เก็บเอาไปทำเลย 14 สูตรน้ำชง ครบทุกอย่าง ทำขายเปิดร้านได้เลย

0

เก็บเอาไปทำเลย 14 สูตรน้ำชง ครบทุกอย่าง ทำขายเปิดร้านได้เลย

มาแล้วค่ะกลับมาพบกันอีกครั้ง สำหรับในวันนี้หากใครหลายคนกำลังมองหาอาชีพที่จะเอาไว้ทำกิน แล้วยังคิดอะไรไม่ออก หรือใครกำลังมองหาอาชีพเพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ แน่นอนว่าเราขอนำเสนออาชีพการขายน้ำ

ด้วยสภาพอากาศที่ร้อนอย่างบ้านเรา การขายน้ำขายเครื่องดื่ม ที่เป็นเครื่องดื่มแบบชง สามารถนำมาทำขาย สร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับครัวเรือนของเราได้อย่างแน่นอน

และในวันนี้เรามี 14 สูตรสำหรับการทำเครื่องดื่มแบบชง มาฝากให้เพื่อนๆชาวเว็บได้ทำความเข้าใจและสามารถนำสูตรนี้ไปใช้ในการทำมาหากินได้ ทำกินก็ได้ทำขายก็รวย นำไปต่อยอดทำธุรกิจอื่นได้มากมาย ใครสนใจก็สามารถเซฟข้อมูลเก็บเอาไว้ได้เลย

สูตรที่ 1 กาแฟเย็น

1 เริ่มต้นด้วยการนำน้ำสะอาดประมาณ 10 ลิตร นำมาใส่หม้อแล้วก็ตั้งไฟ เราจะใช้ไฟในระดับแปลง แนะนำว่าให้ใช้หม้อประมาณเบอร์ 32 ขึ้นไปกำลังดี

2 หลังจากนั้นก็ให้เราทีผงกาแฟ แนะนำว่าเป็นตามังกร จะเอาประมาณครึ่งถุง หรือถ้ามีที่ชั่งตวงก็ใส่ลงไป 200 กรัม เทใส่ลงในถุงชาแล้วก็นำไปแช่ทิ้งเอาไว้ในหม้อน้ำ รอจนกระทั่งน้ำเริ่มเดือด

3 แล้วก็เทผงกาแฟชนิดถุงสำเร็จเนสกาแฟ โรงแรมว่าประมาณครึ่งถุง หรือกับปริมาณ 100 กรัม แล้วก็คนให้เข้ากันให้เข้ากับกาแฟดำ

4 หลังจากนั้นก็นำถุงชาออกแล้วใส่น้ำตาลทรายขาวประมาณ 1.5 กิโลกรัม คนให้เข้ากันให้ตัวน้ำตาลทรายละลายเข้ากันดีกับน้ำ

5 แล้วก็ใส่ครีมเทียมข้นหวานอย่างดีและครีมเทียมพร่องมันเนยอย่างละ 1 กระป๋องลงไป คนให้เข้ากันจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

6 รอให้น้ำเดือดแล้วก็ใส่ครีมเทียมชนิดผงคอฟฟี่เมตลงไป 500 กรัม หรือปริมาณครึ่งถุง แล้วก็คนให้เข้ากันดีพยายามอย่าให้เป็นก้อน

7 เมื่อน้ำเดือดในที่ก็ค่อยๆใช้ช้อนตักฟองออกให้หมด แล้วก็ยกมาพักเอาไว้ให้เย็นกรอกใส่ขวดหรือภาชนะที่เราเตรียมเอาไว้ได้

ปล. ฟองที่ลอยอยู่ ถ้าเราไม่ช้อนออกจะทำให้น้ำชงของเราบูดได้เร็วขึ้น

สูตรที่ 2 ชานมเย็น

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 เทผงชาดำตรามือกะประมาณ 1/3 ของถุงลงในถุงชงชา แล้วนำลงไปแช่ทิ้งไว้ในหม้อน้ำแล้วทิ้งไว้จนน้ำเริ่มร้อน

