พ่อแม่ก็รักน้อยกว่าคนที่ไม่ค่อยดูแลอีก น้อยใจจริงๆค่ะ

ขอบคุณพระอาจารย์มากนะคะ

พระไพศาล วิสาโล – การดูแลพ่อแม่ที่ป่วยเฒ่านั้น คุณเป็นคนเลือกเอง ดังนั้นจึงไม่อาจเรียกได้ว่า คุณกำลังใช้กรรม เพราะคำว่า “ใช้กรรม”นั้น ใช้ในกรณีที่จำยอมต้องรับสภาพ โดยไม่สามารถเลือกได้ (เช่น เจ็บป่วย ประสบอุบัติเหตุ ธุรกิจล้มละลาย – แต่ก็อย่าเพิ่งสรุปว่าเหตุการณ์เหล่านี้เป็นเพราะกรรมในอดีตชาติอย่างที่มักเข้าใจกัน)

กรณีของคุณนั้น คุณตัดสินใจดูแลท่านเอง จึงเรียกว่าเป็น การ “สร้างกรรม” และเป็นกรรมดี ที่ได้บุญมากด้วย

สิ่งที่คุณกำลังทำอยู่นั้นเป็นความเสียสละอย่างมาก พูดได้ว่าเป็นโชคของพ่อแม่ที่มีลูกอย่างคุณ เพราะพ่อแม่หลายคน ไม่สามารถพึ่งพาลูกได้เลยสักคน ทั้ง ๆ ที่มีลูกหลายคนและต่างก็มีฐานะพอจะดูแลพ่อแม่ได้ พร้อมกันนั้น อาตมาก็อยากพูดว่าเป็นบุญของคุณที่ได้มีโอกาสดูแลพ่อแม่ในยามที่ท่านลำบาก

เพื่อนของอาตมาบางคนประสบปัญหาอย่างเดียวกับคุณ คือต้องดูแลแม่คนเดียวซึ่งเป็นอัลไซเมอร์ ช่วยตัวเองไม่ค่อยได้ ทีแรกเธอก็มีความทุกข์มาก เพราะชีวิตผันเปลี่ยนไปเนื่องจากต้องทิ้งงานและวิถีชีวิตที่เคยมี แต่ภายหลังก็ตั้งสติได้ และเห็นว่าที่แม่เป็นเช่นนี้เปิดโอกาสให้เธอได้ทำบุญตอบแทนแม่ ยิ่งคิดทบทวนชีวิตที่ผ่านมาตั้งแต่เล็ก ก็เห็นได้ว่าแม่เป็นฝ่ายให้เธอมาตลอด ตอนนี้เป็นโอกาสที่เธอจะได้ให้แม่บ้าง เมื่อคิดเช่นนี้เธอก็มีความสุขและขอบคุณแม่ที่ทำให้เธอได้ตอบแทนบุญคุณของพ่อแม่ แม้ตัวเองจะเหนื่อยมากก็ตาม

การที่พี่น้องของคุณมีชีวิตที่สุขสบายตอนนี้ ไม่ได้แปลว่าเขาจะสุขสบายไปตลอด หากไม่ทำบุญสร้างกุศล เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้คน หรือแม้แต่ตอบแทนผู้มีพระคุณเมื่อมีโอกาส จะมีความเจริญไปได้นานสักเพียงใด คนเราในที่สุดก็ต้องแก่และเจ็บป่วย ถึงตอนนั้นก็อาจต้องประสบชะตากรรมเหมือนคนแก่อีกหลายคนเวลานี้ คือ ไม่มีใครดูแล แม้แต่ลูกหลานของตัวก็ไม่สนใจ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตอนเป็นหนุ่มสาวตนเองไม่เคยดูแลพ่อแม่เลย บางครั้งบาปกรรมก็ต้องใช้เวลาหลายปีกว่าจะส่งผล ในทำนองเดียวกันบุญกุศลที่คุณทำในขณะนี้ แม้ยังไม่ส่งผลในวันนี้ แต่ก็จะปรากฏผลในวันหน้าอย่างแน่นอน

ระหว่างนี้คุณควรดูแลสุขภาพกายและใจให้ดี ๆ เพราะการดูแลพ่อแม่ที่เจ็บป่วยตามลำพังนั้น ต้องอาศัยการทุ่มเทมาก คุณควรมีเวลาออกกำลังกายและพักผ่อนจิตใจบ้าง เช่น ทำสมาธิสัก ๕-๑๐ นาทีเป็นอย่างน้อยทุกวัน ทั้งก่อนนอนและเมื่อตื่นเช้า ขณะที่ทำงาน ก็มีสติ อยู่กับปัจจุบัน อย่าไปกังวลกับงานที่ยังมาไม่ถึง อย่าหวนอาลัยในสิ่งที่ผ่านไปแล้ว ไม่เปรียบเทียบตนเองกับใครรวมทั้งพี่น้อง พยายามมีความสุขหรือพอใจกับงานที่ทำ

การวางใจเช่นนี้จะช่วยให้คุณได้พักใจในระหว่างทำงานไปด้วย ความเครียดจะลดลง และทำให้คุณอดทนต่อพ่อแม่ได้มากขึ้น ไม่หงุดหงิดใส่ท่าน แต่หากเผลอทำไป ก็กลับมาตั้งหลักใหม่ อย่ามัวจมอยู่กับความผิดพลาดที่ได้ทำไป ให้อภัยตัวเองอยู่เสมอ จะช่วยให้คุณมีพลัง ทำงานที่สำคัญนี้ให้สำเร็จลุล่วงด้วยดี ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าใดก็ตาม

แชร์ต่อให้คนที่คุณรักได้สวดมนต์ สิริมงคลกับชีวิต เพื่อโชคลาภ ความรุ่งเรือง ความร่ำรวย 1 แชร์ได้บุญ

ขอขอบคุณ : พระไพศาล

เรียบเรียงโดย : Postsod

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่