สูตรข้าวหมกไก่แท้ๆ ข้าวหอมนุ่ม ทำง่ายๆจากหม้อหุงข้าว

0

สูตรข้าวหมกไก่แท้ๆ ข้าวหอมนุ่ม ทำง่ายๆจากหม้อหุงข้าว

สูตรข้าวหมกไก่สไตล์อินเดียมาฝากให้ได้อิ่มอร่อยกันถ้วนหน้าเสน่ห์ข้าวสีเหลืองทองหอมกลิ่นเครื่องเทศ กินคู่กับไก่ และน้ำจิ้มสะระแหน่หวานๆ เปรี้ยวๆ รับรองเลยว่าถูกใจแน่นอน อร่อยบอกต่อ

ส่วนผสม

1. ชิ้นไก่ 4 ชิ้น [น่องติดสะโพก]

2. ข้าวหอมมะลิ 2 ถ้วย

3. หัวหอมแดง สับละเอียด 15 หัว

4. กระเทียมกลีบเล็ก สับละเอียด 10 กลีบ

5. ขิงสับละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ

5. เนยแขก [GHEE] 2 ช้อนโต๊ะ

6. นมเปรี้ยว 1 ถ้วยตวง หรือ 125 กรัม

7. น้ำซุปไก่ 1 ถ้วย

ใช้เครื่องเทศแบบเบ็ดเสร็จ ซื้อมาจากร้านสุวรรณเครื่องเทศ เครื่องแกงของร้านนี้มีหลายอย่างที่ซื้อมาแล้วไม่ต้องปรุงเพิ่มคะ

แต่เพื่อให้เป็นไปตามที่เราเคยกินและเคยเห็นบุรการีทำกันมา ก็ต้องจัดกันไปตามที่เราชอบและตามความเป็นจริง ไม่มีการมั่วนิ่ม

เครื่องปรุงผงข้าวหมกไก่

1. ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา

2. หญ้าฝรั่น 1 ช้อนชา

3. ผงขมิ้น 1 ช้อนชา

4. ลูกผักชีป่น 1 ช้อนชา

5. ยี่หร่าป่น 1 ช้อนโต๊ะ

6. พริกไทยป่น 1 ช้อนชา

7. เกลือป่น 1 ช้อนชา

8. อบเชย 1 ช้อนชา

9. ใบกระวาน 2 ใบ

10. น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ

เครื่องเทศใส่เพิ่ม [ส่วนนี้ใส่หรือไม่ก็ได้]

1. ลูกกระวาน 3-4 ลูก ถ้ามีลูกกระวานเทศ [ลูกเฮ้นท์] ก็ไส่ไป

2. กานพลู 3-4 ดอก

3. ไม้หวาน [อบเชย] หักเป็นท่อนเล็ก ๆ 2-3 ท่อน

4. โป๊ยกั๊ก 2 ดอก

ผงข้าวหมกไก่ยี่ห้อ “โลโบ้-Lobo” ใช้ได้นะคะ แล้วมาปรุงเพิ่มส่วนผสม เพิ่มเติมเครื่องเทศลงไป วันนี้ใช้พริกแกงสำเร็จรูปจากร้านแขก โดยนำสองชนิดมาผสมกันระหว่าง น้ำพริกแกงกุรุหม่า และผงข้าวหมก

สิ่งที่ต้องเตรียม

1. เจียวหัวหอมแดงให้กรอบ พักไว้

2. ทำน้ำจิ้มข้าวหมก เตรียมไว้

3. เตรียมผักต่าง ๆ ที่จะรับประทานกับข้าวหมก อาทิ ต้นหอมจักเป็นฝอยแล้วแช่น้ำเพื่อให้หยิกงอ ผักชี แตงกวา ผักกาดหอม ใบสะระแหน่สด

4. ซาวข้าวสารแล้วพักให้สะเด็ดน้ำ

วิธีปรุง

เริ่มจากหมักชิ้นไก่โดยใช้ส้อมทิ่มที่เนื้อไก่ให้เป็นรูพรุน หนังไก่ไม่ไม่ต้อง ใส่ผงข้าวหมก ใส่นมเปรี้ยว คลุกเคล้าให้ทั่วแล้วหมักทิ้งไว้ในตู้เย็นข้ามคืน ก่อนปรุงไปนำเนื้อไก่ออกมาคลุกเคล้าอีกรอบแล้วปล่อยให้คลายความเย็น

หมักไก่นำไปแช่เย็นรอไว้ แล้วมาปรุงน้ำพริกสะระแหน่ต่อ

น้ำพริกสะระแหน่ [น้ำจิ้มตำรับแท้ดั้งเดิมของชาวมุสลิม]

