คนข้างๆ นอนกรนบ่อยๆ.. ใบแมงลักช่วยรักษาการนอนกรนได้นะรู้หรือยัง?
แมงลักเป็นพืชล้มลุกในสกุลกะเพราและโหระพา ลักษณะของต้นจะคล้ายกับต้นกะเพรา ต่างกันที่กลิ่นและสีใบจะอ่อนกว่า มีลำต้นสูงประมาณ 30-80 เซนติเมตร มีกลิ่นหอมทุกส่วน ใบเดี่ยว ใบเรียงตรงข้ามเป็นคู่ ๆ ดอกและช่อจะออกที่ปลายยอด อาจเป็นชื่อเดี่ยวหรือแตกออกเป็นช่อย่อย ๆ ดอกจะบานจากล่างไปบน กลีบดอกสีขาวแบ่งเป็น 2 ปากและร่วงง่าย เกสรตัวผู้จะยื่นยาวกว่ากลีบดอก ดอกย่อยออกโดยรอบก้านก่อเป็นชั้น ๆ แต่ละชั้นมีดอกย่อย 6 ดอก แบ่งเป็น 2 ส่วน ดอกตรงกลางจะบานก่อนและช่อดอกย่อยที่อยู่ชั้นล่างสุดของก้านช่อดอกจะบานก่อนเช่นกัน ผล 1 ดอกมีผล 4 ผล มีขนาดเล็ก เรียกว่าเม็ดแมงลัก ซึ่งมีลักษณะกลมรีและมีสีดำ
และนอกจากนี้แล้วใบแมงลักยังสามารถรักษาอาการนอนกรนได้อีกด้วย สำหรับใครที่ชอบการรักษาด้วยสมุนไพร ใบแมงลักถือเป็นทางเลือกหนึ่งที่ดีเลยค่ะ โดยมีวิธีนำมาใช้ดังนี้
วิธีน้ำใบแมงลักมารักษาอาการนอนกรน
- ให้เอาเฉพาะ “ใบแมงลัก” สดประมาณ 1 ขยุ้มมือกับ
- ใช้หัวหอมแดง สดปอกเปลือก 5 หัว
- ขิงแก่ สด ยาว 10 ซม. และ พริกขี้หนู สด 7 ลูก ทั้งหมดล้างน้ำให้สะอาด
- ต้มกับน้ำ 1 ลิตร จนเดือด
- ดื่มขณะอุ่น วันละครั้ง ครั้งละ 3 ส่วน 4 แก้ว ก่อนนอนทุกวัน ต้มดื่มประจำเรื่อยๆ อาการนอนกรนจะค่อยๆดีขึ้นและหายได้ในที่สุด
สรรพคุณอื่นของแมงลัก
- ลำต้นสดต้มน้ำดื่มแก้ไอ ขับเหงื่อ ขับลม แก้โรคทางเดินอาหาร
- ใบสดตำให้ละเอียดคั้นเอาเฉพาะน้ำกินเป็นยาแก้หวัด แก้หลอดลมอักเสบ แก้ท้องร่วง ใบสดยังตำพอละเอียดเอากากหรือน้ำทาแก้โรคผิวหนัง ผื่นคันตามตัวดีมาก
- เมล็ดแห้งนำไปแช่น้ำจะเกิดพองตัว รับประทานเป็นยาระบายลดความอ้วน ดูดซึมน้ำตาลในเส้นเลือด ขับเหงื่อ ช่วยเพิ่มปริมาณอุจจาระเป็นเมือกลื่นในลำไส้
ประโยชน์ของเม็ดแมงลัก
- เม็ดแมงลัก ลดความอ้วน เพราะช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้ มีสรรพคุณในการเปลี่ยนคอเลสเตอรอลไปเป็นกรดน้ำดี และยังช่วยเพิ่มการขับออกของกรดน้ำดีด้วย ซึ่งจะไปลดเฉพาะคอเลสเตอรอลไม่ดี (LDL) แต่ไม่มีผลใด ๆ กับคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL)
- เม็ดแมงลัก ลดน้ําหนัก ตัวช่วยสำหรับผู้ที่ต้องควบคุมน้ำหนักและความอ้วน เนื่องจากเม็ดแมงลักไม่ก่อให้เกิดพลังงาน และมันสามารถพองตัวได้มากถึง 45 เท่า ! เมื่อนำมารับประทานเป็นอาหาร (ควรรับประทานแค่บางมื้อต่อวัน เพื่อป้องกันโรคขาดสารอาหาร) หรือจะรับประทานก่อนอาหารเพื่อทำให้กระเพาะไม่ว่างและรู้สึกอิ่มเป็นการช่วยควบคุมปริมาณอาหารที่รับประทานไปด้วยเป็นอย่างดี สำหรับวิธีชงเม็ดแมงลักก็คือใช้เม็ดแมงลักประมาณ 2 ช้อนชานำมาแช่น้ำ 1 แก้วใหญ่ทิ้งไว้จนพองตัวเต็ม นำมาผสมกับน้ำร้อน 1 แก้วแล้วนำมารับประทาน (หรือจะผสมกับน้ำผึ้ง น้ำสมุนไพร หรือนมก็ได้)