3 นำถุงชงชาออกแล้วใส่น้ำตาลทรายขาว 1.5 กิโลกรัม แล้วคนจนน้ำตาลละลายเข้ากับน้ำ

4 ใส่ครีมเทียมข้นหวานและครีมเทียมพร่องมันเนยอย่างละ 1 กระป๋องแล้วคนจนละลายให้เข้ากัน

5 รอจนน้ำเริ่มเดือดแล้วใส่ครีมเทียมชนิดผง (คอฟฟี่เมท) ลงไป 500 กรัม หรือครึ่งถุงแล้วคนให้ละลายเข้ากันอย่าให้เป็นก้อน

6 เมื่อน้ำเดือดได้ที่ให้ช้อนฟองทั้งหมดทิ้งก่อนจะยกลงมาเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 3 ชาเขียวนม

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 เทผงชาเขียวตรามือ กะประมาณ 3/4 ของถุง ลงในถุงชงชาแล้วนำลงไปแช่ทิ้งไว้ในหม้อน้ำแล้วทิ้งไว้จนน้ำเริ่มร้อน

3 นำถุงชงชาออกแล้วใส่น้ำตาลทรายขาว 1.5 กิโลกรัม แล้วคนจนน้ำตาลละลายเข้ากับน้ำ

4 ใส่ครีมเทียมข้นหวานและครีมเทียมพร่องมันเนยอย่างละ 1 กระป๋องแล้วคนจนละลายให้เข้ากัน

5 รอจนน้ำเริ่มเดือดแล้วใส่ครีมเทียมชนิดผง (คอฟฟี่เมท) ลงไป 500 กรัม หรือครึ่งถุง แล้วคนให้ละลายเข้ากันอย่าให้เป็นก้อน

6 เมื่อน้ำเดือดได้ที่ให้ช้อนฟองทั้งหมดทิ้งก่อนจะยกลงมาเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 4 นมเย็น

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 เทน้ำหวานเฮลล์บลูบอย1ขวดลงในหม้อน้ำแล้วทิ้งไว้จนน้ำเริ่มร้อน

3 นำถุงชงชาออกแล้วใส่น้ำตาลทรายขาว 1.5 กิโลกรัม แล้วคนจนน้ำตาลละลายเข้ากับน้ำ

4 ใส่ครีมเทียมข้นหวานและครีมเทียมพร่องมันเนยอย่างละ 1 กระป๋องแล้วคนจนละลายให้เข้ากัน

5 รอจนน้ำเริ่มเดือดแล้วใส่ครีมเทียมชนิดผง (คอฟฟี่เมท) ลงไป 500 กรัม หรือครึ่งถุง แล้วคนให้ละลายเข้ากันอย่าให้เป็นก้อน

6 เมื่อน้ำเดือดได้ที่ให้ช้อนฟองทั้งหมดทิ้งก่อนจะยกลงมาเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 5 นมสดเย็น

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 เทนมวัวสด1ลิตรลงในหม้อน้ำ คนให้เข้ากัน แล้วต้มทิ้งไว้จนน้ำนมเริ่มร้อน

3 นำถุงชงชาออกแล้วใส่น้ำตาลทรายขาว 1.5 กิโลกรัม แล้วคนจนน้ำตาลละลายเข้ากับน้ำ

4 ใส่ครีมเทียมข้นหวานและครีมเทียมพร่องมันเนยอย่างละ 1 กระป๋องแล้วคนจนละลายให้เข้ากัน

5 รอจนน้ำเริ่มเดือดแล้วใส่ครีมเทียมชนิดผง (คอฟฟี่เมท) ลงไป 500 กรัม หรือครึ่งถุง แล้วคนให้ละลายเข้ากันอย่าให้เป็นก้อน

