พบเด็ก 5 ขวบ “ป่วยเป็นโรคมะเร็ง” แพทย์ได้ออกมาเตือน “9 สิ่งต่อไปนี้ เด็กไม่ควรกิน”

0

พบเด็ก 5 ขวบ “ป่วยเป็นโรคมะเร็ง” แพทย์ได้ออกมาเตือน “9 สิ่งต่อไปนี้ เด็กไม่ควรกิน”

เมื่อไม่นานมานี้ สำนักข่าวในไต้หวัน ได้เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจ เมื่อแพทย์ได้ทำการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งรายหนึ่งที่มีอายุเพียงแค่ 5 ขวบเท่านั้น นับได้ว่าอายุน้อยที่สุดเท่าที่เคยทำการรักษามา

โดยแพทย์เผยว่า เด็กมีโอกาสเป็นมะเร็งตับได้มากกว่าผู้ใหญ่ และในปีที่ผ่านมาพบว่าเด็กมีแนวโน้มป่วยเป็นโรคมะเร็งตับมากขึ้น

นายแพทย์ Hong Zhi-sheng แพทย์ประจำโรงพยาบาล Cathay General Hospital ได้ออกมาเผยว่า จากประวัติการรักษาที่ผ่านมา พบผู้ป่วยโรคมะเร็ง ที่มีอายุได้เพียงแค่ 5 ขวบ โดยแม่ของเด็กกล่าวว่าครอบครัวไม่มีประวัติเป็นโรคมะเร็งเลยสักคน

คลิปข่าว

จากข้อมูลในข่าวเผยว่าเด็กมีพฤติกรรมชอบกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป แฮม และน้ำอัดลมตั้งแต่เด็ก แพทย์จึงได้ออกมาเตือนว่า สาเหตุที่ทำให้เด็กป่วยเป็นโรคมะเร็ง น่าจะมาจากการกินของเหล่านี้

1. บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

ในบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป 1 ชาม มีสารปรุงแต่งกว่า 25 ชนิด เช่น โมโนโซเดียม กลูตาเมต (หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ผงชูรส) , กรดซิตริก ,TBHQ (เป็นสารกันบูด หรือวัตถุกันหืนที่ได้จากปิโตเลียม) และอื่นๆ
ฉะนั้นเด็กที่ทานบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นประจำ อาจจะก่อให้เกิดภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ

2. แฮม ไส้กรอก

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น โซเดียมไนไตรด์ ,โปแตสเซียมไนไตรท์ และอื่นๆ
ไนไทรต์สามารถทำปฎิกิริยากับเอมีน (amine) ในอาหารกลายเป็นสารก่อมะเร็งที่ร้ายแรง คือไนโตรซามีน (nitrosamine) ซึ่งทำให้เกิดมะเร็งตับ กระเพาะอาหาร และหลอดอาหาร

3. คุกกี้

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่ง ได้แก่ โซเดียมเมแทไบซัลไฟต์ ,กรดซิตริก ,ซอร์บิทอล
ถ้าใช้ในปริมาณที่เกินกำหนด จะมีสารกำมะถันตกค้างในอาหารในปริมาณสูงและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคถึงแก่ชีวิตได้

4. ไอศกรีม

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่ง ได้แก่ สารแต่งรส กลิ่น สี ,ไดอิธิลกลูคอล และอื่นๆ
ซึ่งสารปรุงแต่งในไอศกรีมนี้เป็นอันตรายต่อร่างกาย ซึ่งบางประเทศออกกฎห้ามใช้สีมาผสมปรุงแต่งลงในอาหาร

5. มันฝรั่งทอดแผ่น

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น โมโนโซเดียม กลูตาเมต (หรือที่เราคุ้นเคยกันในชื่อ ผงชูรส),ไดโซเดียม 5-กัวไนเลต และอื่นๆ ซึ่งสารเหล่านี้เป็นสารต้องห้ามในอาหารสำหรับทารกและเด็กเล็ก

6. ผลไม้อบแห้ง

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น กรดซิตริก,โพแทสเซียม ซอร์เบต,โซเดียมเบนโซเอต และอื่นๆ
“โซเดียมเบนโซเอต” เป็นวัตถุเจือปนอาหารเพื่อยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย และเชื้อราบางชนิด หากใช้ในปริมาณที่สูงจะทำให้ระคายเคืองต่อกระเพาะอาหาร พิษกึ่งเฉียบพลันคือจะทำให้น้ำหนักลด ท้องเสีย ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อต่างๆเลือดออกในร่างกาย ตับ ไตใหญ่ขึ้น เป็นอัมพาตและตายในที่สุด

7. หมากฝรั่ง

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น สารให้ความหวาน,ซอร์บิทอล,กรดซิตริก และอื่นๆ
การกินอาหารที่มีซอร์บิทอลมากๆ ทำให้เกิดอาการท้องเสียและท้องอืด

8. ขนมเยลลี่และวุ้นสำเร็จรูป

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น โพแทสเซียม ซอร์เบต,กรดซิตริก,คาร์ราจีแนน และอื่นๆ
ถ้าเคยปวดท้อง ท้องไส้ปั่นป่วนเพราะอาหารการกิน อาจมีที่มาจากหลายสาเหตุ อาทิ อาการไวต่อกลูเต็น ซึ่งเป็นโปรตีนในธัญพืชอย่างข้าวสาลี ดื่มนมแล้วท้องเสีย เนื่องจากร่างกายขาดเอนไซม์ย่อยน้ำตาลแลคโทส หรือบางที กระเพาะอาหารของคุณอาจไวต่อคาร์ราจีแนน

9. ชานม

มีส่วนประกอบของสารปรุงแต่งต่างๆ เช่น โพแทสเซียม ซอร์เบต,โซเดียมเฮกซะเมต้าฟอสเฟส และอื่นๆ
ในใบชามีสารออกซาเลทจำนวนมาก ดังนั้นหากเราดื่มชานมทุกวัน โอกาสที่สารออกซาเลทจะสะสมจนก่ออาการอุดตันในไต หรือทำให้เกิดโรคนิ่วในไตก็อาจเกิดขึ้นได้

ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด เพราะแต่ละคนมีภูมิต้านทานที่ต่างกันซึ่งหากร่างกายได้รับสิ่งกระตุ้นหรือบางครั้งที่เราเรียกว่าสารก่อมะเร็ง ในปริมาณที่น้อยแต่ได้รับติดต่อกันเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อและกลไกการควบคุมต่างๆภายในร่างกายจนก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้

ซึ่งปัจจัยบางอย่างที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขได้ แต่เราสามารถเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกายได้โดยการปฏิบัติตนให้มีสุขอนามัยที่ดีโดยการรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่

อาหาร ขนม และเครื่องดื่มทุกชนิดต่างมีทั้งคุณและโทษด้วยกันทั้งสิ้น เพื่อสุขภาพที่ดีแล้วควรเดินทางสายกลาง กินอย่างพอเหมาะพอประมาณดีว่านะคะ ส่วนเด็กและก็พยายามอย่าให้กินอาหารเหล่านี้มากจนเกินไป ควรฝึกให้พวกเขาเลือกกินผักและผลไม้จะดีกว่าค่ะ

อ้างอิง : liekr

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่