จำให้ขึ้นใจ เมื่อโดนตรวจค้นรถ หรือค้นตัว 11 วิธี รู้เอาไว้เป็นประโยชน์
ในปัจจุบันนี้สังคมเราปะปนไปด้วยคนที่ดีและคนที่ไม่ดี บางครั้งเราไม่สามารถแยกแยะด้วยสายตาออก เราจึงควรที่จะรู้หลักของกฎหมายเอาไว้ เพื่อเป็นการป้องกันตัวเองและเป็นการรักษาสิทธิที่ตัวเองควรได้รับ
วันนี้เราขอแนะนำ วิธีรับมือ ทำอย่างไรเมื่อโดนตรวจค้นรถและค้นตัว พล.ต.ท. ประวุฒิ ถาวรศิริ ซึ่งเป็นอดีตโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ออกมาพูดถึงการบันทึกวีดีโอ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นรถและค้นตัว ว่าสามารถทำได้ หากไม่มีการไปขัดขวางการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ผิดกฎหมายแต่อย่างใด
1 ขอบันทึกวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน
ในระหว่างการตรวจค้น เราสามารถขอบันทึกวิดีโอไว้เป็นหลักฐานได้ โดยไม่เป็นการขัดขวางการทำงานของเจ้าหน้าที่ เพราะ ถือว่าเป็นการป้องกันสิทธิ์ของตนได้โดยชอบด้วยกฎหมาย
2 ก่อนการตรวจค้น
หากเราไม่มีสิ่งที่ผิดกฎหมาย ให้เราแจ้งแก่เจ้าหน้าที่ให้ทราบเลยว่า ขอบันทึกวีดิโอไว้เป็นหลักฐานขณะตรวจค้น ถ้าเรามีสิ่งของผิดกฎหมายก็จะได้เป็นพยานหลักฐานดำเนินคดีกับตัวของเราเอง แต่ถ้าไม่มีก็จะเป็นหลักฐานในการยืนยันความบริสุทธิ์ของตน
3 ตัวเราเองก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ
หากตัวเราเองมั่นใจว่าไม่มีสิ่งที่ผิดกฎหมายใดๆก็แล้วแต่ ก็ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจด้วยการดึงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้างขึ้น เพื่อให้เจ้าหน้าที่พนักงานตรวจสอบดูว่า เราบริสุทธิ์ใจและยินยอมให้ตรวจค้นแต่โดยดี หากเราเปิดกระเป๋าควรเปิดด้วยตัวเองเท่านั้นไม่ควรให้เจ้าหน้าที่มาทำการเปิดค้นเพื่อเป็นการป้องกันตัวเองเอาไว้ก่อน
4 ให้เจ้าหน้าที่แสดงความบริสุทธิ์ใจเช่นเดียวกัน
ก่อนการตรวจค้นเราก็ต้องขอให้เจ้าหน้าที่แสดงความบริสุทธิ์ใจเช่นเดียวกัน โดย ให้เจ้าหน้าที่ที่จะทำการตรวจค้นแสดงตนโดยเปิดเผย ไม่ใส่หน้ากากคุมหน้า ให้บอก ชื่อ ยศ ตำแหน่ง , แสดงบัตรประจำตัว , ตรวจดูมือ , ดึงเสื้อแขนยาวขึ้น, ล้วงกระเป๋าควักออกมาเพื่อให้เห็นว่าไม่มีสิ่งซุกซ่อนอยู่ และ โดยขอให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นเพียงคนเดียว และ ทำการบันทึกวีดิโอไปพร้อมๆกันในการตรวจค้นแต่ละจุดไปพร้อมกัน เพื่อเป็นหลักฐานทั้งสองฝ่าย
