9 วิธีออมเงิน เก็บเงินไม่เก่งยังทำได้เลย
ตั้งแต่ยังเล็กๆเรามักถูกส อนให้รู้จักกับการออมเงิน ตอนนั้นที่ยังไม่สามารถหาเงินเองได้ไม่มีค่าใช้จ่ายต่างๆให้รับผิดชอบก็มีกระปุกสำหรับเก็บออมเงินที่เหลือจากการได้ในแต่ละวัน แต่เมื่อโตขึ้นมาได้ทำงานได้มีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆที่ต้องรับผิดชอบไม่ว่าจะเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ บางคนต้องส่งให้ที่บ้าน ทั้งผ่อนรถ ผ่อนบ้าน จะให้ออมเงินได้เหมือนแต่ก่อนนั้นก็คงทำได้ยาก
แต่การออมเงินก็ยังถือเป็นเรื่องจำเป็นและเป็นสิ่งสำคัญ เพราะในอาคตข้างหน้าเราไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง หากไม่รู้จักการออมเลยแล้วเกิดเหตุการ์ที่จะต้องใช้เงินขึ้นมาก็อาจจะทำให้เกิดความลำบากขึ้นมาได้ ในวันนี้เรามีวิธีในการเก็บออมเงินมาฝากกันไม่ต้องห่วงว่าเงินเดือนน้อยแล้วจะเก็บออมไม่ได้ หากค่อยๆเก็บออมไปเดือนละนิดเดือนละหน่อยไม่นานก็จะได้เงินแสนอย่างแน่นอน
1 เก็บก่อนใช้
ถือเป็นการเริ่มต้นง่ายๆ ของคนที่ต้องการออมเงิน เห็นผลง่าย แต่ต้องบังคับตัวเองไม่ให้เอาเงินส่วนนี้ไปใช้ วิธีคือเมื่อเงินเดือนออก แบ่ง 10 เปอร์เซ็นต์ของเงินเดือนเพื่อเป็นเงินออมทันที และเงินก้อนนี้เพื่อการออมอย่างเดียวเท่านั้น ห้ามเอาออกมาใช้เด็ดขาด และสำหรับส่วนที่เหลือ ก็แบ่งเป็นส่วนๆ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ และใช้จ่ายประจำวัน ถือเป็นวิธีที่จะสามารถช่วยเราสร้างวินัยในการออมเงินได้
2 ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น
ลด การซื้อชา กาแฟแก้วละแพงๆที่จะต้องทานทุกวันอาจจะลองปรับเป็นซื้อทานเป็นบางวันและหันมาซื้อชาเป็นกล่อง กาแฟผงชงเอง ลดปริมาณขนมขบเคี้ยวที่รับประทานประจำวัน วางแผนอาหารการกินของตัวเอง หรือหากทำกับข้าวทานเองอยู่แล้ว ก็สามารถทำกับข้าวเพิ่มเพื่อนำใส่กล่องมารับประทานที่ทำงานแทนได้ เป็นการลดค่าใช้จ่าย แถมได้กินอาหารดีๆอีกด้วย
3 เอาชนะใจตัวเอง
นอกจากการจัดสรรเงินให้เป็นสัดส่วนแล้วสิ่งที่ยากที่สุดคงเป็นการเอาชนะใจตัวเองไม่เอาเงินที่เก็บออมออกมาใช้จ่าย อาจเริ่มจากการสร้างเป้าหมายระยะยาวสำหรับการออมเงินให้ตัวเอง ว่าต้องการออมเงินเพื่ออะไร เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนในการออมเงินแล้วก็ให้ใช้เป้าหมายนี้เตือนตัวเองว่าเราต้องออมเงินไปเพื่ออะไร ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการซื้อของที่ชอบ หรือเพื่อเก็บไว้ใช้จ่ายในอนาคต เมื่อเรานึกถึงบเป้าหมายเหล่านี้แล้วก็จะช่วยยับยั้งให้เราจะนำเงินออกมาใช้ได้
4 ไม่ยึดติดของฟุ่มเฟือยหรือของแบรนด์เนม
การตามตามเทรนด์ตามโลกอยู่ตลอดถือเป็นเรื่องที่ดี แต่ของบางอย่างจะให้เปลี่ ยนตามตลอด ก็คงไม่ไหวอย่างพวกโทรศัพท์มือถือที่หากต้องคอยเปลี่ ยนให้เป็นรุ่นใหม่ๆอยู่เสมอก็ถือเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยไม่ใช่น้อย นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเทรนด์เสื้อผ้าและแฟชั่นต่างๆบางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้ของแบรนด์เนมก็ได้ หากเลือกยี่ห้อที่ราคาดี คุณภาพดี คุ้มค่ากับราคา และเป็นของที่เหมาะสมและตรงไสตล์กับเรา เลือกสินค้า ของใช้ที่คุณภาพ และความเหมาะสมของคุณภาพและราคา โดยใช้จุดประสงค์ที่เราต้องการซื้อเป็นหลัก