1. กระเทียมกลีบเล็ก 20 กลีบ

2. พริกชี้ฟ้าเขียว หรือพริกขี้หนูเขียว

3. ผักชีไทย

4. ใบสะระแหน่

5. น้ำตาลทราย

6. น้ำส้มสายชู

7. เกลือป่น

8. นมเปรี้ยว [ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้]

เอาหม้อตั้งเตา ใส่น้ำส้มสายชู และน้ำตาลทรายลงไปเคี้ยว พักไว้ให้เย็น นำส่วนผสมทั้งหมดข้อ 1-4 ใส่ในเครื่องผสมอาหาร แล้วบดปั่นให้ละเอียด

 

เทส่วนผสมที่ปั่นละเอียดใสไปในน้ำเชื่อมที่พักไว้ ใส่เกลือ ชิมรสให้ออก เปรี้ยว ๆ โดยหวานนำ [น้ำจิ้มสูตรนี้นำไปทานร่วมกับก๋วยเตี๋ยวลุยสวนได้]

 

ถ้าใส่ใบสะระแหน่จะได้สีเขียวสด เขียวมรกตแบบนี้ หอมด้วยแต่ผู้คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าสีเขียวที่ทานกับข้าวหมกเป็นโหระพา ปั่นใส่ลงไปแล้วความหอมแตกต่าง สีที่ได้ยังแตกต่างด้วยคะ

สีเขียวสดและความหอมของผักชีไทย ผสมกับใบมินท์ สะระแหน่ เพรสโต้ซอสแบบไทย ๆ สามารถใช้ผักชีไทยผสมกับใบสะระแหน่ แบบนี้ก็ได้ แล้วเพิ่ม พาเมซองชีส และไพน์นัท หรือถั่วต่าง ๆ ลงไป

พักน้ำพริกสะระแหน่ไว้ก่อน แล้วไปลงมือทำข้าวหมกกันคะ

ตั้งกระทะใส่เนยแขก [Ghee] หรือเนยถังทอง นำหอมแดง กระเทียม ขิงสับละเอียดลงไปผัดให้หอมสุกใส

ใส่เนื้อไก่ที่หมักเครื่องและนมเปรี้ยวลงไปจี่ในเครื่องแกง พอชิ้นไก่เริ่มเกรียมเล็กน้อยก็กลับด้าน ทอดแบบไม่ต้องสุกมาก

พอไก่เกือบสุกตักใส่ชาม พักรอไว้

นำข้าวสารที่ซาวพักไว้ลงผัดกับเครื่องแกงในกระทะ ผัดคลุกเคล้าให้เข้ากันจนทั่วแล้วดับไฟเตา

จัดฉาก เตรียมการ

ตักข้าวที่ผัดแล้วใส่ในหม้อหุงข้าวไฟฟ้า วางชิ้นไก่ปิดทับไปบนข้าว หรือจะเลียงสลับกันไประหว่างชั้นก็ได้ เติมน้ำซุปลงไป

เติมน้ำซุปลงไป

หมายเหตุ: น้ำซุปถ้าไม่ท่วมข้าวไม่ต้องกลัวว่าข้าวจะไม่สุกข้าวที่ซาวอุ้มน้ำไว้ น้ำจากนมเปรี้ยว น้ำจากหอม-กระเทียม ฉะนั้นน้ำซุปถ้วยเดียวบ่งบ๊งหุงออกมาแล้วข้าวสุกพอดีเลย

ตั้งโปรแกรมหุง ก่อนที่ข้าวจะสุกให้เอาไม้พายหรือพายยางลงไปคนข้าวคุ้ยข้าวจากด้านล่างขึ้นมาด้านบน วิธีนี้ทำให้ข้าวสุกทั่ว มีมีปัญหาข้าวดิบเนื่องจากน้ำซุบที่ใส่ไปอาจจะไม่ท่วมข้าวด้านบน ทำให้ส่วนบนไม่สุกทั่ว

ตั้งโปรแกรมหุงข้าวธรรมดาก็ได้ข้าวที่สุกทั่วถึงทั้งหม้อ ไม่มีข้าวดิบ ข้าวสุกแล้ว เย้ๆๆๆๆ กรี๊ดดดด ข้าวเรียงเม็ดสวย

เหลืองพอไม๊คะพี่น้อง ถ้าไม่เหลืองก็ต้องเติม “หญ้าฝรั่น – Saffron”ต้องเติมหญ้าฝรั่น เครื่องเทศที่แพงมาก แพงเวอร์เพิ่มความเหลือง

ไม่ใช่เหลืองของหญ้าฝรั่น แต่เป็นเหลืองของผงขมิ้นและผงกระหรี่

เรียบร้อยแล้วจ้า เป็นยังไงกันบ้าง อย่าลืมแชร์แบ่งปันให้เพื่อนๆได้ทำกินกันนะ แล้วจะหามาให้อีกจ้า

แหล่งที่มา : bloggang

เรียบเรียงโดย : Postsod

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่