13 สูตรมะนาวบรรเทาป่วย ช่วยให้ฟื้นตัวด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ

0

13 สูตรมะนาวบรรเทาป่วย ช่วยให้ฟื้นตัวด้วยสมุนไพรจากธรรมชาติ

ต่อไปนี้คือ คุณประโยชน์ที่ได้รับมาจากมะนาวมิได้มีดีเพียงแค่แต่งรสอาหารแล้วอร่อย แม้กระนั้นจะต้องพูดว่าคุณประโยชน์ของมะนาวสุดยอดมากกระทั่งช่วยทุเลาลักษณะของการป่วยบางอาการได้เลย

1. สูตรมะนาวแก้ท้องผูก

สำหรับผู้ที่มีลักษณะท้องผูกเป็นประจำถ่ายไม่ค่อยคล่องแคล่ว ทดลองให้มะนาวช่วยแก้ท้องผูกได้เลยจ้ะ โดยผสมน้ำกินกับน้ำมะนาวและก็เกลือ แล้วพอหลังจากนั้นก็ค่อยๆจิบไปเรื่อยมะนาวจะช่วยกระตุ้นให้ไส้ดำเนินงาน ส่วนเกลือก็จะช่วยซับน้ำไว้ไม่ให้ถูกร่างกายดูดซับไปหมด และก็ภายหลังกินน้ำมะนาวราว 10-20 นาที จะกำเนิดอาการถ่ายท้อง เมื่อถ่ายท้องเสร็จแล้วสามารถกินอาหารได้ตามธรรมดา

ดังนี้ควรจะกินน้ำมะนาวขั้นต่ำบ่อยๆอาทิตย์ละ 2 ครั้ง ซึ่งจะช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดียิ่งขึ้น รวมทั้งถ้าหากต้องการได้ผลลัพธ์ดีเยี่ยมๆควรจะดื่มหลังจากที่ตื่นนอนขึ้นมาแล้วทุกเช้าตรู่ จุดนี้ก็จะช่วยล้างพิษภายในร่างกายได้อีกทางด้วยจ้ะ

2. สูตรน้ำมะนาวแก้ไอ ขับเสลด

กรดในน้ำมะนาวจะช่วยกระตุ้นให้มีการขับน้ำลายออกมา ทำให้คอมีความชื้นมากยิ่งขึ้น โดยเหตุนี้ก็เลยช่วยลดอาการไอลงได้ ทั้งรสเปรี้ยวในน้ำมะนาวยังจะช่วยทำให้ร่างกายขับเสลดได้ง่ายมากยิ่งขึ้นด้วย โดยสูตรมะนาวแก้ไอขับเสลดให้คั้นน้ำมะนาว 1 ลูก เพิ่มเกลือบางส่วน หรือจะผสมน้ำผึ้ง 1 ส่วนต่อน้ำมะนาว 3 ส่วนก็ได้ คนจะกว่าจะเข้ากันดี แล้วจิบเสมอๆตราบจนกระทั่งอาการไอจะทุเลาลง

3. สูตรน้ำมะนาวแก้หวัด

น้ำขิงมะนาวช่วยคุ้มครองป้องกันโรคไข้หวัดได้ เนื่องจากคุณประโยชน์จากมะนาวที่มีวิตามินซีสูงช่วยลดการสั่งสมของเชื้อโรคในระบบฟุตบาทหายใจของพวกเรา รวมทั้งความเผ็ดร้อนของขิงที่จะช่วยทำให้ร่างกายขับเหงื่อออกมามากมาย­ขึ้น เป็นการทุเลาอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกายให้ลงลดลงถ้าหากจิบน้ำขิงมะนาวอุ่นๆเสมอๆแต่ละวันก็จะสามารถช่วยทำให้อาการหวัดดียิ่งขึ้นได้

ดังนี้สูตรน้ำมะนาวแก้หวัดให้ต้มขิงสด 1 แง่งกับน้ำ 1 ถ้วยตวง ต่อจากนั้นทิ้งเอาไว้ให้อุ่นๆแล้วจึงบีบน้ำมะนาว 1 ดวงตามลงไป คนจนเข้ากัน แล้วจิบเป็นชาขิงมะนาว

4. สูตรน้ำมะนาวทุเลาอาการท้องอืด ท้องอืดท้องเฟ้อ

น้ำมันหอมระเหยจากผิวเปลือกของมะนาวมีคุณประโยชน์เป็นยาขับลม ก็เลยมีส่วนช่วยทุเลาอาการท้องอืดท้องอืดให้ได้ โดยใช้เปลือกผลสด 1/2 ผล ฝานเป็นชิ้นเล็กๆบางๆชงด้วยน้ำเดือด แล้วปิดฝาทิ้งเอาไว้ 5-10 นาที แล้วกรองมัวแต่น้ำมาดื่มเมื่อมีลักษณะอาการ หรือแม้ท้องขึ้น ท้องอืดหนักมากมายให้ดื่มหลังรับประทานอาหาร 3 เวลา