5 หยอด กระปุกออมสิน
การหยอด กระปุกจะให้ดี ควรแบ่งกระปุกออกเป็นหลายๆ จุดประสงค์ แต่ละกระปุกก็มีเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ลองหากระปุกออมสินหรือจะเป็นกล่องอะไรก็ได้มาหลายๆใบ แล้วเขียนจุดประสงค์การเก็บเงินของแต่ละกระปุกมาแปะไว้ที่กระปุก เช่น สำหรับเที่ยว สำหรับซื้อนาฬิกาใหม่ ซื้อโทรศัพท์ใหม่ และแบ่งกระปุกไว้สำหรับการออมเงินอีกหนึ่ งกระปุก
อาจจะแบ่งหยอด กระปุก วันละ 10-20 บาทต่อกระปุก หยอดโดยแบ่งจากจำนวนเงินที่เหลือใช้รายวัน รายสัปดาห์ก็ได้ เท่านี้เราก็จะมีเงินสะสมเพื่อใช้ของที่ต้องการและยังมีเงินหยอด กระปุกสำหรับการออมเงินอีกด้วย
6 พกเงินน้อยลง
สำหรับใครที่เป็นคนใช้เงินเก่ง มีเท่าไหร่ใช้ได้หมด เป็นคนพกเงินเยอะ ก็ใช้เยอะ ลองหันมาพกเงินติดตัวจำนวนน้อยกว่าที่เคย อาจจะใช้ระบบการคำนวณค่าใช้จ่ายรายวัน ว่าใช้เงินต่อสัปดาห์เท่าไหร่ แล้วพกพอดีเท่านั้น คอยเตือนตัวเองว่านี่คือเงินที่เราต้องใช้ทั้งสัปดาห์ ไม่ใช่ใช้หมดใน 1 วัน แล้วถอนเงินเป็นรายสัปดาห์แทนที่จะถอนเมื่อเงินหมด ก็จะสามารถช่วยคุณออมเงินได้เช่นกัน
7 เก็บแบงค์ 50 บาท
เป็นวิธีออมเงินที่ง่ายที่สามารถทำได้ทันที จะให้เก็บแบงก์ 20 หรือแบงก์ 100 ก็อาจจะมีจำนวนเยอะเกินไป เก็บแต่แบงก์ 50 บาทที่นานๆจะได้ซักทีก็ถือเป็นวิธีที่ดีไม่น้อย หากได้แบงก์ 50 บาทมาเมื่อไหร่ เก็บเมื่อนั้นอาจจะเอาไปหยอด กระปุก หรือกระป๋องที่เราเตรียมไว้ พอกระปุกเต็ม หรืออาจจะครบระยะเวลาที่เรากำหนด ก็นำเงินส่วนนี้ไปฝากธนาคาร
8 งดใช้บัตรเครดิต
ไม่ใช้บัตรเครดิตในการช็อปปิ้งสินค้าฟุ่มเฟือย หรือสินค้าจุกจิก เพราะจะทำให้เราใช้บัตรเครดิตบ่อยมาก ทำให้มียอดเล็กๆเต็มไปหมด แต่รวมๆ กันแล้วกลับเยอะมาก แนะนำให้ใช้บัตรเครดิตเพื่อการชำระค่าใช้จ่ายรายเดือน หรือหากต้องซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ราคาแพง เถึงใช้บัตรเครดิต
9 เปิดบัญชีฝากประจำระยะยาว
เปิดบัญชีเงินฝากประจำ อาจเริ่มต้นที่ฝากประจำเป็นเวลา 5 ปี แล้วฝากเงินจำนวนเท่าๆ กันในบัญชีนั้นทุกๆ เดือน โดยใช้ระบบการตัดยอดเงินอัตโนมัติตามจำนวน และระยะเวลาที่เราต้องการ การตั้งให้มีการตัดเงิน โอนเงินอัตโนมัติจะทำให้เราไม่ต้องคิดมาก ไม่ต้องไปโอนเงิน หรือฝากเงินด้วยตัวเอง ไม่ต้องมีข้ออ้างในการไม่ไปฝากเงินด้วย
หากใครที่กำลังคิดเริ่มที่จะออมเงินก็สามารถลองนำแต่ละวิธีที่เราได้นำมาฝากกันนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับรูปแบบการใช้ชีวิตและรูปแบบการเงินของเราเอง จะเก็บวันละเล็กวันละน้อยโดยไม่ต้องไปคิดว่าจะต้องมีเงินเยอะๆ ค่อยๆเก็บไปทีละนิดโดยที่ไม่ต้องกดดันตัวเองมากจนเกินไปเชื่อได้ว่าไม่นานก็จะทำให้เรามีเงินเก็บอย่างที่เราต้องการได้อย่างแน่นอน
ที่มา : sanook