วิธีเลือกซื้อที่ดิน ยังไงให้เหมาะการทำเกษตร
สมัยนี้หลายคนเริ่มเบื่อหน่ายกับการทำงานที่ต้องแข็งขัน และชีวิตที่วุ่นวายในเมือง และหลายคนก็เริ่มสนใจที่จะกลับไปใช้ชีวิตที่บ้ านเกิด เงินทองที่หามาได้จากการทำงานในเมืองก็เริ่มคิดที่จะมาลงทำการเกษตรในต่างจังหวัด แต่การจะทำการเกษตรเป็นอาชีพหลักนั้นมันก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่ใครหลายคนคิดไว้
แม้แต่เรื่องของที่ดินสำหรับทำการเกษตรก็ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและหลายคนมักจะมองข้ามไป บางคนเห็นพื้นที่กว้างๆราคาถูกก็ซื้อเก็บไว้ก่อน แต่เมื่อต้องใช้งานจริง เริ่มได้ทำการเกษตรจริงที่ดินเหล่านั้นอาจไม่เหมาะสมก็ได้ ในวันนี้เราจึงได้นำเรื่องราวที่ควรได้ทราก่อนที่จะตัดสินใจซื้อที่ดินเพื่อทำการเกษตรมาฝากกัน
1 ไม่ไกลจากที่อยู่อาศัย
ที่ดินนั้นควรใกล้กับถนนและไม่ไกลจากที่อยู่อาศัยประจำมากนัก เพื่อให้การเดินทางไปกลับระหว่างที่พักและที่ดินเกษตรเป็นไปอย่างสะดวก จะได้ลดเวลาในการเดินทาง ควรให้การเดินทางไปมาสะดวก โดยเฉพาะเกษตรกรที่ยังต้องทำงานในวันธรรมดาและไปทำสวนได้เฉพาะวันหยุด จะได้ไม่ท้อในเรื่องของการเดินทาง แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคล แต่อย่าลืมคำนึงถึงราคาน้ำมันที่ต้องใช้จ่ายในการเดินทางไปกลับด้วย
2 อยู่ติดหรืออยู่ใกล้แหล่งน้ำ
ที่ดินจะต้องมีแหล่งน้ำหรือติด กับแหล่งน้ำที่สามารถนำมาใช้ได้ทั้งปี เพื่อที่จะสามารถนำน้ำมาใช้ในแปลงเกษตรของตัวเองได้ทั้งปี แม้กระทั่งในหน้าแล้งก็ตาม หรือ้ากังวลในเรื่องน้ำแล้งอาจจะขุดบ่อน้ำเพิ่มก็ได้ แต่การซื้อที่ดินที่ไม่มีน้ำก็เท่ากับไม่มีประโยชน์ในเชิงเกษตร แต่สิ่งที่ไม่ควรทำคือการดึงน้ำบาดาลขึ้นมาใช้ เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหาภายหลังได้ อย่างปัญหาเกี่ยวกับการจัด การตะกอน หรือพื้นดินทรุดตัว
3 ใกล้ตลาด ชุมชน หรือผู้ซื้อรายใหญ่
หากต้องการปลูกพืชเพื่อจำหน่าย เพื่อที่จะสามารถขนส่งผลผลิตเพื่อจำหน่ายได้โดยง่าย ที่ดินผืนนั้นจำเป็นที่จะต้องอยู่ใกล้พื้นที่จำหน่าย ระยะทางและเวลาในการขนส่งที่ลดลงก็จะช่วยลดความเสียหายของผลผลิตจากการขนส่ง และไม่เสียเวลาในการขนส่งจนมากเกินไปอีกด้วย
4 สำรวจจากต้นไม้ที่ขึ้นบริเวณนั้น
ก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ดินแนะนำให้ลองสังเกตในที่ดินด้วยว่าต้นไม้ที่ขึ้นในที่ดินนั้นเป็นต้นอะไรเพื่อจะได้ทราบว่าที่ดินผืนนั้นสามารถเพาะปลูกพืชชนิดใดได้ดีที่สุด บางคนไปซื้อที่ดินที่เตียนโล่งแม้แต่หญ้าก็ไม่ขึ้น แล้วมาดีใจว่าไม่ต้องถางหญ้าปรับที่ดิน ซึ่งแท้ที่จริงเป็นดินเค็มที่เพาะปลูกอะไรไม่ได้
5 มีเพื่อนบ้ านและสังคมโดยรอบที่ดี
การที่จะซื้อที่ดินใหม่ไม่ว่าจะเพื่อการเกษตรหรือที่อยู่อาศัยควรสำรวจเพื่อนบ้ านให้ดีๆ และลองถามเจ้าหน้าที่ต่างๆ ว่ามีคดีอะไรมากน้อยแค่ไหน เพื่อสร้างความอุ่นใจในการซื้อที่ดินแปลงนั้นมาทำประโยชน์ตามความต้องการของตัวเอง รวมถึงเข้าไปทำความรู้จักผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่โดยรอบที่ดินที่คุณต้องการซื้อ เพื่อสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคุณและคนในละแวกนั้น
6 ควรเป็นพื้นที่ราบไม่มีน้ำท่วมขัง
ที่ดินทำการเกษตรส่วนใหญ่ควรเป็นพื้นที่ราบไม่ควรเป็นที่น้ำท่วมขัง หากเป็นที่ลาดชันเวลารดน้ำต้นไม้ น้ำจะไหลลงเบื้องล่างหมด หากต้องทำขั้นบันได ก็จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกว่าที่ดินผืนราบ แต่หากจะปลูกไม้ยืนต้นพวกไม้ป่า ก็เป็นที่เนินเขาได้ ทั้งนี้ขึ้นกับพืชที่เลือกจะปลูก
7 คำนึงถึงค่าปรับปรุงที่ดิน
ค่าปรับปรุงที่ดินไม่ว่าจะเป็น การขุดร่อง ขุดแนว ปรับหน้าดิน รวมทั้งถนนหนทาง หากเป็นที่ดินที่ซื้อร่วมกับคนอื่น ควรตกลงกันให้แน่ชัดตั้งแต่แรกว่าค่าใช้จ่ายต่างๆ จะร่วมกันรับผิดชอบอย่างไร ค่าโอน ค่าสาธารณูปโภค และอื่นๆ นอกจากนี้ถนนที่จะตัดเข้าไปยังที่ดินของแต่ละคนจะตกลงค่าใช้จ่ายและกร รมสิทธิ์กันอย่างไร การจะหาที่ดินเพื่อทำการเกษตรนั้นเราต้องดูด้วยว่าเราจะปลูกอะไร แบบไหน เน้นเพื่อจำหน่าย หรือเพื่อบริโภคเอง เพื่อจะได้มีเป้าหมายที่ชัดเจนและเลือกที่ดินได้อย่างคุ้มค่า
สำหรับใครที่กำลังวางแผนหรือตั้งใจจะซื้อที่ดินซักผืนหากไม่ได้ซื้อเพื่อเก็งกำไรแต่ตั้งใจจะเก็บไว้ใช้ประโยชน์ในอนาคตข้างหน้าก็อย่าลืมคำนึงถึงสิ่งที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ เพื่อที่เงินที่เสียไปนั้นจะได้ประโยชน์อย่างคุ้มค่ามากที่สุด
ที่มา : kaiputh, kaiputh