มะก่องข้าว สมุนไพรสารพัดประโยชน์ รวมไปถึงแก้อาการ “ปวดกระดูก”

0

มะก่องข้าว สมุนไพรสารพัดประโยชน์ รวมไปถึงแก้อาการ “ปวดกระดูก”

สมุนไพรมะก่องข้าวสามารถนำมาใช้ทำยาได้ตั้งแต่รากจนถึงใบ และลูกดิบอ่อนก็สามารถกินได้ หากจะเก็บไว้ให้ได้นานขึ้นก็นำต้นมะก่องข้าวมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ตากแดดให้แห้งสนิท ถ้าไม่แห้งสนิทก็จะต้องอบให้แห้ง เพื่อไม่ให้เกิดเชื้อราจะเก็บไว้นานๆ หรือจะทานแบบสดๆ ด้วยการเด็ดใบมาต้มทานก็ได้ มะก่องข้าวนอกจากรักษาโรคเบาหวานแล้ว ยังสามารถนำส่วนต่างๆ มาใช้เป็นสมุนไพรรักษาโรคอื่นได้

เป็นยาแก้โรคเบาหวาน นำใบหรือทั้งต้นใช้ต้มกับน้ำดื่ม ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด หรือใช้ยอดสดยาว 1 คืบ จำนวน 15 ยอด นำมาต้มกับน้ำประมาณ 6 แก้วจนเดือด ใช้ดื่มในขณะยังอุ่นจนหมด ติดต่อกันทุกวันประมาณ 2-3 อาทิตย์ หรือมีการใช้ผลต้มกับน้ำกินครั้งละ 8-9 ผลต่อน้ำ 2 ลิตร หากน้ำตาลในเลือดลดลงแล้วให้ใช้เพียง 4-5 ผลต่อน้ำ 2 ลิตร ต้มดื่มแทนน้ำ จะช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ บ้างก็ว่าใช้ทั้ง 5 ส่วนของครอบฟันสีก็ใช้รักษาโรคเบาหวานได้ นอกจากน้ำตาลจะลดแล้วผู้ที่เป็นแผลเปื่อยจากเบาหวานก็หายด้วย (ผล,ใบ,ทั้งต้น) โดยมีผลการทดลองสนับสนุนสรรพคุณนี้ ทดสอบฤทธิ์ในการลดระดับน้ำตาลในเลือดของสารสกัดจากมะก่องข้าว ด้วยการป้อนสารสกัดในขนาด 500 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักหนู 1 กิโลกรัม พบว่าสารสกัดดังกล่าวจะใช้เวลาดูดซึมประมาณ 2 ชั่วโมง จึงจะออกฤทธิ์

ยาแก้โรคลมบ้าหมู หรือโรคลมชัก ด้วยการใช้ทั้งต้นรวมรากนำมาต้มกับน้ำปริมาณพอสมควรจนเดือด แล้วนำมาดื่มในขณะยังอุ่นทุกวัน วันละ 2-3 ครั้ง ผู้ที่เพิ่งเป็นโรคดังกล่าวจะหายในไม่นาน แต่ถ้าเป็นนานเกิน 5 ปีแล้ว ต้องต้มดื่มติดต่อกันทุกวันเป็นเวลานาน 1 ปี จึงจะหาย

ช่วยแก้อาการหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 15-30 กรัม ข้าวเหนียวปริมาณ 1 ถ้วย (หรือจะใช้เนื้อหมูไร้มัน หรือเต้าหู้แทนข้าวเหนียวก็ได้) ในปริมาณพอสมควร ใช้ต้มกับน้ำรับประทาน

ช่วยแก้อาการรากฟันเน่าและเป็นหนอง ด้วยการใช้รากแห้งประมาณ 15 กรัม นำมาผสมกับน้ำตาลแดงพอสมควร ใช้ต้มกับน้ำดื่ม หรือจะใช้รากแห้งนำมาแช่กับน้ำส้มสายชูประมาณ 1 ชั่วโมง แล้วเอาผ่าห่อนำมาอมไว้ในปากบ่อยๆ และใบใช้ขยี้นำมาอุดฟัน ช่วยแก้อาการปวดฟัน แก้อาการเหงือกอักเสบ

ช่วยแก้อาการเจ็บคอ ต่อมทอนซิลอักเสบ อาการไอ และหลอดลมอักเสบ ด้วยการใช้รากนำมาทุบแล้วแช่กับน้ำส้มสายชูประมาณหนึ่งชั่วโมง จากนั้นนำมาอมจะทำให้อาการดีขึ้น ส่วนอีกวิธีแก้ต่อมทอนซิลอักเสบ ให้ใช้ทั้งต้นสด 40-80 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน

แก้อาการบิดมูกเลือด บิดมูกขาว ด้วยการใช้เมล็ดนำมาคั่วให้เกรียม แล้วบดให้เป็นผง ใช้ครั้งละ 3-5 กรัม นำมาผสมกับน้ำผึ้งรับประทานก่อนอาหาร วันละ 3 ครั้ง

ช่วยขับปัสสาวะ , ช่วยแก้อาการปัสสาวะขัด เจ็บ ขุ่น ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปวดแสบเวลาขับปัสสาวะ หรือที่เรียกว่าโรคติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยใช้ทั้งต้นสด 40-80 กรัม นำมาต้มกับน้ำรับประทาน หรือเปลือกนั้นมีเมือก ที่นำมาใช้เป็นยาขับปัสสาวะได้เช่นกัน มีการใช้ในอินโดจีนโดยใช้ดอกอ่อนและเมล็ดเป็นยาขับปัสสาวะ และหล่อลื่น ในอินเดียจะใช้ยาชงจากราก เป็นยาแก้อาการขัดเบาเป็นเลือด และยังระบุด้วยว่ารากและเปลือกนั้นมีฤทธิ์ขับปัสสาวะได้เป็นอย่างดี

ประคบ แก้ปวดเมื่อยกระดูก ให้เอา “มะก่องข้าว” ทั้งต้นรวมรากแบบแห้ง 1 กำมือต้มกับน้ำท่วมยาจนเดือดแล้วเอาเนื้อห่อผ้าขาวบางประคบจุดที่ปวดกระดูกและดื่มน้ำที่ต้มครั้งละครึ่งแก้ว 3 เวลา เช้า กลางวัน เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ หรือ จะเอาทั้งต้นแบบแห้งต้มน้ำอาบ จะช่วยให้อาการปวดกระดูกและอาการไข้ที่เกิดจากการปวดกระดูกที่อักเสบให้หายได้

แหล่งที่มา : kaijeaw

เรียบเรียงโดย : Postsod

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่