5 อย่าอายให้ตะโกนดังๆ ช่วยด้วยๆ
ขอความช่วย เหลือเมื่อเกิดเหตุการณ์ผิดปกติในการตรวจค้น เพื่อให้คนอื่นที่ผ่านไปมามองเห็น แล้วใช้วิกฤตเป็นโอกาส ให้คนที่มามุงใครก็ได้ช่วยถ่ายวีดีโอไว้ขณะนั้น หรือ ร้องขอให้ไทมุงช่วยโทรแจ้งนักข่าวมายังที่เกิดเหตุ
6 หากเกิดปัญหาขึ้น
หากเกิดปัญหาขึ้นให้รีบติดต่อญาติ หรือ คนใกล้ชิดให้ได้เร็วที่สุดให้มาหาเรา ณ จุดเกิดเหต สมมติว่าถ้าเราอยู่ตัวคนเดียวตะโกนดังว่าขอให้พี่ๆไทมุงอย่าเพิ่งไปไหนอยู่กันเยอะๆได้โปรดอยู่เป็นเพื่อนก่อน
7 ถ้าเราถูกควบคุมตัว
สำคัญมากๆ ถ้าเราถูกควบคุมตัว แล้วของกลางมิใช่ของๆเรา ห้ามหยิบ ห้ามจับ ห้ามแตะ เป็นอันขาดขอย้ำ เพราะ จะทำให้มีลายนิ้วมือเราไปปรากฎอยู่บนของกลาง
8 อย่าไปกลัวถ้าเราไม่ผิด
อย่าไปกลัวถูกซ้อม อย่าไปกลัวถูกข่มถูกขู่ถ้าเราไม่ผิดนั้น อย่าเซ็นชื่อลงในเอกสารใดๆทั้งสิ้น และ ถ้าจำต้องลงชื่อในเอกสารที่มีหลายแผ่นนั้นขอให้อ่านช้าๆ และ อ่านให้เข้าใจแต่ละหน้าซึ่งถ้าถ้อยคำหรือข้อความไม่ใช่หรือไม่ถูกต้องตามความเป็นจริงแล้วนั้นต้องขอให้แก้ไขให้เสร็จสิ้นเสียก่อนแล้วจึงลงชื่อย่อๆ แต่ละหน้าๆ เพื่อป้องกันการแก้ไขหรือเพิ่มเติม
9 อย่าชี้ตามที่เจ้าหน้าที่บอก
ถ้าเราไม่ได้กระทำความผิด อย่าชี้จุเกิดเหตุให้ถ่ายภาพ หรือ อย่าชี้ของกลาง ถ้าไม่ใช่ของเราอย่าชี้เป็นอันขาด
10 ขณะถูกควบคุมตัว
ขณะถูกควบคุมตัวให้ญาติ,พี่น้อง,คนไว้วางใจ นั่งเฝ้าจนกว่าจะนำตัวส่งศาล และ ทำการร้องขอให้จนท.ติดตามผู้ซึ่งไว้วางใจหรือ ทนาย ความ เข้าฟังการสอบสวนจนกว่าจะแล้วเสร็จ
11 ถ้าเราไม่ผิดให้สวมวิญญาณนักร้อง (เรียน)
ถ้าเราไม่ผิดควรเข้าร้องเรียนเพื่อร้องขอความเป็นธรรมต่อสื่อมวลชน และ สื่อตามโซเชียลต่างๆ ซึ่งสามารถเป็นกระแสได้ไวมากกับข่าวแบบนี้
สรุปทั้ง 11 ข้อ กรณีดังกล่าวนี้เราสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และพฤติกร รมต่างๆที่เกิดขึ้น เชื่อว่า 11 ข้อนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคน
บทความดังกล่าวไม่ได้มีเจตนาพาดพิงถึงบุคคลอื่นใด หรือองค์กรใดๆเลย เพียงแต่นำเสนอเพื่อเป็นความรู้วิทยาทานในการป้องกันตัว และเป็นการรักษาสิทธิที่ทุกคนควรได้รับเท่าเทียมกัน
เรียบเรียงโดย : Postsod
ขอขอบคุณ : bitcoretech