เลี้ยงหอยทาก ลงทุนครั้งเดียว สร้างเงินให้ชาวบ้านได้

0

เลี้ยงหอยทาก ลงทุนครั้งเดียว สร้างเงินให้ชาวบ้านได้

สำหรับใครที่กำลังมองหาช่องทางในการสร้างอาชีพและสร้างรายได้ ในช่วงเวลาแบบนี้หลายคนเริ่มหันไปสนใจและศึกษาทางด้านการเกษตรไม่ว่าจะเป็นทำไร่ ทำสวน หรือหลายคนเริ่มหันไปสนใจด้านการเลั้ยงและเพาะพันธุ์สัตว์ต่างๆ แต่สำหรับใครที่ต้องการลงทุนครั้งเดียวแต่สามารถสร้างรายได้ระยะยาวได้ วันนี้เราก็มีสัตว์ชนิดใหม่ที่ถือได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจมาแนะนำ นั่นคือการเลี้ยงหอยทากเพื่อรีดเมื อกไปขายมาฝากกัน

โดยเมื อกหอยทากมีส่วนประกอบของคอลลาเจนและอีลาสติน ซึ่งช่วยให้ผิวตึง ลดริ้วรอย และ กระตุ้นเซลล์ผิวหนัง ช่วยในการสมานแผล ซึ่งเมื อกหอยทากของไท ยมีคุณภาพสูง โดยมีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 80,000 บาท และหากสกัดเป็นผงบริสุทธิ์ จะมีราคามากถึงกิโลกรัมละ 1.8 ล้านบาท ซึ่งมีมูลค่ามากกว่าทองคำหนัก 1 กิโลกรัม และเมื อกหอยทากนี้ยังเป็นที่ต้องการในวงการเครื่องสำอางอย่าางสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่น่าสนใจของคนที่ต้องการลงทุนในวิถีทางการเกษตร ที่หากเรียนรู้เพิ่มเติมสามารถสร้างรายได้ที่งดงามมาก

สายพันธุ์ที่นิยมเลี้ยง

หอยทากในบ้านเรานั้นมีหลายสายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่นิยมคือ Achatina fulica หรือที่เรียกกันว่า อาข่า สายพันธุ์นี้เข้ามาในบ้านเราตั้งแต่สมัยสง คร ามโลกครั้งที่ 2 จากบรรดาท ห ารญี่ปุ่นที่เข้ามากินเป็นอาหารในกองทัพ โดยหอยทาก อาข่า มี 2 เพ ศในตัวเดียวกัน จึงสามารถวางไข่ได้ทุกตัว แต่ละตัววางไข่ได้ครั้งละประมาณ 1,000 ฟอง อาหารของหอยทากอาข่าคือ ใบไม้ธรรมดาทั่วไป และนอกจากนี้หอยทากยังกินอาหารอื่นๆได้อีก เช่น ข้าว ผิวเปลือกไม้ พืชผักต่างๆ ในยุคหนึ่ งเกษตรกรถูกหอยทากสร้างความเสียหายให้ภาคการเกษตรปีละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท

วิธีเลี้ยงหอยทาก

ส่วนใหญ่เลี้ยงในสภาพแวดล้อมตามปกติ มีวิธีในการเลี้ยงด้วยกัน 3 แบบ คือ แบบทำกรงให้หอยทากอยู่กับดิน แบบกรงยกสูงจากพื้น และแบบท่อซีเมนต์ ซึ่งหอยทากสามารถกินพืชได้มากมายจึงหาอาหารให้ทานได้ง่าย แต่ให้เน้นเป็นพืชผักที่ปลอดส าร เกษตรกรบางรายใช้วิธีเพาะถั่วเขียวเพื่อนำเอาต้นถั่วงอกไปเป็นอาหารหอยทาก ซึ่งมีต้นทุนน้อย แต่ไม่ควรให้อาหารที่มีเกลือเยอะๆ หรืออาหารที่เปรี้ยวเกินไป อย่างมะนาว มะเขือเทศเปรี้ยวๆ หรือผลไม้ตระกูลซิตรัส

