รู้ไว้ไม่เสียหาย!! หากเสียชีวิต.. ขอเบิกเงินได้ “1แสนบาท” จาก “กระทรวงยุติธรรม”ของทุกจังหวัด!! โดยทำแบบนี้

0

รู้ไว้ไม่เสียหาย!! หากเสียชีวิต.. ขอเบิกเงินได้ “1แสนบาท” จาก “กระทรวงยุติธรรม”ของทุกจังหวัด

วันนี้เรามีข้อมูลดีๆ มาแนะนำเพื่อนอีกตามเคย ถ้าอ่านแล้วมีประโยชน์ อย่าลืมกดแชร์เพื่อบอกต่อให้คนอื่นๆรู้ด้วยนะ

หลักเกณฑ์การขอรับเงินค่าตอบแทนและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายตามพระราชบัญญัติ
ค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ.2544

เมื่อได้บาดเจ็บหรือตายจากการกระทำผิดทางอาญาของบุคคลอื่นผู้เสียหายขอรับทางอาญาของบุคคลอื่น ผู้เสียหายขอรับค่าตอบแทนจากรัฐได้และเมื่อได้รับบาดเจ็บทางร่างกาย หรือจิตใจหรือถึงแก่ความตายอันเนื่องมาจากถูกข่มขืน ถูกทุบตี หรือฆ่าเพื่อชิงทรัพย์ ถูกลูกหลงถูกทำให้แท้งลูกหรือได้รับบาดเจ็บหรือตายจากการกระทำจากบุคคลอื่น

คนชราหรือคนป่วยที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้และถูกทอดทิ้งเมื่อเกิดเหตุให้ปฏิบัติ ดังนี้

1. แจ้งความเพื่อดำเนินคดีต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ณ ท้องที่ที่เกิด

2. พบแพทย์ที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจรักษา กรณีตายให้แจ้งเพื่อออก
ใบมรณบัตร

3. รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

4. ยื่นคำรับเงินค่าตอบแทนภายใน 1 ปี นับจากวันที่เกิดเหตุ

สิทธิการได้รับเงินช่วยเหลือของผู้เสียหาย

กรณีทั่วไป

1. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 30,000 บาท

2. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพทางร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 20,000 บาท

3. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ อัตราวันละไม่เกิน 20,000 บาท ระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี

4. ค่าตอบแทนความเสีหายอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรไม่เกิน 30,000 บาท

กรณีเสียชีวิต

1.ค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย ตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท

2.ค่าจัดการศพ จำนวน 20,000 บาท

3.ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู ไม่เกิน 30,000 บาท

4.ค่าความเสียหายอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร แต่ไม่เกิน 30,000 บาท

เมื่อศาลอนุญาตให้ถอนฟ้อง หรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ยกฟ้องจำเลยขอรับค่าทดแทนจากรัฐได้

เมื่อถูกพนักงานอัยการฟ้องเป็นจำเลยในคดีอาญาและถูกคุมขังในระหว่างที่ศาลพิจารณาคดี ต่อมาปรากฏ
ข้อเท็จว่าจำเลยไม่ได้กระทำผิด มีการถอนฟ้องระหว่างการพิจารณาคดีหรือศาลพิจารณาแล้วว่าข้อเท็จจริง
ที่ปรากฏ จำเลยไม่ได้กระทำผิดและมีคำพิพากษาอันถึงที่สุดให้ยกฟ้องจำเลยให้ปฏิบัติดังนี้

1.ติดต่อเจ้าพนักงานที่อ่านคำพิพากษาเพื่อขอคัดสำเนาเอกสาร โดยให้เจ้าหน้าที่รับรองสำเนาถูกต้อง ดังนี้

– สำเนาคำพิพากษาของศาลทุกศาลที่มีคำพิพากษา

– สำเนาหมายขัง หมายจำคุกและหมายปล่อย

– สำเนาใบแต่งทนายความ

– หนังสือรับรองคดีถึงที่สุด

2. สำเนาหนังสือว่าจ้างความกรณีที่ไม่ใช่ทนายขอแรง

3. รวบรวมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง

4. ยื่นคำขอรับเงินค่าทดแทนภายใน 1 ปี นับจากวันที่ศาลอนุญาตให้ถอนฟ้อง หรือศาลมีคำพิพากษาคดีถึงที่สุด

สิทธิการได้รับเงินช่วยเหลือของจำเลย

กรณีทั่วไป

1. ค่าทดแทนการถูกคุมขัง อัตราวันละ 200 บาท

2. ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการรักษาพยาบาลเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 300,000 บาท ความเจ็บป่วยต้องเป็นผลโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี

3. ค่าฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายและจิตใจเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 50,000 บาท ความเจ็บป่วยต้องเป็นผลโดยตรงจากการถูกดำเนินคดี

4. ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ในระหว่างถูกดำเนินคดีอัตราวันละไม่เกิน 200 บาท นับแต่วันที่ไม่สามารถประกอบการงานได้ตามปกติ

5. ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดี

– ค่าทนายความเท่าที่จ่ายจริงในอัตราไม่เกินกฎกระทรวงกำหนด

– ค่าใช้จ่ายอื่นเท่าที่จ่ายจริง ไม่เกิน 30,000 บาท

กรณีเสียชีวิต

1. ค่าทดแทน จำนวน 100,000 บาท

2. ค่าจดการงานศพ จำนวน 20,000 บาท

3. ค่าขาดอุปการะเลี้ยงดู จำนวนไม่เกิน 30,000 บาท

4. ค่าความเสียหายอื่นตามที่คณะกรรมการเห็นสมควรไม่เกิน 30,000 บาท

ขอบคุณข้อมูลจาก : servicelink2

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่