- เมื่อรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคหัวใจได้อีกด้วย
- เม็ดแมงลักเป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน เพราะช่วยทำให้การดูดซึมของน้ำตาลลดลง เนื่องจากเม็ดแมงลักทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ช้าลงอยู่แล้ว
- เม็ดแมงลักเป็นอาหารที่รับประทานง่าย กลืนง่าย ลื่นคอ และเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ค่อยรับประทานอาหารที่มีกากใยอย่างพวก ผักผลไม้
- ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้เป็นปกติและมีประสิทธิภาพ ขับถ่ายสะดวก
- เม็ดแมงลัก สรรพคุณล้างลำไส้ ช่วยดีท็อกซ์แก้ปัญหาอุจจาระตกค้าง ซึ่งเป็นสาเหตุมาจากการเคี้ยวอาหารไม่ละเอียด รับประทานอาหารที่มีกากใยน้อย มีพยาธิ ระบบย่อยอาหารผิดปกติ ระบบดูดซึมเสีย และขับถ่ายไม่เป็นเวลา (ช่วงเช้า 05.00 – 07.00 น.)
- ใบแมงลักช่วยแก้อาการวิงเวียนศีรษะได้
- ใบแมงลักมีสรรพคุณในการช่วยขับเหงื่อ
- ช่วยแก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ ด้วยการใช้ใบสดมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วรับประทาน
- ใบแมงลักมีฤทธิ์ช่วยขับลมในลำไส้
- ใช้เป็นยาระบาย กระตุ้นการขับถ่ายให้ดีขึ้น โดยการรับประทานเม็ดแมงลักก่อนเข้านอน
- ใบแมงลักต้มกับน้ำดื่มเป็นประจำช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับลำไส้หรือทางเดินอาหารได้
- ใบแมงลักมีฤทธิ์ช่วยยับยั้งเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียบางชนิดได้
- รักษาโรคกลากเกลื้อนด้วยการใช้ใบสดประมาณ 10 ใบ ล้างน้ำให้สะอาดแล้วนำมาตำผสมน้ำเล็กน้อย แล้วทาบริเวณที่เป็นกลากเกลื้อนวันละ 1 ครั้งประมาณ 1-2 สัปดาห์อาการจะดีขึ้น
Tip : วิธีสังเกตความแตกต่างระหว่างแมงลักกับโหระพาง่ายๆ ก็คือ ใบแมงลักจะเล็กกว่าใบโหระพา มีลำต้นสีเขียวอ่อนเกือบขาว ส่วนใบโหระพาลำต้นจะออกสีม่วงแดง เมื่อนำมาเทียบกันแล้วโหระพาจะต้นใหญ่กว่าแมงลัก และใบแมงลักจะเป็นรูปรีออกตรงข้ามกัน ปลายและโคนของใบแหลม ขอบใบเรียวหรือหยักมนๆ ซึ่งต่างจากใบโหระพาที่ขอบใบจะหยักเป็นฟันเลื่อยห่างๆ
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี, www.rspg.or.th, thairath
เรียบเรียงโดย : Postsod