6 เมื่อน้ำเดือดได้ที่ให้ช้อนฟองทั้งหมดทิ้งก่อนจะยกลงมาเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 6 โอเลี้ยง

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 เทผงกาแฟตรามังกร 1 ถุง ลงใน ถุงชงชา 2 อัน แบ่งเป็นอันละครึ่งถุง แล้วนำลงไปแช่ทิ้งไว้ในหม้อน้ำแล้วทิ้งไว้จนน้ำเริ่มร้อน

3 พอน้ำเริ่มเดือดและเริ่มมีคราบจับตามขอบหม้อแล้วให้นำถุงชงทั้งสองอันออก

4 ใส่น้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม แล้วคนให้น้ำตาลละลายเข้ากับน้ำ

5 ปิดฝาหม้อต้มต่ออีกประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงยกลงมาเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 7 ชาดำเย็น

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 เทผงชาดำปรุงสำเร็จตรามือครึ่งห่อลงในถุงชงชาแล้วนำลงไปแช่ทิ้งไว้ในหม้อน้ำแล้วทิ้งไว้จนน้ำเริ่มร้อน

3 หลังจากน้ำเริ่มร้อนได้ที่ให้นำถุงชงชาออก เพราะถ้าแช่ทิ้งไว้จนน้ำเดือดจะทำให้มีรสเฝื่อนจากใบชา

4 ใส่น้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม แล้วคนให้น้ำตาลละลายเข้ากับน้ำ

5 ปิดฝาหม้อต้มต่ออีกประมาณ 10-15 นาที แล้วจึงยกลงมาเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 8 น้ำเก๊กฮวย

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 นำใบเตยหอมใส่ลงไปในหม้อ 1 กำ บิดพอประมาณก่อนใส่เพื่อให้น้ำใบเตยออก (ห้ามใช้หนังยางรัดใบเตยนะครับ)

3 นำดอกเก๊กฮวยอบแห้งประมาณ 2-3 ขีดและเม็ดเก๊กฮวยประมาณ 2-3 เม็ดมาทุบรวมกัน (เม็ดถ้าใส่เยอะกว่านี้สีจะเข้มเกินไป)

4 นำดอกและเม็ดที่ทุบเสร็จแล้วมาห่อใส่ผ้าขาวแล้วเอาลงไปแช่ทิ้งไว้ในหม้อต้มน้ำใช้ไฟแรงด้วยนะครับ

5 พอน้ำเริ่มร้อนและเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทองแล้วจึงใส่น้ำตาลทรายขาวลงไป 2 กิโลกรัม ต่อน้ำสะอาด 12 ลิตร แล้วคนให้ละลายเข้ากับน้ำ

6 ปิดฝาหม้อต้มต่อจนเดือดได้ที่แล้วจึงยกลงมาเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 9 น้ำกระเจี๊ยบ

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 นำดอกกระเจี๊ยบ (แบบแห้งหรือสดก็ได้) ประมาณ 3 ขีดใส่ลงไปแช่ทิ้งไว้ในหม้อต้มน้ำไม่ต้องห่อผ้าขาวบางนะครับ

3 ใส่เกลือลงไปในหม้อต้มน้ำประมาณ 1-2 ช้อนโต๊ะ เพื่อไปช่วยเร่งความเปรี้ยวของดอกกระเจี๊ยบ

4 เมื่อน้ำเริ่มร้อนและเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอมม่วงแล้วจึงใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป 2 กิโลกรัม แล้วคนให้ละลายเข้ากันกับน้ำ

5 ต้มต่อจนน้ำเดือดและคอยชิมดูเรื่อยๆ อย่าให้รสชาติหนักไปทางไหนทางหนึ่ง ให้ตัดเข้ากันครบ3รสคือ เปรี้ยว เค็ม หวาน

6 เมื่อชิมได้รสชาติที่พอใจแล้วให้กรองน้ำกับดอกกระเจี๊ยบแยกออกจากกันก่อนที่จะทำการกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ครับ

