แชร์เทคนิค! วิธีการปลูกย่านาง พืชสารพัดประโยชน์
สวัสดีค่ะ.. วันนี้เรานำเทคนิควิธีการปลูกใบย่านางมาฝากกันค่ะ ใบย่านางนั้นแสนจะมีประโยชน์หลากหลายอย่างทั้งการประกอบอาหาร ใช้ดื่มเพื่อสุขภาพก็แสนจะมากล้นด้วยคุณค่า มาดูกันเลยนะค่ะว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง
การปลูกและขยายพันธุ์
ย่า นางเป็นพืชที่ขึ้นในดินทุกชนิด และปลูกได้ทุกฤดู ขยายพันธุ์โดยการใช้หัวใต้ดิน เถาว์แก่ที่ติดหัว ปักชำยอด หรือการเพาะเมล็ด เป็นไม้ที่ปลูกง่ายโดยปลูกเป็นหลุมหรือยกร่องก็ได้
การเพาะเมล็ดย่านาง เมล็ดพันธุ์ที่เพาะยากทั้งหลาย มักจะขี้อายค่ะ หลักการเพาะก็คือ ต้องทำให้ชื้นแต่ไม่แฉะ ถ้าไม่โดนแสงจะกระตุ้นการงอกให้เร็วขึ้นมาก…จะใช้วิธีเพาะในกะบะทรายก่อน รดน้ำให้ชุ่ม คลุมผ้าเปียกสีดำหรือสีเข้มไว้ ไม่นานก็งอกค่ะ งอกแน่นอน ทดลองมาแล้ว หลังจากนั้น ค่อยแยกไปอนุบาลต่อในถุงดำหรือกระถางเล็ก
เทคนิค
จริง ๆ แล้ว วิธีเพาะแบบนี้ ค้นพบโดยไม่ตั้งใจ คือได้เก็บสะสมเมล็ดย่านางไว้เยอะ ประมาณ 300 เมล็ด อัตราการงอกจะมีมากน้อยแค่ไหน (ไม่มั่นใจตอนเอาไปแช่น้ำเพื่อล้างเหยื่อหุ้มออกแล้วเอาไปตากแดด) จึงตัดสินใจทดสอบการงอกด้วยวิธีนี้ ปรากฎว่าเมล็ดย่านางทยอยกันงอกจนแน่นกะละมัง น่าจะงอกเกือบ 100%
ประโยชน์ทางยา การทดลองทางห้องปฏิบัติการ จากการทดลองพบว่าสารสกัดจากรากย่านางมีฤทธิ์ต้านเชื้อมาลาเรียชนิด ฟัลซิพารัมในหลอดทดลอง
ใบ รสจืดขม รับประทาน ถอนพิษผิดสำแดง แก้ไข้ ตัวร้อน แก้ไข้รากสาด ไข้พิษ ไข้หัว ไข้กลับซ้ำ ใช้เข้ายาเขียว ทำยาพอก ลิ้นกระด้าง คางแข็ง กวาดคอ แก้ไข้ฝีดาษ ไข้ดำแดงเถา
ราก รสจืดขม กระทุ้งพิษไข้ แก้ไข้ ปรุงยาแก้ไข้รากสาด ไข้กลับ ไข้พิษ ไข้ผิดสำแดง ไข้เหนือ ไข้หัวจำพวกเหือดหัด สุกใส ฝีดาษ ไข้กาฬ รับ ประทานแก้พิษเมาเบื่อแก้เมสุรา แก้พิษภายในให้ตกสิ้น บำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ แก้โรคหัวใจบวม ถอนพิษผิดสำแดง แก่ไม่ผูก ไม่ถ่าย แก้กำเดา แก้ลมทั้งต้น ปรุงเป็นยาแก้ไข้กลับ บ้านอะลาง
สรรพคุณทางยา
- แก้ไข้ ใช้รากย่านางแห้ง 1 กำมือ ประมาณ 15 กรัม ต้มกับน้ำ 2 แก้วครึ่ง เคี่ยวให้เหลือ 2 แก้ว ให้ดื่มครั้งละ 1 แก้ว ก่อนอาหาร 3 เวลา