5. สูตรน้ำมะนาวแก้อาการของกินไม่ย่อย

สำหรับคนใดที่ชอบมีลักษณะอาการของกินไม่ย่อยบ่อยๆ ชี้แนะให้ทดลองจิบน้ำขิงมะนาวในเช้าตรู่มอง โดยให้บีบมะนาวครึ่งผลลงในน้ำขิงอุ่น 1 แก้วกาแฟ เพราะว่าน้ำขิงมะนาวจะช่วยกระตุ้นให้ตับผลิตน้ำย่อยออกมามากเพิ่มขึ้น เวลาทานอาหารในมื้ออื่นๆพวกเราจะได้ไม่รู้จักสึกอึดอัดท้อง แล้วก็มีลักษณะอาการท้องขึ้นตามมานั่นเอง

6. สูตรมะนาวทุเลาอาการอาเจียน คลื่นไส้

มะนาวจัดคือผลไม้ในกรุ๊ปสิบอกซึ่งมีกลิ่นหอม สามารถช่วยทุเลาอาการเวียนหัวหัวได้ แล้วก็ถ้าขยี้เปลือกของมะนาวมาดมจะช่วยลดอาการอ้วก คลื่นไส้ เป็นลมเป็นแล้ง ได้ด้วยจ้ะ

7. สูตรน้ำมะนาวแก้ปวดศรีษะจากการอาการแฮงค์

มะนาวมีคุณประโยชน์กระตุ้นลักษณะการทำงานของตับ ช่วยทำให้ร่างกายขับแอลกอฮอล์ออกไปได้ดิบได้ดีขึ้น ทั้งเมื่อผสมกับสมุนไพรอย่างขิงที่ช่วยลดอาการอาเจียนอ้วก แล้วก็น้ำผึ้งซึ่งช่วยทำลายพิษแอลกอฮอล์ สูตรมะนาวน้ำผึ้งผสมขิงก็เลยเป็นกรุ๊ปของกินและก็เครื่องดื่มแก้แฮงค์ที่ช่วยทุเลาอาการเจริญสูตรหนึ่ง โดยแนวทางปรุงก็ง่ายๆจ้ะ เพียงแค่ผสมน้ำร้อนกับน้ำผึ้งเข้าด้วยกัน ใส่ขิงขูดลงไปคนผสมกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากัน พักทิ้งเอาไว้โดยประมาณ 20 นาที กระทั่งขิงถูกกันดีกับน้ำผึ้ง ต่อจากนั้นเพิ่มน้ำมะนาว คนผสมกันไปเรื่อยๆจนกว่าจะเข้ากัน ชูลงกรองผ่านที่กรองกะทิหรือที่กรองเอาเฉพาะน้ำ แล้วต่อจากนั้นเทน้ำขิงมะนาวใส่แก้วที่มีน้ำแข็งพอควร ชูดื่มทุเลาอาการได้เลย

8. สูตรน้ำมะนาวทุเลาอาการลักปิดลักเปิด หรืออาการเลือดออกตามไรฟัน

โรคลักปิดลักเปิด หรืออาการเลือดออกตามไรฟันมีต้นเหตุจากการขาดวิตามินซีเป็นส่วนมาก ด้วยเหตุผลดังกล่าวน้ำมะนาวที่มีจำนวนวิตามินซีอยู่สูงมากมาย ก็เลยช่วยทุเลาอาการเลือดออกตามไรฟันได้ โดยให้นำน้ำมะนาว 1 ถ้วยชา ผสมน้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ แล้วก็เกลืออีกน้อย ชงในน้ำอุ่นแล้วก็ใช้จิบเสมอๆเบาๆเพิ่มวิตามินซีให้ร่างกายหายจากอาการเลือดออกตามไรฟัน

9. สูตรน้ำมะนาวแก้อาการขี้กลาก โรคเกลื้อน หิด

สูตรน้ำมะนาวแก้ขี้กลาก โรคเกลื้อน แล้วก็หิด ให้นำน้ำมะนาวคั้นสด 1 ผลผสมกับกำมะถันกระทั่งมีลักษณะแป้งข้นๆทาผิวรอบๆที่เป็นให้ทั่ว ทำบ่อยเป็นประจำก่อนนอนจวบจนกระทั่งอาการขี้กลาก โรคเกลื้อน แล้วก็หิดจะหาย