สูตรที่ 10 น้ำลำไย

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 นำใบเตยหอมใส่ลงไปในหม้อ 1 กำ บิดพอประมาณก่อนใส่เพื่อให้น้ำใบเตยออก (ห้ามใช้หนังยางรัดใบเตยนะครับ)

3 นำลำไยอบแห้งประมาณ 3 ขีดใส่ลงไปในหม้อต้มน้ำไม่ต้องห่อผ้านะครับเพราะเดี๋ยวเนื้อลำไยจะไม่ฟู

4 เมื่อน้ำเริ่มเดือดอ่อนๆ และเนื้อลำไยเริ่มฟูจนบานเต็มหม้อแล้ว จึงนำน้ำตาลทรายแดง 2 กิโลกรัม ใส่ลงไปแล้วคนให้ละลายเข้ากันกับน้ำ

5 ปิดฝาหม้อต้มต่อซัก 10-15 นาที จนน้ำเดือดได้ที่แล้ว จึงกรองแยกเนื้อลำไยกับน้ำลำไยออกจากกันก่อนครับ

6 เวลากรอกลงขวดก็ค่อยๆเฉลี่ยเนื้อใส่แต่ละขวดให้เท่าๆกัน (แนะนำให้ใส่เนื้อลงขวดไปก่อนครับเพราะจะได้เทออกง่าย)

สูตรที่ 11 น้ำมะตูม

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 นำใบเตยหอมใส่ลงไปในหม้อ 1 กำ บิดพอประมาณก่อนใส่เพื่อให้น้ำใบเตยออก (ห้ามใช้หนังยางรัดใบเตยนะครับ)

3 นำเนื้อมะตูมอบแห้ง 500 กรัม (ถ้าใส่น้อยกว่านี้จะไม่หอมกลิ่นมะตูมครับ) ใส่ลงไปในหม้อต้มน้ำ

4 เมื่อน้ำร้อนได้ที่จึงนำน้ำตาลทรายแดงใส่ลงไป 2 กิโลกรัม แล้วคนให้ละลายเข้ากันกับน้ำ

5 ปิดฝาหม้อต้มต่อซัก 10-15 นาที จนน้ำเดือดได้ที่แล้วจึงกรองแยกเนื้อมะตูมกับน้ำออกจากกันก่อนกรอกลงขวดครับ

สูตรที่ 12 น้ำเฉาก๊วย

1 เตรียมหั่นเนื้อเฉาก๊วย 2 กิโล (หั่นแบบเส้นหรือแบบก้อนก็ได้)

2 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

3 นำใบเตยหอมใส่ลงไปในหม้อ 1 กำ บิดพอประมาณก่อนใส่เพื่อให้น้ำใบเตยออก (ห้ามใช้หนังยางรัดใบเตยนะครับ)

4 เมื่อน้ำเริ่มร้อนจึงใส่น้ำตาลทรายแดงลงไป 2 กิโลกรัม แล้วคนให้ละลายเข้ากันกับน้ำ (ทำเหมือนการทำน้ำเชื่อม)

5 ปิดฝาต้มต่อจนเดือดได้ที่แล้วยกลงเตรียมกรอกลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้ แนะนำให้กรอกเนื้อเฉาก๊วยลงไปก่อนครับ

สูตรที่ 13 น้ำมะพร้าว

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 นำใบเตยหอมใส่ลงไปในหม้อ 1 กำ บิดพอประมาณก่อนใส่เพื่อให้น้ำใบเตยออก (ห้ามใช้หนังยางรัดใบเตยนะครับ)

