พัดลมที่หมุนช้า ไม่แรงไม่เย็น ซ่อมง่ายๆด้วยตัวเอง
สำหรับบ้ า นไหนที่มักจะเจอกับปัญหาของพัดลม ที่เป็นตัวช่วยในการให้ความเย็นในบ้ า น พัดลมเสียมีใบพัดที่ไม่หมุน หรือมีการหมุนช้ากว่าปกติ ซึ่งโดยส่วนมากแล้วมักจะเกิดจาก ตัวคาปาซิเตอร์หรือที่บางคนเรียกว่าแคป มีอาการเสียหรือมีประสิทธิภาพการทำงานที่น้อยลงไปจากเดิม โดยเจ้าตัวนี้จะเป็นอุปกรณ์ที่อยู่ด้านในของพัดลมปกติทั่วไป
พัดลมเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทุกบ้ า นมีกันอยู่แล้ว ให้ลมความเย็น ระบายอากาศ หากพัดลมไม่ทำงาน สาเหตุหลักๆก็จะมีอยู่ 2 ข้อ นั่นก็คือตัวมอเตอร์เสียกับตัวแคปเสีย และซึ่งปัญหาเหล่านี้เราสามารถแก้ไขได้เอง ลงมือซ่อมเองได้อย่างง่ายๆโดยไม่ต้องไปถึงมือช่างแต่อย่างใดให้เสียเงินทองจำนวนมาก เพราะขั้นตอนการทำ การซ่อมเองนั้นง่ายมากๆ แต่ต้องอาศัยอุปกรณ์นิดหน่อยเท่านั้น เราตามมาดูอุปกรณ์ที่จะต้องเตรียมและลงมือในการซ่อมพัดลมด้วยตัวเองได้ง่ายด้านล่างนี้กันเลย
สิ่งที่ต้องเตรียม
1 ไขควง
2 หัวแร้ง
3 ตะกั่วบัด กรี
4 คีมตัด
5 คาปาซิเตอร์
ขั้นตอนวิธีทำ
1 พัดลมที่หมุนช้าไม่หมุน ให้เราเริ่มต้นจากการแกะพัดลมออกโดยให้ใช้ไขควงขันน๊อตที่ติดอยู่ออกมาแล้วทำการแกะออก โดยตัวคาปาซิเตอร์หรือตัวแคปนั้นจะอยู่ที่ฐานพื้นของพัดลมหรือบริเวณด้านหลัง
2 ถอดตัวแคปออกมาโดย ไปบัด กรี ก่อนที่เราจะทำการถอดสังเกตก่อนว่าสายขั้วด้านซ้ายกับด้านขวามีการต่อเชื่อมกันเอาไว้อย่างไร หรือถ่ายรูปเอาไว้เพื่อที่จะตอนประกอบจะได้กลับมาต่อได้อย่างถูกต้อง ไม่ต่อผิดขั้ว
3 วิธีการเช็คว่าตัวคาปาซิเตอร์หรือตัวแคปเสีย โดยจะใช้เป็นเครื่องวัดไฟ โดยค่าปกติแล้วจะอยู่ที่ 1.5 uf
4 ถ้าได้ทำการใช้เครื่องวัดไฟวัดเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก็มาถึงขั้นตอนในการใส่ตัวคาปาซิเตอร์ใหม่เข้าไปแทนที่ โดยให้ใช้บัด กรีเชื่อมเข้ากับสายเดิมที่ถอดออกไปทั้งสองข้าง จากนั้นให้ทำการประกอบฝาฐานพัดลมเข้าที่เดิมก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ด้วยขั้นตอนง่ายๆสำหรับการซ่อมพัดลมนี้ วิธีการซ่อมสำหรับตัวคาปาซิเตอร์หรือตัวแคปเสียเราสามารถซ่อมได้เองโดยที่ไม่ต้องยกพัดลมไปที่ร้านซ่อม แล้วสำหรับตัวคาปาซิเตอร์นี้หาซื้อได้ตามร้านอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปมีราคาที่ไม่แพง แต่ก่อนที่จะซื้อนั้นให้ลองตรวจเช็คให้ดี ก่อนว่าตัวเก่ามีค่าไฟฟ้าอยู่ที่เท่าไหร่จะได้ซื้อตัวใหม่มาเปลี่ยนให้ตรงกันได้
ในทุกๆขั้นตอนของการซ่อมพัดลมหรือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ นั้นจะต้องถอดปลั๊กพัดลมออกก่อน เพื่อความปลอด ภัยของตัวคุณเอง ลองนำวิธีนี้ไปทำตามกันดูได้ เป็นวิธีการซ่อมที่ง่ายๆ จะช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าค่าซ่อมไปได้มากเลยล่ะ
ขอขอบคุณที่มา krustory