- แก้ป่วง (ปวดท้องเพราะกินอาหารผิดสำแดง) ใช้รากย่านางแดงและรากมะปรางหวาน ฝนกับน้ำอุ่น แต่ไม่ถึงกับข้น ดื่มครั้งละ 1 แก้วต่อครั้ง วันละ 3-4 ครั้ง หรือทุกๆ 2 ชั่วโมง ถ้าไม่มีรากมะปรางหวาน ก็ใช้รากย่านางแดงอย่างเดียวก็ได้ หรือถ้าให้ดียิ่งขึ้น ใช้รากมะขามฝนรวมด้วย
- ถอนพิษเบื่อเมาในอาหาร เช่น เห็ด กลอย ใช้รากย่านางต้นและใบ 1 กำมือ ตำผสมกับข้าวสารเจ้า 1 หยิบมือ เติมน้ำคั้นให้ได้ 1 แก้ว กรองด้วยผ้าขาวบาง ใส่เกลือและน้ำตาลเล็กน้อยพอดื่มง่ายให้หมดทั้งแก้ว ทำให้อาเจียนออกมา จะช่วยให้ดีขึ้น
- ดับพิษร้อน ถอนพิษไข้ ใช้หัวย่านางเคี่ยวกับน้ำ 3 ส่วน ให้เหลือ 1 ส่วน ดื่มครั้งละ 1 แก้ว การใช้เป็นยาพื้นบ้านในภาคอีสาน
- ใช้ราก ต้มเป็นยาแก้อีสุกอีใส ตุ่มผื่น
- ใช้รากย่านางผสมรากหมาน้อย ต้มแก้ไข้มาลาเรีย
- ใช้ราก ต้มขับพิษต่างๆ
รสและคุณค่าทางโภชนาการ
ใบย่านางรสจืด
คุณค่าทางโภชนาการ ข้อมูลจากหนังสือ Thai Food Composition Institute of Nutrition, Mahidol University (สถาบันวิจัยโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล) พบว่า ปริมาณสารสำคัญที่มีมากและโดดเด่นในใบย่านาง คือ ไฟเบอร์ แคลเซี่ยม เหล็ก เบต้าแคโรทีน วิตามินเอ บ้านอะลาง
ประโยชน์ทางอาหาร
ย่านาง มีทุกฤดูกาล ให้ยอดมากในฤดูฝน และให้ผลในฤดูแล้ง ส่วนที่กินและการปรุงอาหาร คนไทยนิยมใช้ใบย่านางคั้นเอาน้ำปรุงอาหารต่างๆ เช่น แกงหน่อไม้ ซุบหน่อไม้ (ย่านางสามารถต้านพิษกรดยูริกในหน่อไม้ได้) แกงอ่อม แกงเห็ด หรือขยี้ใบสดกับหมาน้อย รับประทานถอนพิษร้อนต่างๆ
ข้อควรระวัง (ขลำ) ต้องทำให้สุก
เป็นที่น่าสังเกตว่า คนอีสานไม่มีข้อห้ามในการกินหน่อไม้ในคนที่สูงอายุ ซึ่งแตกต่างจากทางภาคอื่นๆ ที่มีข้อห้ามในการบริโภคหน่อไม้ เมื่อมีอายุมากขึ้น โดยเชื่อกันว่าหน่อไม้มีผลทำให้ปวดข้อ แต่คนอีสานมีวัฒนธรรมการกินหน่อไม้คู่กับย่านางเสมอ จึงไม่มีปัญหาเหมือนการกินหน่อไม้ของภาคอื่นๆ
ประโยชน์ใช้สอยอื่นๆ
- น้ำสีเขียวจากใบย่านางนำไปใช้ย้อมผ้าได้อีกด้วย
- ใช้เป็นอาหารสัตว์ เช่น กระบือ
- เถาว์ มีความเหนียว ใช้มัดสัมภาระได้
ขอขอบคุณที่มาจาก : บ้านพอเพียง.blogspot.com