เพิ่งเคยรู้ ประโยชน์ของการนอนก่อน 4 ทุ่ม มีดีมาก
เมื่อตอนยังเล็กเราถูกสอนให้นอนเร็ว แต่เมื่อโตขึ้นมาแล้วการนอนเร็วดูจะเป็นอะไรที่ห่างไกลกันเหลือเกิน และยิ่งมีเทคโนโลยีต่างๆเข้ามา มีหนังหรือซีรีย์ให้ดูก็เพลินจนเกือบเช้า หรือบางคนก็ต้องทำงานหามรุ่งหามค่ำ เร่งทำงานให้ทันส่งตามกำหนด หรือจะเป็นช่วงวัยเรียนบางทีก็ต้องมาเร่งอ่านหนังสือจนโต้รุ่งก็มี
เราทุกคนก็คงทราบกันอยู่แล้วว่าการนอนเร็ว และนอนให้เพียงพอนั้นมีประโยชน์ต่อร่างกายเรามากขนาดไหน แต่หากใครยังไม่ทราบวันนี้เรามีประโยชน์ดีๆจากการนอนก่อน 4 ทุ่มมาให้ทุกคนได้ทราบกัน ไม่แน่ว่าหากรู้ถึงประโยชน์นี้แล้วอาจจะหันมาเปลี่ยนพฤติกรรมก็ได้
โดย นพ.กฤษดา ผู้อำนวยการศูนย์เวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติกัน เล่าให้ฟังถึงข้อที่ไม่ดีของการนอนดึกว่า ทำให้ 5 อวัยวะหลักเสื่อมเร็วขึ้น ทั้ง สมอง หัวใจ หลอดโลหิต ต่อมไร้ท่อ และภูมิคุ้มกันร่างกาย แต่ถ้าปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตมาเป็นคนนอนเร็วขึ้น ตั้งแต่ 4 ทุ่มเป็นต้นไปจนถึงก่อนเที่ยงคืน ซึ่งเป็นนาทีทอง ก็จะช่วยให้ร่างกายดีขึ้นถึง 10 ประการ แบบนี้เลย
1 ข้อแรกเลยคือช่วยป้องกันแก่ การนอนก็ช่วยเสริมสร้างความหนุ่มสาวและป้องกันความเสื่อมชราที่มาหาได้จากพลังการต้าน อนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสนิมแก่ที่เกิดในร่างกายตามธรรมชาติในทุกลมหายใจ แต่การได้นอนจะช่วยให้สนิมแก่ทั้งหลายไม่ฮึกเหิมกับร่างกายก่อนวัยอันควร การชวนกันนอนไวตั้งแต่หัวค่ำช่วยทำให้นาฬิกาแก่ไม่เดินเร็วไป
2 สมองสร้างความสุข สมองเป็นหัวเรือใหญ่ในการแจกงานให้อวัยวะต่างๆ ไม่เว้นแม้เวลานอนที่ถือเป็นเวลาแจกรางวัลให้ร่างกายโดยมอบ เมลาโทนิน และ ซีโรโทนิน อีกทั้งยังมอบสิ่งที่ช่วยบำรุงต่างๆออกมาคุมระบบในตัวเราให้ทำงานราบรื่นพร้อมตื่นมาอย่างสดชื่น แถมยังช่วยเป็นเกราะ ป้องกันป่วยได้ด้วย โดยสถาบันการนอนหลับแห่งชาติชี้ว่าการนอนหลับมีผลมหาศาลต่อคุณภาพชีวิตของเรา
3 ไม่เสี่ยงโรคกำเริบ โรคเก่าที่อาจกำเริบได้ในมนุษย์นอนดึกก็คือ โรคหัวใจ โรคหลอดโลหิตสมอง ความดันสูง ภูมิแพ้ แลอีกมากมาย การนอนดึกทำให้ร่างกายเหนื่อยเพิ่มขึ้น โดยใช่เหตุ คิดง่าย ๆ ว่าเหมือนกับเครื่องยนตร์ต้องทำงานเกินเวลาก็จะพาให้โรคที่พกอยู่ตามอวัยวะต่างๆพากันแผลงฤทธิ์ขึ้น
4 สร้างความหนุ่มสาว มาจากการนอนหลับอย่างมีคุณภาพคือ หลับไวและหลับสนิทโดยความหนุ่มสาวที่ว่าคือโกร๊ทฮอร์ โมนที่จะค่อยลดลงตามวัยและการนอนดึก แต่ถ้าท่านได้นอนเร็วสักราว 4 ทุ่ม จะทำให้สมองเต็มที่กับการเป็นโรงงานชั้นดีที่ผลิตโกร๊ทฮอร์ โมนธรรมชาติให้ท่านได้
