ยืมเงินลูก 5 พัน แต่เขียนสัญญา 5 แสน ผ่านไปไม่นานจึงได้รู้
สำหรับเรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่นำมาฝากทุกคนอีกครั้ง เกี่ยวกับความสัมพันธ์และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำระหว่างคนคนหนึ่งในครอบครัว เมื่อถึงเวลาจำเป็นก็ควรที่จะดูแลซึ่งกันและกัน
สำหรับใครที่เลื่อนผ่านมาเจอกับบทความนี้เชื่อว่าเมื่ออ่านและทำความเข้าใจแล้วจะทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นอย่างแน่นอน
โดยเรื่องราวในวันนี้เป็นเรื่องราวจากครอบครัวของป้าคนหนึ่งที่ได้อาศัยในหมู่บ้าน แห่งหนึ่ง ดูครอบครัวของป้านั้นประกอบไปด้วยลูกชาย 2 คนและลูกสาวอีก 1 คน มีเพียงแต่ลูกสาวของป้าคนเดียวเท่านั้นที่พึ่งพาได้ แต่ไม่นานมานี้ลูกสาวก็ได้ออกเหย้าออกเรือนแต่งงาน ทำได้แค่แวะมาหาบ้างเป็นครั้งคราวเท่านั้น
จนเมื่อระยะเวลาผ่านไป ป้าอายุเริ่มมากขึ้น ร่างกายก็เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ แต่ลูกชายทั้งสองคนก็ไม่ยอมมาดูแล เมื่อลูกสาวรู้เข้าก็ปรึกษากับลูกเขยถึงความกังวลและไม่ต้องการปล่อยแม่ให้อยู่ตัวคนเดียว พี่ชายทั้งสองก็ไม่ยอมมาดูแลจึงต้องการที่จะมาอยู่ดูแลแม่ที่บ้าน ลูกเขยก็เข้าใจและสนับสนุนให้ภรรยากลับไปดูแลแม่ส่วนตัวเองจะจัดการเรื่องทางนี้เอง
เมื่อลูกสาวกลับบ้านไปก็ดูแลแม่อย่างเต็มใจ แต่เมื่อแม่ไม่สบายต้องไปพบหมอ มความจะเป็นต้องใช้เงิน เมื่อไปขอกับพี่ชายทั้งสองคน ก็โดนตอบกลับมาว่า ไม่มีเงิน หรือไม่ก็บอกให้กลับมาบ้านมาก่อน ถ้าหากมีเงินจะส่งมาให้ แต่ก็ไม่เคยได้เงินซักที
ลูกสาวและลูกเขยไม่ได้มีฐานะร่ำรวย แต่เมื่อลูกสาวปรึกษากับสามี เขาก็เอาของที่บ้านไปขายเพื่อส่งเงินมาให้ภรรยาไปรักษาแม่ จำนวน 5000 บาท เมื่อแม่ทราบเรื่องก็ไม่ต้องการที่จะรับเงินลูกเพราะไม่ต้องการเป็นภาระให้ลูกต้องลำบาก แต่ลูกสาวก็ไม่ยอมต้องการใช้เงินจำนวนนี้เพื่อรักษาแม่ให้หาย แม่จึงได้ยืนกรานบอกให้ทำสัญญามีลายเซ็นต์และปั้มลายนิ้วมือเรียบร้อย
และเมื่อลูกสาวได้อ่านสัญญาพบว่าจำนวนเงินจาก 5000 ถูกแม่เขียนเป็น 500000 แต่แม่ก็ยังยืนยันว่าเขียนถูกแล้วและให้ลูกสาวเก็บสัญญานี้ไว้กับตัวให้ดี
เมื่อเวลาผ่านไปไม่นานแม่ก็จากไป ลูกชายสองคนนำบ้านของแม่ไปขาย ได้เงินมาจำนวน 750000 และเตรียมที่จะแบ่งเงินกันสองคนเท่านั้น แต่ระหว่างนั้นผู้ใหญ่บ้านก็ได้พาลูกสาวของป้ามาหาลูกชายทั้งสองและบอกว่าตอนที่ป้ายังอยู่นั้นได้ฝากเรื่องไว้กับผู้ใหญ่บ้านให้ช่วยจัดการดูแล โดยให้แบ่งสมบัติให้กับลูกสาวด้วย
แต่ลูกชายทั้งสองบอกว่าลูกสาวแต่งงานออกไปแล้วก็เหมือนกับน้ำที่สาดออกไปตามธรรมเนียมแล้วสมบัติต้องเป็นของลูกชาย และลูกชายทั้งสองก็กลัวว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น ดังนั้นก่อนที่แม่จะจากไปก็เลยให้แม่เขียนไว้อย่างชัดเจนว่าให้ยกบ้านให้ลูกชายทั้งสองคน ในตอนนั้นผู้ใหญ่บ้านก็อยู่ด้วย
ผู้ใหญ่บ้านจึงได้ตอบกลับไปว่าเรื่องนั้นก็ทราบแต่ด้านหลังของหนังสือฉบับนั้นก็มีเขียนไว้อยู่ว่า หลังจากแม่ไม่อยู่แล้วหนี้สินทั้งหมดก็เป็นลูกชายสองคนที่ต้องช่วยชดใช้ให้ ลูกชายทั้งสองก็ยอมรับในเรื่องนี้เพราะคิดว่าแม่คงติดเงินร้านค้าจำนวนไม่เท่าไหร่
และในตอนนั้นเองผู้ใหญ่บ้านก็ให้ลูกสาวหยิบสัญญาออกมา แล้วบอกว่าแม่ติดเงินลูกสาวอยู่ 500000 และเงินนี้พวกลูกชายต้องเป็นคนชดใช้ ถ้าไม่ยอมก็ให้ไปฟ้องร้องเอา ลูกชายสองคนลังเลอยู่หลายวัน ก่อนจะส่งเงิน 500000 ให้ลูกสาว หลังเรื่องนี้จบลงชาวบ้านต่างก็ชื่นชมทั้งลูกสาวที่กตัญญู ป้าที่ฉลาด และผู้ใหญ่บ้านที่ยุติธรรม
ภาพ / เขียน / เรียบเรียงส่วนหนึ่งโดย : Postsod
ขอขอบคุณ : กรุ๊ปไลน์บอกข่าว