กระเจี๊ยบเขียว สมุนไพรมากประโยชน์ ช่วยให้หายได้
กระเจี๊ยบเป็นพืชสมุนไพร เป็นพืชล้มลุกที่มีอายุหลายปี จะมีการเจริญเติบโตได้ดีในอากาศร้อน คือจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ระหว่าง 18 ถึง 35 องศาโดยประมาณ เป็นพืชที่นิยมนำมาใช้สรรพคุณทาง ย า ที่จะช่วยรัก ษาเกี่ยวกับ โ ร คกระ เพาะ อาหารและอื่นได้อย่างดีมากๆ
กระเจี๊ยบเขียวนั้น เป็นพืชที่สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี จนเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของเกษตรกร กระเจี๊ยบเขียวนิยมนำมาทานในเมนูอาหาร ทำทานได้สดๆ นำไปประกอบอาหารต่างๆ หรือนำมาทำเป็นเครื่องดื่มกระเจี๊ยบเขียวก็ได้ให้ประโยชน์ที่ดี กับร่างกายของเราอย่างมากมาย
ประโยชน์ขั้นเทพของ กระเจี๊ยบเขียว
– กระเจี๊ยบเขียวนั้นมีสรรพคุณที่มีในเรื่องของการช่วยลดระดับน้ำตาลในโลหิต ซึ่งจะเป็นผักสมุนไพรที่เหมาะมากๆสำหรับผู้ที่เป็นเ บ า หวาน ผู้ที่กำลังควบ คุม ระดับ น้ำ ตาล น้ำ หนักตัว ทานกระเจี๊ยบเขียวอยู่เป็นประจำจะช่วยได้
– มีส่วนช่วยลดอาการ ท้อง ผู ก เพราะเนื่องจากว่าในกระเจี๊ยบเขียวนั้น จะมีลักษณะที่เหนียวใสด้านใน ที่จะช่วยทำให้การขับ ถ่ายอ่อนตัวขึ้น ทั้งยังมีกากใยอาหารที่ดีต่อในเรื่องของการขับ ถ่าย ใครที่มีการขับ ถ่ายยาก แนะนำว่าให้ทานกระเทียมเขียวอยู่เป็นประจำ จะช่วยในส่วนนี้ได้- กระเจี๊ยบมีส่วนช่วยจำนวนค อ เลส เตอ รอลที่สะสมอยู่ในร่างกาย
– ช่วยลดความ เ สี่ ย งของการเป็นโ ร ค กระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารอัก เ ส บในกระเจี๊ยบเขียวนั้นจะมี ลักษณะที่เหนียวใส จะช่วยเข้าไปเคลือบแ ผ ลในกระ เพาะอาหารได้
– ประกอบอาหาร ใช้เป็นผักจิ้มรับประทาน โดยเราจะนำกระเจี๊ยบเขียวมาต้มให้สุกหรือนำมาย่ า งไฟ นำมาทำแกงต่างๆ อย่างแกงเลียง แกงจืด แกงส้ม นำไปชุบแป้งทอด กรอบ หรือทำเป็นสลัดเป็นน้ำซุปก็ได้
– เมนูกระเจี๊ยบเขียวนั้นสามารถนำมาทำได้อย่างหลากหลายเมนูมากๆ
– ดอกอ่อนและตาดอก สามารถนำมารับประทานได้เช่นกัน
– รากของกระเจี๊ยบ สามารถที่จะนำมารับประทานได้ ให้ประโยชน์ที่ดี แต่ค่อนข้างจะเป็นลักษณะที่เหนียว และไม่เป็นที่นิยมในการทาน
– แป้งจากเมล็ดแก่ของกระเจี๊ยบเขียว เมื่อนำมาบด จะสามารถนำมาทำเป็นขนมปังหรือทำเป็นเต้าหู้ได้
– ใบของกระเจี๊ยบ เมื่อนำไปตากแห้งแล้วนำมาบด ให้เป็นผงใช้ในการโรยอาหาร และช่วยชูรสชาติของอาหารที่ดีขึ้นได้
วิธีรับประทานกระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียวนั้น เป็นผักสมุนไพรที่สามารถนำมาทานแบบสดได้เลย นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำมาทาน หรือจะนำไปประกอบในเมนูอาหารอื่นๆ นำไป ล น ไฟอ่อนๆ ทานกับน้ำพริกต่างๆ ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือจะทานผสมรวมกับน้ำผึ้ง น้ำมะนาว นำไปต้มเป็นเครื่องดื่มดื่ม 1 แก้วในทุกๆวัน ก็จะได้รับประโยชน์ที่ดีมากๆด้วยเช่นกัน
ขอบคุณข้อมูลจาก : liekr