5 ไม่เสี่ยงอ้วน ชวนให้ไม่เสี่ยงสร้างพุงเกิดโรคอ้วนลงพุง เพราะการนอนเร็วช่วยสกัดอาการหิวดึกและกินดุที่จะตามมา นอกจากนั้นยังมีกลไกดับหิวด้วยการสร้างเคมีดับหิวขึ้นมา ทำให้การนอนเร็วช่วยคุมน้ำหนักตัวได้ดีกว่า เพราะกระตุ้นการเ ผาผลาญในร่างกายให้ทำงานได้ดี ช่วยให้ไม่อ้วนง่าย ไม่สร้างเคมีเก็บไขมันมาก
6 ความจำดีขึ้นมากๆ การศึกษาจากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน หรือAPA ชี้ว่าคนที่นอนน้อยราว 4 ชั่วโมงต่อคืนติดกัน มีผลต่อความจำ สมาธิ ด้วยกลไกขณะนอนช่วยจัดระเบียบสมองคล้ายอีเมล์ที่แยกเมล์ขยะออกไป ให้สังเกตว่าเวลาอดนอนจะมีอาการมึน ความจำมัว ลืมง่าย หรือไม่ก็ลิ้นพันกันเพราะคิดอย่างแต่กลับพูดอีกอย่าง ดังนั้นการได้นอนเต็มอิ่มมีส่วนช่วยให้สมองได้เติมพลังชาร์จแบตพร้อมรับความจำใหม่ๆได้ดีขึ้น
7 ได้ล้างสิ่งไม่ดีในร่างกาย ขณะนอนหลับช่วยปรับให้อวัยวะช่วยล้างสิ่งไม่ดีออกไปทำงานได้ดีขึ้น อย่างตับ ไต และ ลำใส้ ซึ่งสังเกตได้ว่าคนที่อดนอนอาจมีปัญหาท้องผูก หน้าตาหม่นหมอง ดูไม่สดชื่น
8 ร่างกายได้ซ่อมแซม ตัวเราที่สู้ชีวิตในโลกกว้างมาทั้งวันมีนาทีสำคัญที่จะช่วยฟิตเครื่องยนต์ก็คือตอนนอน สมองได้พักผ่อน กล้ามเนื้อได้คลายตัว หัวใจสงบขึ้น ความดันลด การเข้าอู่นอนก็เหมือนเข้าอู่ซ่อมร่างกายที่สึกหรอไปจากงานหนักทั้งวัน ยิ่งได้นอนเร็วก็เท่ากับได้ตักตวงกำไรสำคัญที่จะทำให้ท่านมีร่างกายดี คนที่นอนเร็วจะไม่เสี่ยงเจ็บป่วยง่ายจากร่างกายเกินซ่อมด้วย
9 มีความสุขง่าย น่าลองอยู่ไม่น้อยว่าดัชนีความสุขของชาติเราอาจสูงขึ้นถ้าเพียงลองนอนให้เร็วขึ้น เพราะเมื่อนอนเร็วก็จะมีโอกาสนอนได้เต็มอิ่มและพอกับร่างกายมากกว่า ทำให้บรรดารางวัลที่ร่างกายสร้างขณะหลับนั้นเราได้รับอย่างเต็มที่ ซึ่งตรงข้ามกับเมื่ออดนอนที่นำไปสู่ความอึมครึมของสมอง ไม่มีสมาธิ ความจำไม่ดี หงุดหงิด ความอดทนน้อยลงและอารมณ์เสียง่ายโดยไม่ทราบสาเหตุ
10 คุมความดันโลหิต เพราะในขณะนอนหลับเร็วภายในร่างกายจะเหมือนมีคนแคระมากมายช่วยกันทำงานที่ซับซ้อนอย่างคุมหัวใจและความดันโลหิตให้สงบลงไม่แกว่งขึ้นลงง่ายเหมือนกับตอนตื่น ซึ่งคนแคระที่ว่าคือระบบประสาทอัตโนมัติทั้งหลายและกลไกทางชีววิทยาที่เป็นดั่งฟันเฟืองขนาดจิ๋วทั้งหลาย
ถึงแม้จะดูเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ยากแต่หากเราได้ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมหันมานอนให้เร็วขึ้นและตื่นให้เช้าขึ้น รับรองว่าเราจะมีเวลาได้ไปทำสิ่งต่างๆได้อีกมากขึ้นและแน่นอนว่าร่างกายของเราก็จะดีตามไปด้วย
ขอขอบคุณ : chaoprayanews