สำหรับเกษตรกรบางรายใช้วิธีรับซื้อหอยทากจากชาวบ้านควบคู่กับการเลี้ยง ซึ่งหอยทากที่รับซื้อจากชาวบ้านต้องนำมาทำความสะอาดโดยให้กินกระดาษทิชชู่ในช่วงแรกเพื่อเป็นการดีทอกซ์ภายในให้หอยทากก่อนจะนำหอยทากเข้าสู่สถานที่เลี้ยงต่อไป

การเก็บเมื อกหอยทาก

การเก็บเมื อกหอยทากจะเลือกเก็บจากหอยที่มีอายุ 2 ปีขึ้นไป โดย 1 ตัว จะสามารถเก็บเมื อกได้ประมาณ 1-2 ซีซี ทั้งยังเลือกเก็บเมื อกที่ถูกเรียกว่า เมื อกความสุข ซึ่งจะออกมาในเวลากลางคืน และจะเก็บเฉพาะเมื อกที่ออกมาจากส่วน แมนเทิล หรือส่วนที่เป็นเนื้อเยื่อใต้เปลือก เพราะเป็นส่วนที่ดีที่สุด เนื่องจากเป็นเมื อกส่วนที่แทบจะไม่มีการปน เปื้อนใดๆ นอกจากนี้ในช่วงหน้าหนาวและหน้าฝนยังเป็นช่วงที่เก็บเมื อกได้เยอะที่สุดอีกด้วย

วิธีในการเก็บเมื อกเริ่มจากใช้น้ำพ่นบริเวณหลังคอหอยทาก ถ้าหากหอยทากหดเข้าไปในกระดองก็พ่นน้ำเข้าไปบริเวณปากกระดอง โดยแต่ละตัวใช้เวลาประมาณ 1 นาที เป็นวิธีเก็บเมื อกหอยทากตรมมาตรฐานสากลที่ใช้ทั่วไปในยุโรป และหอยทากยังมีชีวิตอยู่ได้ จากนั้นต้องนำเมื อกหอยทากที่ได้เข้าแช่แข็งในช่องฟรีชทันที

ในการเก็บเมื อกต้องใส่ถุงมือ สวมหมวกและหน้ากากเพื่อให้เมื อกที่ได้ไม่มีสิ่งเจือปน หอยทากที่เลี้ยงอย่างดีจะสามารถวางไข่ได้จำนวนมากและโอกาสรอดสูง โดยแต่ละครั้งหอยทากจะวางไข่ประมาณ 1,000 ฟอง และวางไข่ได้ทุกตัว ไม่นานหอยทากจะโตเต็มวัย ส่วนใหญ่เกษตรกรจะใช้วิธีรับซื้อหอยทากจากชาวบ้าน

โดยราคาการรับซื้อเมื อกหอยทากแบ่งเป็น 3 เกรด คือ เกรดเอ ราคา 15,000 บาท ต่อลิตร เกรดบี ลดหย่อนลงมาที่ 12,000 บาท และเกรดซี 9,000-10,000 บาท เกษตรกรบางรายลงทุนทำฟาร์มหอยทากด้วยงบลงทุน 40,000 บาท มีหอยทากประมาณ 3,000 ตัว สามารถเก็บเมื อกหอยทากส่งขายได้รวมกว่า 100,000 บาท

ในแต่ละเดือนหากหอยทากกินอุดมสมบูรณ์ หอยทากแต่ละตัวจะให้เมื อกเฉลี่ยคิดเป็นเงินตัวละ 10 บาท ในบางเดือนที่หอยทากให้เมื อกเต็มที่สร้างรายได้กว่า 30,000 บาทต่อเดือนได้เลยทีเดียว

สำหรับใครที่เริ่มจะสนใจการเลี้ยงหอยทากอย่างไรก็ควรจะไปศึกษาถึงวิธีในการเลี้ยงต่างๆอย่างละเอียดรวมไปถึงตลาดในการที่จะส่งเมื อกหอยทาากออกไป ซึ่งหากจับทาางได้มีตลาดรองรับก็ถือว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว

ที่มา : thaismescenter

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่