สวดมนต์ที่ถูกต้อง ส่งผลบุญได้มาก ต่อตัวผู้สวดเอง

0

สวดมนต์ที่ถูกต้อง ส่งผลบุญได้มาก ต่อตัวผู้สวดเอง

สำหรับการสวดมนต์ที่ถูกต้องนั้น จะส่งผลบุญผลอานิสงส์ได้ในทันทีต่อตัวของผู้ที่สวดเอง ไม่ต้องรอผลในวันอื่นๆ การสร้างบุญให้กับตนเองเราสามารถทำได้ในหลายๆวิธี และการสวดมนต์นั้นก็เป็นวิธี ที่จะสามารถสร้างผลบุญบารมีมากให้กับตนเองได้ การสวดมนต์นี้สวดอย่างตั้งใจ ตั้งจิตอธิษฐานจะส่งผลบุญให้กับผู้ที่จากไปแล้วให้กับเจ้าก ร ร มนายเวรได้

ในการสวดมนต์นั้นไม่มีบทสวดมนต์ใดที่จะสามารถในการดับความทุ ก ข์ได้ คนส่วนมากจะเข้าใจผิดในเรื่องนี้ สำหรับความทุ ก ข์ที่เกิดขึ้นนั้นล้วนมาจากใจของเรา หากใจของเราปล่อยวางได้ยอมรับความจริงได้ ใจก็จะเบาลงได้นั่นเอง

อย่างแรก “ต้องสมาทานศีลห้าทุกวัน เวลาไหนก็ได้ เพราะศีลจะครอบคลุมเป็นเกราะให้เราตลอดทั้งวันทั้งคืนที่เราไม่ได้ไปเบียด เบียนใคร ถึงศีลขาดไป 1 ข้อ แต่มี 4 ข้อก็ยังค้ำจุนให้เรามีศีลอยู่ และ พุทธคุณของศีลนี้จะส่งผลให้เราเจอแต่สิ่งดีงามตลอดทั้งวัน

หลักการสวดมนต์ เราต้องสมาทานศีลห้าก่อนสวดบทอื่นใดในโลกนี้ เพราะการสมาทานศีลห้า จะเป็นการกรองเสียงให้เป็นทิพย์ก่อน แล้วเราจึงสวดบทอื่นได้หมดทุกบท

หลักการที่สำคัญคือการ สวดด้วยความตั้งใจ เสียงดังฟังชัด การสวดมนต์ไม่ใช่การภาวนา เราจึงต้อง ให้เ ท ว ดา นาง ไม้ เจ้าที่ ฯลฯ ได้ยิน มาร่วมโมทนาบุญกับเรา เราต้องมั่นใจในพลังที่ออกจากน้ำเสียงของเรา ว่าเสียงที่เปล่งไปนั้น สามารถดังไปทั่วสวรรค์ และ ต้องเกิดจากความศรัทธา กราบไหว้พระ ก็ต้องเบญจางคประดิษฐ์ให้สวยงามนิ้วโป้งแตะหว่างคิ้ว พอก้ม หน้าผากให้แตะถึงพื้นไม่ใช่ทิ่มหัวลงไป เหมือนเป็นคนไม่มีศรัทธา อย่างนี้บุญที่ได้ จะไม่ละเอืยดเท่าคนที่เขาทำอย่างประณีตค่ะ

การสวดมนต์ก่อนนอนที่ถูกต้อง เรียงลำดับบทสวด

เริ่มจาก

คำบูชาพระ

อิมินา สักกาเรนะ พุทธัง อะภิปูชะยามิ (สวดคนเดียวลงด้วย “มิ” แต่สวดหลายคนเปลี่ยนเป็น “มะ”) ฯลฯ

คำนมัสการพระรัตนตรัย

อะระหัง สัมมา สัมพุทโธ ภะคะวา พุทธังภะคะวันตัง อภิวาเทมิ ฯลฯ

คำอาราธนาศีล5

อะหัง ภันเต วิสุง วิสุง รักขะนัตถายะ (ถ้าสวดหลายคนเปลี่ยนจาก อะหัง เป็น มะยัง) ฯลฯ

คำนมัสการพระพุทธเจ้า

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (3 จบ) ฯลฯ

ไตรสรณคมณ์

พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ , ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ , สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ ฯลฯ

ศีล 5

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ฯลฯ

คำขอขมาพระรัตนตรัย

สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตเยนะ กะตัง ฯลฯ

คำแผ่เมตตาให้แก่ตนเอง (การที่เราจะแผ่ เมตตาให้ใคร ให้จดจำเสมอว่า เราต้องให้เราก่อน เมื่อเรามีบุญเราจึงให้คนอื่นได้ค่ะ)

อะหัง สุขิโต โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงมีความสุข

อะหัง นิททุกโข โหมิ ขอให้ข้าพเจ้าจงป ร า ศจากทุ ก ข์ ฯลฯ

คำแผ่เมตตาให้แก่ผู้อื่น (พอขึ้นสัพเพ สัตตา วิญ ญาณของสัตว์ที่เรากินไปในแต่ละวันก็จะไปเกิดในทันทีไม่เกาะตามเนื้อตัวเราแล้วค่ะ)

สัพเพ สัตตา สั ต ว์ทั้งหลายทั้งปวง ที่เป็นเพื่อนทุ ก ข์ เกิด แก่ เจ็บ ต า ย ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น ฯลฯ

อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ (สวด 3 จบ บทนี้ขอให้ปัญญาทางธรรมจงเกิด กับเรา ขาดไม่ได้เช่นกันค่ะ)

นั่งสมาธิสั้นๆ

การเริ่มต้นฝึกการนั่งสมาธิ อย่านั่งนานเพราะระยะเวลาไม่ช่วยให้ท่านได้บุญมากเท่ากับการนั่งแล้วกำหนดสติของเราได้ตลอดต่อเนื่อง อยู่กับลมหายใจ

ในช่วงที่ทำสมาธินั้นทำจิตใจให้สงบ ไม่คิดวอกแวกไม่คิดในเรื่องอื่นๆ จิตใจปล่อยวางและผ่อนคลาย ตั้งมั่นกำหนดลมหายใจเข้าออก เริ่มฝึกใหม่ๆให้นั่งเพียงระยะสั้น 10-15 นาที เมื่อเสร็จแล้วนอนหลับจะนอนหลับได้อย่างสบายใจ ตื่นเช้ามาด้วยความสดชื่นมีความแจ่มใสและมีความสุขได้ตลอดทั้งวัน

ขอขอบคุณ : ลั่นทม ห่มนครคีรี

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่