10. สูตรน้ำมะนาวแก้น้ำกัดเท้า

มะนาวก็จัดเป็นสมุนไพรแก้น้ำกัดเท้า โดยสามารถนำน้ำมะนาวคั้นสดมาทาที่ตุ่มคันจากน้ำกัดเท้า ทิ้งเอาไว้กระทั่งแห้ง หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำรวมทั้งสบู่แล้วถูให้แห้งสนิท

11. สูตรน้ำมะนาวรักษาแผลในกระเพาะ

หากแม้มะนาวจะเป็นกรด แม้กระนั้นเมื่อมาผสมกับน้ำผึ้งแล้วจะมีฤทธิ์เป็นยารักษาแผลคุณภาพดีเลยล่ะจ้ะ ด้วยเหตุนั้นสูตรน้ำมะนาวรักษาแผลในกระเพาะก็เลยควรจะมีน้ำผึ้งเป็นส่วนประกอบด้วยโดยชงน้ำผึ้ง 1 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้วกาแฟ ต่อจากนั้นบีบน้ำมะนาวลงไปครึ่งด้าน คนจนเข้ากันดีดื่มให้ได้ทุกวี่วันอาการแผลในกระเพาะก็จะทุเลาลง

12. สูตรน้ำมะนาวทุเลาลักษณะของการปวด แล้วก็อาการอักเสบของกระดูก

โรคกระดูกพรุนได้ผลสำเร็จพวงหนึ่งจากการที่ร่างกายมีกรดมากเกินความจำเป็น ซึ่งการเสี่ยงนี้พวกเราสามารถปกป้องได้ โดยการคั้นน้ำมะนาวรวมทั้งดื่มบ่อยๆ เพราะว่าเมื่อมะนาวผสมกับน้ำกินแล้วมะนาวจะมีฤทธิ์เป็นด่าง หรือที่พวกเราเรียกว่า Alkaline Water ซึ่งจะช่วยสำหรับเพื่อการลดความเป็นกรดในเลือด ทั้งยังธาตุที่อยู่ในมะนาวยังช่วยปรับให้สมดุลความเป็นด่างให้แก่เลือด การกินน้ำมะนาวเสมอๆก็เลยช่วยลดความเป็นกรดภายในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดยูริก ซึ่งเป็นเลิศในมูลเหตุหลักของลักษณะของการปวดรวมทั้งการอักเสบนั่นเอง

13. สูตรมะนาวช่วยเลิกยาสูบ

วิตามินซีในมะนาวจะช่วยสำหรับในการเปลี่ยนรสของยาสูบให้ฝืดเฝื่อนฝาดน่าอี๊ กระทั่งกระเทือนไปถึงความต้องการดูดบุหรี่ของเหล่าคนที่ชอบสูบบุหรี่หนักมาก เพราะฉะนั้นมะนาวก็เลยเป็นสมุนไพรอย่างหนึ่งที่ช่วยให้เลิกยาสูบได้ ซึ่งแนวทางรับประทานมะนาวช่วยเลิกยาสูบก็แค่หั่นมะนาวทั้งยังเปลือกเป็นชิ้­นพอดิบพอดีคำ แล้วหลังจากนั้นต้องการดูดบุหรี่เวลาใดก็ถือมะนาวที่หั่นไว้มากินแทน บดเปลือกสัก3-5 นาที แล้วกินน้ำตาม สารในมะนาวจะช่วยลดความต้องการของนิโคตินลงได้ รวมทั้งถ้าอดรนทนไม่ได้คว้ายาสูบขึ้นมาจุดดูด วิตามินซีในมะนาวที่ทำปฏิกิริยากับต่อมรับรสของพวกเราแล้วหลังจากนั้นก็จะปฏิบัติหน้าที่แปลงรสยาสูบให้แย่มากกระทั่งเข็ดหลาบที่จะดูดไปสุดท้าย

มะนาวผลกลมๆเป็นประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมากมายเลยนะคะ แต่ว่าดังนี้การรักษาสุขภาพให้หายเร็วๆหรือแม้กระทั้งการคุ้มครองโรค คงหวังพึ่งแม้กระนั้นคุณประโยชน์ของมะนาวมิได้ แต่ทว่าก็จะต้องช่วยเหลือตัวเองด้วยการเข้ารับการดูแลและรักษาที่ถูกโดยหมอ รวมถึงแนวทางปกป้องความป่วยด้วยการบริหารร่างกาย ทานอาหารที่มีสาระ รวมทั้งพักให้พอเพียงร่วมด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชฯ ,คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, หมอชาวบ้าน

แสดงความคิดเห็น

ทิ้งคำตอบไว้

กรุณาใส่ความคิดเห็นของคุณ!
กรุณาใส่ชื่อของคุณที่นี่