3 ระหว่างรอน้ำเดือดก็เตรียมเฉาะกับคว้านเนื้อมะพร้าวรอได้เลยครับ ใช้ประมาณ 5 ลูก เพื่อเอากลิ่นน้ำมะพร้าวเท่านั้น (เนื้อที่เอาออกมาให้มาลอกคราบกะลาที่ติดออกมาด้วย เพราะถ้าเอาไปต้มจะทำให้น้ำเปลี่ยนสีขุ่นและไม่ใสน่ากิน)

4 เมื่อได้เนื้อกับน้ำมะพร้าวแล้วให้นำน้ำอุ่นประมาณ1ขวดน้ำใส (ประมาณครึ่งลิตร) ใส่รวมลงไปกับน้ำและเนื้อมะพร้าว

5 ใส่ถุงมือแล้วหยำๆและบีบๆเค้นเนื้อและน้ำเพื่อให้น้ำ สีและกลิ่นมะพร้าวออกมาเยอะๆ จะได้หอม จากนั้นก็นำไปเทรวมกับน้ำในหม้อต้ม

6 ใส่น้ำตาลทรายขาวลงไป 1.5-2 กิโลกรัม (ถ้าใช้วุ้นมะพร้าวให้ใส่น้ำตาลแค่ 1.5 กิโลกรัม อครับ) แล้วคนให้น้ำตาลละลายเข้ากันกับน้ำ (สามารถใช้วุ้นมะพร้าวสำเร็จรูปมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วกรอกรวมกันกับเนื้อมะพร้าวลงไปในขวด)

7 กรอกวุ้นและเนื้อมะพร้าวลงขวดหรือภาชนะที่เตรียมไว้แล้วจึงตามด้วยการกรอกน้ำลงไปทีหลังครับ

สูตรที่ 14 น้ำใบเตย

1 นำน้ำสะอาดประมาณ 10-12 ลิตร ใส่หม้อขึ้นตั้งไฟที่ค่อนข้างแรง (แนะนำให้ใช้หม้อเบอร์ 32 ขึ้นไปครับ)

2 นำใบเตยหอมใส่ลงไปในหม้อ 1 กำ บิดพอประมาณก่อนใส่เพื่อให้น้ำใบเตยออก (ห้ามใช้หนังยางรัดใบเตยนะครับ)

3 นำใบเตย 1/2 กำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆแล้วนำไปปั่นหยาบๆแล้วนำมาเทใส่ลงไปในหม้อต้มน้ำได้เลยครับ

4 เมื่อน้ำเริ่มร้อนแล้วจึงใส่น้ำตาลทรายขาวลงไป 2 กิโลกรัม แล้วคนจนน้ำตาลละลายเข้ากันกับน้ำ

5 ต้มต่อจนเดือดอ่อนๆแล้วยกลงไปกรองเอาเนื้อใบเตยปั่นที่ใส่ลงไปออกแล้วจึงไปกรอกลงขวดที่เตรียมไว้ได้เลยครับ (ท่านใดจะนำวุ้นมะพร้าวมาใสรวมลงไปด้วยก็ได้นะครับ เพิ่มความอร่อยได้อีก)

เมื่อทำเสร็จเรียบร้อยแล้วก็อย่าลืมเอาไว้ให้เย็น แล้วก็บรรจุในขวดพลาสติกหรือว่าภาชนะใดก็ได้ให้ปิดมิดชิด สามารถนำไปส่งขายได้สบายเลย

นอกจากเราจะสามารถบรรจุเป็นขวดได้แล้ว เรายังสามารถดัดแปลงให้เป็นเมนูสำหรับเป็นแก้วสำหรับเสิร์ฟในร้านอาหารร้านนั่งชิว หรือเป็นเมนูเสริมของร้านอาหารได้อีกด้วย

สำหรับใครที่กำลังจะเปิดเป็นธุรกิจของตัวเองเล็กๆ ก็ลองเอาสูตรและข้อมูลนี้ไปใช้กันดู เซฟ เก็บไว้อ่านได้เลย

เรียบเรียงโดย : Postsod

ขอขอบคุณ : สมาชิกหมายเลข 1763639

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่